แม้คอลัมน์นี้จะเขียนเล่าเรื่องราวความเป็นไปในอเมริกา แต่หากอยู่ในหัวข้อเดียวกัน ก็อาจจะมีการเปรียบเทียบให้เห็นความเหมือนและความต่างระหว่างอเมริกาและไทย ตอนนี้สถานการณ์โควิดในไทยน่าวิตก เพราะยอดป่วยรายวันแตะหมื่น และยอดคนเสียชีวิตสูงทุกวัน ที่น่ากังวลคือตอนนี้เป็นการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อินเดีย ที่ก่อนหน้านั้นมีข่าวออกมาทุกวันว่า ศพเกลื่อนอินเดีย จนเผาไม่ทันหรือลอยตามน้ำอย่างน่าสยดสยอง
สัดส่วนการระบาดในไทยตอนนี้เป็นสายพันธุ์เดลต้าเกิน 60 เปอร์เซนต์ หนักสุดคือเฉพาะในกรุงเทพที่พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลต้าถึง 75 เปอร์เซนต์ นอกนั้นเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ใครจะเรียกอัลฟ่าหรือเบต้าเดลต้าอะไรนี่ สำหรับคนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านนี้จำไม่ได้หรอก เรียกสายพันธุ์อินเดียนี่แหละชัดเจนดี ทีเมื่อร้อยกว่าปีก่อนยังเรียกสายพันธุ์สเปนกันทั้งโลกเลยนี่
ความน่ากลัวของเดลต้าคือแพร่กระจายไปทั่วโลก แทนที่สายพันธุ์อู่ฮั่น ประเด็นที่ชาวโลกควรกังวลคือ ตอนที่สายพันธุ์อู่ฮั่นระบาด จากหนึ่งคนสามารถแพร่เชื้อได้ 2 คน แต่เดลต้านั้นจากหนึ่งคนแพร่ได้ 8 คน ถึงได้ครองโลกในเวลานี้ แถมระบาดไว เมื่อจำนวนคนป่วยมากขึ้นๆ ก็ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขล้มเหลว
ไวรัสไม่ยอมตายง่ายๆ เหมือนพวกเรานี่แหละ ดัดแปลงจนมันกลายพันธุ์ไปเรื่อย ทำให้แพร่กระจายและติดกันง่ายกว่าเก่า สายพันธุ์เดิมมีลักษณะเป็นลูกกลมมีหนามทู่ๆ แต่สายพันธุ์เดลต้าปรับตรงหนามทู่ๆ เป็นหนามแหลมเพื่อแทรกแนบกับเซลล์ในร่างกายเราได้สนิท เห็นความร้ายกาจของเดลต้าหรือยัง
หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้ววิธีการป้องกันตัวแบบเดิม กินร้อน ช้อนกู อยู่ห่าง ล้างมือ ถือเจล อะไรนี่ยังใช้ได้หรือเปล่า เพราะเดลต้ามาแรงแซงโค้งทุกสายพันธุ์ขนาดนี้ ขอตอบว่ายังใช้ได้ แต่ต้องเพิ่มระดับความเข้มอีกนิด เช่น การล้างมือ แต่ก่อนนับไป 20 วินาที ตอนนี้ไม่พอแล้ว ให้ร้องเพลงช้างๆๆๆๆ 2 จบ แล้วล้างน้ำที่เปิดแรงๆ ต่ออีก 15 วินาที รวม 35 วินาที น่าเบื่อหน่ายแต่จำเป็นต้องทำ
หากมีวัคซีนให้ฉีดก็ไปฉีดเถอะ วัคซีนเทพไฟเซอร์โมเดอร์น่าที่เชื่อกันว่าชนะสิบทิศ บอกเลยว่าเจอเดลต้าก็เป๋เหมือนกัน เพราะสรรพคุณด้อยลงเกือบครึ่ง ตอนนี้อเมริกากลับมางอมพระรามอีกรอบ แต่ดูเหมือนว่าอเมริกันยังไม่สำเหนียกว่าการระบาดกลับมาอีกแล้ว ยังคงถอดหน้ากากลั่นล๊ารายวันอย่างน่าหวาดเสียว เพราะต่อให้ฉีดไฟเซอร์ครบสองเข็มแล้วยังติดได้ เรื่องนี้น่าปวดหัวสุดๆ พูดกันจนปากเปียกปากแฉะ อเมริกันส่วนมากที่ฉีดวัคซีนครบ ก็ยังโคตรมั่นใจในตัวเองว่า มีเกราะป้องกันอันยอดเยี่ยม จนทำตัวเหมือนไม่รู้จักโรคที่ชื่อโควิดอีกต่อไป สุดท้ายก็ติดโควิดทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้วนี่แหละ
ตอนนี้คนอเมริกันยังฉีดวัคซีนครบสองเข็มไม่ถึง 70 เปอร์เซนต์ พอมีคำสั่งว่าให้คนที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็ม สามารถถอดหน้ากากได้ อเมริกาพันธุ์มั่วสายเนียนก็ถอดด้วยเหมือนกัน เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ชอบใส่หน้ากากและไม่ยอมฉีควัคซีน ยอดป่วยยอดตายลดไปได้สองเดือน ทั้งที่จะว่าไปก็อาจจะไม่ได้ลดมากหรอก แต่ทางการหยุดนับทุกเคสตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม นับแค่เคสที่อาการหนักเท่านั้น เลยดูเหมือนว่ายอดป่วยลดลง เพราะไม่ปรากฎในกราฟ ซึ่งจะว่าไปเหมือนการซุกขยะไว้ใต้พรมดีๆ นี่เอง
ช่วงสองเดือนที่ว่ายอดลดลงเนี่ยเป็นช่วงหน้าร้อน เป็นปกติของอเมริกันที่จะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ยิ่งมีการเนียนมั่วไม่ใส่หน้ากากแล้วด้วย คงเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเดลต้าระบาดเงียบมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ผลคือยอดป่วยพุ่งกระฉูดขึ้นมาอีกรอบ
ตอนนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นถึง 70 % ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบว่าคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาโควิด 97% คือคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ยอดป่วยเลยพุ่งกระฉูดหยุดไม่อยู่ ในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ หนนี้เดลต้าบุกหนักไปทางใต้ของประเทศ
ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกา (ซีดีซี) ระบุว่า 5 รัฐที่พบเคสใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาล้วนเป็นรัฐที่มีสัดส่วนประชากรที่ฉีดวัคซีนต่ำ ได้แก่ มิสซูรี 45.9% อาร์คันซอส์ 43% เนวาดา 50.9% หลุยเซียนา 39.2% และยูทาห์ 49.5%
ไม่ใช่เฉพาะรัฐทางใต้ แต่ไอ้รัฐเต็ง 5 นี่ก็กลับมาครองแชมป์เหมือนเดิม บอกอีกครั้งสำหรับคนที่ไม่ได้เกาะติดข่าวสารในอเมริกา รัฐที่มียอดป่วยสูงสุด 5 อันดับ แบบไม่มีใครแย่งตำแหน่งคือเต็งหนึ่งมาตลอดคือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ฟลอริด้า นิวยอร์ก และอิลลินอยส์ เห็นไหมล่ะ..เน็ตไอดอลไทยที่นิวยอร์ก ถอดหน้ากากอวดโลกเนี่ย เดลต้าไปเยือนมาพักใหญ่แล้วนะจ๊ะ แต่เชื่อว่าความมั่นหน้า เหนือการไปถึงของข่าวสาร
เห็นเน็ตไอดอลไทยที่ไปฉีดวัคซีนในอเมริกา บอกว่าคนอเมริกันใช้ชีวิตปกติแล้ว ถอดหน้ากากฉลองแล้วจ้า รบกวนช่วยอ่านข่าวนี้ดังๆ ร้อยจบด้วย ..แอลเอประกาศให้ใส่หน้ากากทั้งพวกที่ฉีดวัคซีนและไม่ได้ฉีดวัคซีน คือทุกคนต้องใส่นั่นแหละ เพราะยอดป่วยพุ่งลิ่วอีกรอบ ล่าสุดทางการลอสแองเจลิสต้องประกาศว่าให้ทุกคนกลับมาใส่หน้ากากใหม่ ไม่ว่าจะฉีดหรือไม่ฉีด
วิคัส ปาเรคห์ ศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า เคสผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นในอเมริกามีปัจจัยหลายอย่าง อย่างแรกคือสายพันธุ์เดลตา อย่างที่สองคือการออกไปแรดช่วงหน้าร้อน อย่างที่สามคือ การ์ดตกทั้งชาติ ไม่เว้นระยะห่างและไม่สวมหน้ากาก อย่างที่สี่คือ ไม่ยอมฉีดวัคซีน ทั้งหมดคือสาเหตุที่ทำให้ยอดคนป่วยเพิ่มขึ้น
ผู้เขียนนั้นนั่งดูกราฟการติดเชื้อและอัตราการตายทั้งอเมริกาและในรัฐตัวเองทุกวัน เลยเห็นว่าเคาต์ตี้ไหนที่ยังเป็นสีเทาและสีส้ม ซึ่งหมายถึงฉีดวัคซีนไม่ถึงครึ่งของจำนวนประชากร โควิดรอบใหม่บุกทันที แม้เคาต์ตี้ที่อยู่จะเป็นสีฟ้าคือเกินครึ่งมานิดหนึ่งก็ตาม แต่หากเคาต์ตี้โดยรอบยังเป็นสีเทาและส้มก็น่ากังวล แล้วคนอเมริกันไม่ใช่จะอยู่ติดบ้าน เดินทางข้ามประเทศกันเป็นว่าเล่น แบบนี้จะไม่ให้แพร่ระบาดอีกรอบได้อย่างไร
ส่วนเรื่องวัคซีนเข็มสามยังเป็นประเด็นอยู่ในอเมริกา ในขณะที่อิสราเอลฉีดไฟเซอร์เข็มสามให้คนในชาติตนไปแล้ว ไฟเซอร์เลยมาเลียบๆ เคียงๆ ถามลุงแซมว่า แล้วยูไม่เอาด้วยเหรอ เอาหน่อยซี้..ไอจะได้เงินเพิ่ม
ลุงแซมกลืนน้ำลายเอื๊อก คงแอบนึกในใจ ฟ้ากกกกกก..ขนาดให้พวกมันไปฉีดครบสองเข็มยังไม่ได้ตามเป้าเลย นี่บริษัทยูมาเย้วๆ ให้ฉีดเข็มสามเหรอวะ สรุปเลยคือตอนนี้อเมริกายังไม่มีการฟันธงเรื่องวัคซีนเข็มสามแต่อย่างใด โปรดเข้าใจตามนี้นะ ที่รัก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี