วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ฝันไปเรื่อยของ ทักษิณ ชินวัตร
นักการเมืองคนแล้วคนเล่า เมื่อหมดอำนาจจะด้วยการปฏิวัติ รัฐประหาร หรือแพ้การเลือกตั้ง เขาก็จะอยู่ของเขาเงียบๆ ไม่ออกมาเอะอะโวยวายโทษโน่นนี่ ไม่ว่าจะเป็นยุคหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 หรือช่วงหลังๆ เป็นต้น นายปรีดี พนมยงค์ หลังเหตุการณ์กบถวังหลวงก็ไปลี้ภัยที่สาธารณรัฐประชาชนจีน จอมพล ป. เมื่อถูก สฤษดิ์ยึดอำนาจก็หนีไปเขมร แล้วไปจบชีวิตที่ญี่ปุ่น พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ต้องไปใช้ชีวิตที่สวิสเซอร์แลนด์ พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ต้องไปศึกษาต่ออังกฤษ เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นก็กลับประเทศ
ดูเหมือนจะมี ที่เอะอะโวยวายอยู่รายเดียวคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่โดนยึดอำนาจเมื่อปี 2549 แล้วกลับมากราบแผ่นดินไทยในยุคที่เขาคิดว่า นายกรัฐมนตรี คือ นายสมัคร สุนทรเวช เขาสามารถบอกได้ใช้ฟัง แต่ก็ต้องเผ่นออกไป เมื่อเขารู้ว่า เงินมหาศาลของเขา ไม่สามารถซื้อศาลได้ โดยการทดลองให้ขี้ข้าม้าใช้เอาไปทำหล่นที่ศาล 2 ล้านบาท
นอกจากศาลไม่เล่นด้วย ยังเล่นงานขี้ข้าม้าใช้นั่นด้วยการให้เข้าไปสงบสติอารมณ์ในคุกอีกต่างหาก จะได้เป็นตัวอย่างว่า อย่ามาทะลึ่งกับศาล
จากนั้น ทักษิณมันก็เผ่นออกนอกประเทศ อ้างกับศาลว่าจะไปดูกีฬาโอลิมปิคเกมส์ที่ปักกิ่ง
ตอนนี้กีฬาโอลิมปิคผ่านไปหลายรอบ หลายประเทศแล้ว ทักษิณก็ยังเป็นสัมพะเวสี ร่อนเร่อยู่ต่างประเทศ แม้บางคดีจะหมดอายุความไปแล้ว ก็มีคดีอื่นอีกหลายคดี ทั้งที่ตัดสินไปแล้ว และ ยังมีที่ศาลจะต้องพิจารณาอีก
ตลอดเวลาที่ระเหระหนอยู่ต่างประเทศ ทักษิณก็พยายามอย่างหนักที่จะกลับประเทศให้ได้ เริ่มจากที่จะต้องมีรัฐบาลที่บอกได้ใช้ฟัง อย่างรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แต่ก็ไม่ทันใจเปลี่ยนไปใช้บริการของน้องเขย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีก เพราะนายสมชายอยู่ได้ไม่นานก็ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะมีกรรมการบริหารพรรคทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
จนที่สุด ได้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่ประสีประสาการเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ลงมือช่วยเหลือพี่ชายด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พี่ชาย แต่ก็ถูกประชาชนออกมาต่อต้านอย่างหนัก จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารขึ้น เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557
ตั้งแต่ออกนอกประเทศหนีคุก ทักษิณก็เอะอะโวยวายตลอดเวลา ไม่เคยหยุด อ้างว่าตัวถูกกลั่นแกล้ง อ้างว่าศาลไม่เป็นธรรม แต่ทักษิณไม่เคยเอาเหตุเอาผลมาลบล้างคำพิพากษาของศาลเลย
เป็นต้นคดีแรกที่ทักษิณต้องหนีคือ คดีที่ดินรัชฎาฯ ที่เมียทักษิณซื้อในช่วงที่ทักษิณเป็นนายกฯ ที่ดินตรงนั้นราคาซื้อขายกัน 2 พันล้านบาท เมียทักษิณซื้อในราคา 8/900 ล้านบาท ทักษิณมันกลัวเมียมันเสียภาษีซื้อขายที่ดินมาก มันให้วันที่ 31 ธันวาคมเป็นวันราชการ เพื่อให้เมียมันโอนที่ดินทัน ที่ดินตรงนั้นเดิมไม่ให้สร้างตึกสูง พอเมียมันซื้อ มันก็ยกเลิกข้อห้ามสร้างตึกสูง
ดูมันทำ
ยังมีคดีอื่นอีกที่มันแสวงหาประโยชน์เพื่อตัวมันและครอบครัวของมัน เป็นต้นให้พม่ากู้เงิน โดยเงินที่กู้นั้น เข้าบริษัทของครอบครัวมัน ออกหวย 2 ตัว 3 ตัว มีรายได้ไม่เอาเข้ารัฐ แต่เก็บไว้ให้มันใช้ ยามที่มันทัวร์นกขมิ้น หาเสียงของมัน
ฯลฯ
ผู้คนที่ติดตามข่าวสาร ติดตามอ่านคำพิพากษาของศาล มันก็หลอกไม่ได้ นักการเมือง นักวิชาการแอคติวิสต์บางคนอาจจะติดตามแต่การทำตัวเป็นขี้ข้ามัน เป็นบริษัทบริวารของมันได้ประโยชน์ ได้มีอยู่มีกิน ได้น้ำแกง ได้กระดูก ก็ยังรับใช้มันต่อไป เห่าหอนให้มันต่อไป
มิไยว่า ทักษิณมันจะเปรียบเปรย เป็นหมูเป็นหมาก็ตาม
มาถึงวันนี้ สภาชุดนี้กำลังจะหมดอายุลงแล้ว อีกไม่นานก็จะต้องมีการเลือกตั้งทั่วไป ความหวังของมันจึงพลุโพลงขึ้นมาอีก ด้วยหวังว่าจะมีเหตุการณ์ อย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้วสมัย ส่งนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ไม่ประสีประสาทางการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
คราวนี้ถ้าได้ นายกรัฐมนตรีที่บอกได้ใช้ฟังอีกที จะไม่มีการยกร่าง พรบ. นิรโทษกรรม ให้เป็นที่ถกเถียง และทำให้เสียเวลา เข้าสภาวาระ 1 วาระ 2 วาระ 3อีก
พวกมันจะทำอย่างไร ?
บทเรียนจากสมัยนายสมัคร นายสมชาย จนถึงยิ่งลักษณ์ พวกมันเห็นแล้วว่า ใช้เวลาเนิ่นนาน ระหว่างที่ใช้เวลาอยู่นั้น ก็อาจจะเกิดกระแสต่อต้าน อย่างที่เคยเกิดมาแล้ว และก็ไม่ประสบความสำเร็จมาแล้ว
อย่ากระนั้นเลย คราวนี้ถ้าเกิดแลนด์สไลด์ พรรคของทักษิณได้เสียงข้างมาก ได้เป็นรัฐบาล ก็ออกเป็นพระราชกำหนด เสียเลย
เนื้อหาของพระราชกำหนด ก็เขียนเสียว่า การณ์อันใดก็ตามที่เกิดจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ให้เป็นโมฆะ
คดีต่างๆก็จะได้จบ ทักษิณก็จะได้กลับอย่างเท่ๆ
เมื่อออกพระราชกำหนดไปแล้ว ก็ต้องให้สภาพิจารณา ถ้าสภาไม่ผ่าน ก็ตกไป แต่พวกมันคิดว่า พระราชกำหนดตกไป ก็ตกไป แต่อะไรที่เกิดขึ้นตามพระราชกำหนด ก็เกิดขึ้นไปแล้ว มีผลไปแล้ว
ช้าก่อน !
มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ มาตรา 172 เขาเขียนเอาไว้แล้ว
มาตรา172 ในกรณีเพื่อประโยชน์อันจะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำหนดใช้บังคับเช่นพระราชบัญญัติก็ได้
การตราพระราชกำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้
เอาละ ถ้าคณะรัฐมนตรี เขาเห็นความจำเป็น ความเร่งด่วน อันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ก็อาจจะหน้าด้านทำให้ทักษิณมัน
แต่มันก็จะตกม้าตายอยู่ดี หากมีใครเอาเรื่องนี้ร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ
เพราะมาตรา 173 เขียนเอาไว้ว่า ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พระราชกำหนดใดไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 1 72 วรรคหนึ่งให้พระราชกำหนดนั้นไม่มีผลใช้บังคับมาแต่ต้น
เพราะฉะนั้น ไอ้ที่คิดว่า มันจะมีผล อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาที่ประกาศ จนถึงช่วงสภาตีตก ก็อย่าหวัง
นอกจากจะหวังว่า จะโชคดีเหมือนครั้งที่ศาลพิจารณาคดีซุกหุ้นเมื่อตอนที่เข้ามาสู่อำนาจใหม่ๆปี 2540 โน่น
จะสู้ไหวรึเปล่า
หาช่องทางได้หรือยัง
ที่สำคัญ เข้าใจว่า ประชาชนที่รักชาติ รักบ้านรักเมืองจะหลับใหลหรือ ?
สำเริง คำพะอุ

กู้หน้าส.บอล! ฟุตซอลไทยแพ้ไม่ได้ลุ้นทองดวลอิเหนาคืนนี้
บิ๊กเนมมาแล้ว1 ไทยก้าวใหม่เปิดตัว 'ตั๊น จิตภัสร์' ลงปาร์ตี้ลิสต์ นั่งหัวหน้าทีมเสมอภาค
กห. ส่งรองเสธ.ทหาร ร่วมถก รมว.กต.อาเซียน ย้ำจุดยืน ไทยหยุดยิง หากกัมพูชาสิ้นปฏิปักษ์ชัดเจน
รมว.กลาโหม ให้โอวาททหารผ่านศึก โครงการ พลังทหารผ่านศึกเพื่อแผ่นดิน
พงศ์กวิน เตรียมแผน ยศชนัน ช่วยหาเสียง กทม. สัปดาห์หน้าเพื่อไทยเปิดตัว สส. 400 เขต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี