วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ออนไลน์ / ราชดำเนินอเวนิว
ราชดำเนินอเวนิว

ราชดำเนินอเวนิว

โดย...
วันศุกร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 18.52 น.
อิทธิพลฝ่ายต่าง ๆ ในระบอบการเมืองไทย กับ ชะตากรรมของฝ่ายทักษิณ

ดูทั้งหมด

  •  

หลังการรัฐประหารโค่นรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่นำโดย จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา การเมืองไทยตกอยู่ในอิทธิพลครอบงำของ ฝ่ายขุนศึก กับ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม อย่างชัดเจน

อิทธิพลภายในประเทศทั้งสองนี้ดำรงอยู่ภายใต้อิทธิพลจากภายนอกของสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาแทรกแซงบงการการเมืองและการทหารของผู้กุมอำนาจรัฐไทยอย่างเปิดเผยจนถึงปี พ.ศ. 2518 เป็นอย่างน้อย 


กล่าวเฉพาะอิทธิพลภายในประเทศ ตลอด 60 กว่าปีที่ผ่านมา อิทธิพลฝ่ายขุนศึกกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นสองอิทธิพลหลักที่ครอบงำการเมืองไทย ต่างพึ่งพิงซึ่งกันและกัน จะมีความขัดแย้งรุนแรงบ้างก็เป็นครั้งคราวและในช่วงสั้น ๆ เพราะศัตรูร่วมที่สำคัญของพวกเขาเวลานั้นคือ อิทธิพลฝ่ายก้าวหน้าที่ต่อสู้อยู่ทั้งในรัฐสภาและนอกรัฐสภา

นอกจาก 2 อิทธิพลหลัก และ 1 อิทธิพลรอง ยังมีอิทธิพลที่ 4 คือ อิทธิพลฝ่ายทุนนิยมขุนนาง ซึ่งก็คือ กลุ่มทุนที่กุมอำนาจรัฐไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจะมาจากคนในเครื่องแบบหรือนอกเครื่องแบบ และไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายตนมาจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมหรือฝ่ายขุนศึกก็ตาม อิทธิพลนี้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่อิทธิพลฝ่ายขุนศึกถดถอยลง เปิดโอกาสให้อิทธิพลอนุรักษ์นิยม และ ทุนนิยมขุนนางที่มิได้เคลื่อนย้ายตนมาจากฝ่ายขุนศึก มีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มทุนนิยมขุนนางของทักษิณขึ้นกุมอำนาจรัฐอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา ทุนนิยมขุนนางของทักษิณ เป็นกลุ่มทุนที่ทำตนเป็นคู่แข่งกับอิทธิพลฝ่ายขุนศึกและฝ่ายอนุรักษ์นิยมอย่างเปิดเผย และตั้งหน้าตั้งตากอบโกยโกงกินขณะกุมอำนาจรัฐอยู่อย่างเปิดเผยด้วยเช่นกัน จนถูกประชาชนและอิทธิพลฝ่ายก้าวหน้าต่อสู้คัดค้าน และถูกอิทธิพลฝ่ายขุนศึกและฝ่ายอนุรักษ์นิยมสามัคคีกันเล่นงานครั้งแล้วครั้งเล่า

ส่วนอิทธิพลของฝ่ายทุนนิยมที่มิได้กุมอำนาจรัฐนั้น ที่ผ่านมาล้วนอิงแอบแนบชิดอยู่กับฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายขุนศึกในลักษณะของการรับอุปถัมภ์เพื่อปกป้องและพัฒนาทุนของตน โดยมีเงินตรา ทุน หุ้น ฯลฯ มอบให้อิทธิพลที่ตนอิงแอบแนบชิดอยู่เป็นการตอบแทน อิทธิพลนี้พร้อมสนับสนุนทุกอิทธิพลที่กุมอำนาจรัฐแลกกับประโยชน์ที่ตนจะได้รับจากการอุปถัมภ์ค้ำจุน

การเมืองไทยในปัจจุบัน ที่เลือกตั้งมาแล้วกว่า 3 เดือน แต่ยังจัดตั้งรัฐบาลกันไม่ได้ เป็นผลิตผลของสภาวะความจริงที่การเมืองตกอยู่ใต้อิทธิพลของฝ่ายต่าง ๆ 5 ฝ่ายข้างต้น ที่ทั้งสมคบกันและต่อสู้กัน เนื่องจากแต่ละฝ่าย ต่างมีจุดมุ่งหมายเฉพาะของฝ่ายตนที่ทั้งเหมือนกันและแตกต่างกัน อาทิ

ฝ่ายขุนศึกที่มีพรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแทนสำคัญ ต้องการสืบทอดอำนาจที่ยึดมาเกือบ 10 ปีของตน เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาลิดรอนอำนาจและเช็คบิลฝ่ายตน

ฝ่ายอนุรักษ์นิยมต้องการรักษาสถานะเดิม ขยายอิทธิพลบารมี และสกัดกั้นการขึ้นมามีอำนาจของพรรคการเมืองที่มีนโยบายเป็นปฏิปักษ์ต่อตน ก่อนอื่นคือพรรคก้าวไกล ต่อไปคือพรรคเพื่อไทย

ฝ่ายทุนนิยมขุนนางของทักษิณ ซึ่งก็คือพรรคเพื่อไทย ต้องการกู้ความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกล โดยหวังเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนำทักษิณกลับบ้าน ในขณะที่พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และแม้แต่พรรครวมไทยสร้างชาติที่เจ้าของพรรคตัวจริงคือนายทุนพลังงาน ต้องการร่วมรัฐบาล และกุมกระทรวงสำคัญที่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนของตน

ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรือ ฝ่ายก้าวหน้า (ซึ่งจุดยืน ทัศนะ และวิธีการ แตกต่างจากฝ่ายก้าวหน้าเมื่อ 50 – 60 ปีที่แล้ว) ซึ่งก็คือพรรคก้าวไกล (ที่บุคคลซึ่งสังคมมองว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณคนหนึ่งของพรรคนี้ โดยธาตุแท้แล้วก็คือ ทุนนิยมขุนนางอีกกลุ่มหนึ่ง) ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ตนเห็นว่าผุโทรมไปตามความคิดของตนด้วยการโค่นล้มทำลายสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วยอย่างไม่ประนีประนอม ไม่เว้นแม้สถาบันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเทิดทูนหวงแหน และสถาบันทหารที่ระยะหลังสูญเสียดุลอำนาจจนฝ่ายขุนศึกไม่อาจยอมให้ฝ่ายประชาธิปไตยมาถ่วงดุลไปอีก

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่พรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะอิทธิพลที่เหลืออีก 4 ฝ่าย ต่างตื่นตระหนกกับนโยบายและคะแนนนิยมที่พรรคนี้ได้รับ จึงรวมตัวกันเป็นพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์สกัดกั้นพรรคนี้ โดยใช้เงื่อนไขเรื่อง ม. 112 ที่ทำให้ตนดูดีว่าเป็นฝ่ายที่จงรักภักดีต่อสถาบัน ทั้งที่ความจริงใช่ว่าทุกคนในทุกพรรคทุกฝ่ายที่กล่าวมานี้จะมีความจงรักภักดีอย่างที่ตนแอบอ้างจริง ๆ

วันนี้เกมการชิงอำนาจรัฐ เลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นการต่อสู้แย่งชิงกันระหว่างอิทธิพลฝ่ายทุนนิยมขุนนางของทักษิณฝ่ายหนึ่ง กับ อิทธิพลขุนศึกที่จับมือกับอิทธิพลอนุรักษ์นิยมอีกฝ่ายหนึ่ง

ส่วนอิทธิพลฝ่ายทุนนิยมขุนนางกลุ่มอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรครวมไทยสร้างชาติที่เจ้าของพรรคตัวจริงคือนายทุนพลังงาน รวมทั้งอิทธิพลฝ่ายทุนนิยมที่มิได้อยู่ในอำนาจรัฐแต่อิงแอบแนบชิดอยู่กับผู้กุมอำนาจรัฐ อันได้แก่บรรดาเจ้าสัวทั้งหลายนั้น ต่างถือคติ “ชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือ”

พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นตัวแทนทางการเมืองของอิทธิพลฝ่ายทุนนิยมขุนนางของทักษิณ ที่หวังจะให้แคนดิเดตจากพรรคตนได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพื่อเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนำทักษิณกลับบ้าน วันนี้กำลังเผชิญมรสุมขนาดหนักที่ถาโถมเข้ามาลูกแล้วลูกเล่า ไม่ต่างจากสมัยที่พรรคก้าวไกลเผชิญมาแล้ว ทั้งยังจะหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ ทั้งนี้เพราะ

ประการแรก นอกจากมรสุมลูกแรกที่ตนก่อขึ้นเอง จากการฉีก MOU 8 พรรค หันไปร่วมมือกับพรรครัฐบาลเดิม ที่ทำให้คนหย่อนบัตรเลือกพรรคฝ่ายนี้หลายสิบล้านคนไม่พอใจแล้ว ยังก่อมรสุมลูกที่สอง ด้วยการตระบัดสัตย์เชื้อเชิญพรรคพลังประชารัฐกับพรรครวมไทยสร้างชาติอันเป็นพรรค 2 ลุงที่เป็นตัวแทนของฝ่ายขุนศึกที่เคยทำรัฐประหารตนมาร่วมเป็นรัฐบาล ด้วยเหตุผลข้ออ้างว่า “ประเทศชาติต้องเดินต่อ” ทั้งที่ก่อนหน้านี้เวลาหาเสียงด่าพวกขุนศึกกับพวกอนุรักษ์นิยม ก็จะอาศัยวาทกรรม “99 ศพ” มาหากิน

ก่อนและหลังการเลือกตั้งใหม่ ๆ หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคทุกคนต่างยืนยันว่าจะไม่จับมือกับพรรคลุง หมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเคยประกาศตอนหาเสียงว่า จะลาออกจากหัวหน้าพรรค ถ้าเพื่อไทยไปจับมือกับพลังประชารัฐ

อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เคยยืนยันว่าไม่มีวันจับมือคนทำรัฐประหาร “ดูหน้าดิฉันไว้ !”

ส่วนนายเศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็เคยกล่าวว่า “เรายึดโยงกับประชาชน ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอา 2 ป. แน่”

พฤติกรรมตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนของแกนนำพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ที่ไม่ต่างกับการตระบัดสัตย์ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยครั้งของทักษิณที่หลอกให้คนเสื้อแดงสู้เพื่อตน หลอกว่าตนจะกลับบ้านวันโน้นวันนี้ เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่มวลชนคนเสื้อแดงส่วนใหญ่จะหันหลังให้กับพรรคเพื่อไทยและทักษิณไปตลอดกาล นี่คือราคาที่แพงที่สุดที่พรรคเพื่อไทยและอิทธิพลฝ่ายทุนนิยมขุนนางของทักษิณต้องจ่าย

ประการต่อมา การแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่ยังไม่ลงตัว อาจทำให้ในที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถรวมเสียงได้ตามเป้า แต่แม้จะรวมเสียงได้ พรรคเพื่อไทยก็จะต้องสูญเสียเก้าอี้สำคัญ ๆ ไปเกือบหมด จนแทบไม่เหลืออะไรในมือเลย เพียงเพื่อแลกกับการพาทักษิณเจ้าของพรรคตัวจริงกลับบ้าน

ประการสุดท้าย นายเศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มีความ เป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา จากข้อกล่าวหาของนายชูวิทย์เรื่องการเลี่ยงภาษีที่ดินและการใช้นอมินีซื้อที่ดิน ไม่นับเรื่องที่เคยสนันสนุนการแก้ไข มาตรา 112 และแม้พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนตัวแคนดิเดตจากนายเศรษฐา มาเป็นอุ๊งอิ๊ง หรือ นายชัยเกษม แต่ถึงที่สุดแล้ว ชะตากรรมของพรรคเพื่อไทย ตัวแทนอิทธิพลฝ่ายทุนนิยมขุนนางของทักษิณ ก็อยู่ในมือของอิทธิพลฝ่ายขุนศึกที่เป็นพันธมิตรกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งกุมเสียง ส.ว. ที่พรรคเพื่อไทยยังต้องการอีกราว 60 เสียง จะได้เป็นหรือไม่ได้เป็น ก็อยู่ที่ 60 เสียงนี้

ถ้าฝ่ายขุนศึกกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมฉลาดพอ ก็คงรับเงินจากทักษิณ แล้วยึดเอาเก้าอี้สำคัญ ๆ ที่ตนต้องการมาไว้ ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยรับเผือกร้อนในการบริหารประเทศและรับมือกับมวลชนในการนำทักษิณกลับบ้านอย่างเท่ ๆ ต่อไป

แต่ถ้าฝ่ายขุนศึก อยากนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเอง อยากให้คนพยุงปีกขึ้นมาก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยตัวเอง ก็ต้องพร้อมเผชิญชะตากรรม ซึ่งจะไม่ง่ายอย่างที่คิด

การเมืองไทยวันนี้ ฝ่ายที่สูญเสียที่สุด น่าจะเป็น พรรคเพื่อไทย ตัวแทนอิทธิพลทุนนิยมขุนนางของทักษิณ ซึ่งอาจทำให้อิทธิพลนี้ถดถอยน้อยลงจนถึงขั้นไม่มีนัยสำคัญต่อการเมืองไทยไประยะหนึ่งเลยทีเดียว ในขณะที่อิทธิพลฝ่ายขุนศึกกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมนั้น มีแต่ได้ ถ้าไม่โลภมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีด้วยตัวเอง

ส่วนพรรคก้าวไกลนั้น แม้จะสูญเสียโอกาสในการครองอำนาจรัฐ แต่สิ่งที่ได้มาคือฐานมวลชน ซึ่งจะเป็นปัญหาให้อิทธิพลขุนศึก กับ อิทธิพลอนุรักษ์นิยม ต้องขบคิดหาทางรับมือต่อไป

ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส

๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๖

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
20:17 น. มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68
20:16 น. (คลิป) แนวหน้าTAlk : 'กูพูดไม่ได้' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง
20:13 น. เพลิงไหม้วอด! กระบะยางแตก พุ่งลงข้างทางมอเตอร์เวย์ M6
19:33 น. สุดกลั้น! 'นุ่น ดารัณ'เปิดบทเรียนเข้มงวดจนลูกหนีออกจากบ้าน
19:17 น. (คลิป) เมื่อลูกศิษย์ ไม่ได้ความเป็นธรรม 'ครูแพทย์จึงเสียน้ำตา' เมื่อ 'หมอตัวโต' ปกป้องนักการเมืองชั่วๆ
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สุดกลั้น! 'นุ่น ดารัณ'เปิดบทเรียนเข้มงวดจนลูกหนีออกจากบ้าน

(คลิป) แนวหน้าTAlk : 'กูพูดไม่ได้' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง

มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68

เพลิงไหม้วอด! กระบะยางแตก พุ่งลงข้างทางมอเตอร์เวย์ M6

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

'นายกฯ'ยินดี พระสันตะปาปาลีโอที่ 14 ได้ตำแหน่งสันตะปาปาองค์ที่ 267

  • Breaking News
  • มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68 มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68
  • (คลิป) แนวหน้าTAlk : \'กูพูดไม่ได้\' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง (คลิป) แนวหน้าTAlk : 'กูพูดไม่ได้' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง
  • เพลิงไหม้วอด! กระบะยางแตก พุ่งลงข้างทางมอเตอร์เวย์ M6 เพลิงไหม้วอด! กระบะยางแตก พุ่งลงข้างทางมอเตอร์เวย์ M6
  • สุดกลั้น! \'นุ่น ดารัณ\'เปิดบทเรียนเข้มงวดจนลูกหนีออกจากบ้าน สุดกลั้น! 'นุ่น ดารัณ'เปิดบทเรียนเข้มงวดจนลูกหนีออกจากบ้าน
  • (คลิป) เมื่อลูกศิษย์ ไม่ได้ความเป็นธรรม \'ครูแพทย์จึงเสียน้ำตา\' เมื่อ \'หมอตัวโต\' ปกป้องนักการเมืองชั่วๆ (คลิป) เมื่อลูกศิษย์ ไม่ได้ความเป็นธรรม 'ครูแพทย์จึงเสียน้ำตา' เมื่อ 'หมอตัวโต' ปกป้องนักการเมืองชั่วๆ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของประเทศชาติ !

เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของประเทศชาติ !

10 เม.ย. 2567

เกรงใจประชาชนบ้าง?

เกรงใจประชาชนบ้าง?

3 เม.ย. 2567

มิติใหม่ในการกำหนดค่าแรง

มิติใหม่ในการกำหนดค่าแรง

27 มี.ค. 2567

ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

20 มี.ค. 2567

แม้ดอกไม้จะถูกตัดหมดไป ฤดูใบไม้ผลิก็ยังจะมาถึง

แม้ดอกไม้จะถูกตัดหมดไป ฤดูใบไม้ผลิก็ยังจะมาถึง

14 มี.ค. 2567

ระหว่าง เศรษฐา   กับ เศรษฐพุฒิ   !

ระหว่าง เศรษฐา กับ เศรษฐพุฒิ !

6 มี.ค. 2567

จุดเริ่มของการปฏิรูปตำรวจ!

จุดเริ่มของการปฏิรูปตำรวจ!

28 ก.พ. 2567

บุรพกษัตริย์และบรรพชนจ้องมองอยู่ !

บุรพกษัตริย์และบรรพชนจ้องมองอยู่ !

21 ก.พ. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved