ตัวตลกนั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ยุคกลางในยุโรป ตัวตลกที่ชาวบ้านชาวช่องรู้จักกันดีคือ โจ๊กเกอร์ ถือเป็นตัวตลกดั้งเดิมในประวัติศาสตร์เลยด้วยซ้ำ เพราะถือกำเนิดในยุคกลางแล้วยังเป็นที่รู้จักต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะบทบาทในภาพยนตร์เรื่องแบดแมน แต่โจ๊กเกอร์ในอดีตเป็นตัวตลกหลวงที่แสดงตลกในท้องพระโรงตามพระราชวัง อวดโฉมในเครื่องแต่งตัวสีฉูดฉาดบาดตา ใส่หมวกหลายยอดตรงปลายมีตุ้มเล็กๆ ในมือถือคทาที่เรียกว่า “มาโรต์” บทบาทหลักคือทำตัวเปิ่นๆ ซุ่มซ่ามๆ ให้พระราชาขำ หากไม่ขำ โจ๊กเกอร์อาจจะไม่มีหัวอยู่บนบ่าอีกต่อไป
โบโซ่คือตัวตลกที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล เพราะเรามักเห็นหน้าขาวๆ จมูกแดงๆ โผล่มายิ้มยิงฟันทางจอทีวีเสมอ อลัน ดับเบิลยู ลิฟวิงสโตนเปิดตัวตลกตัวนี้ในการ์ตูนมีภาพประกอบเรื่อง “โบโซกับคณะละครสัตว์” จากนั้นก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น เพราะออกอากาศบ่อยๆ มักปรากฎตัวด้วยชุดนอนสีฟ้าขลิบแดง ใส่แผงเป็นผ้าจีบที่คอ พร้อมกับผมสีแดงแจ๋ หน้าขาววอก พร้อมกับจมูกแดงโต คนทั้งโลกเลยพลอยรู้จักตัวตลกตัวนี้ไปด้วย จนกระทั่งคำว่า “โบโซ่” กลายมาเป็นสแลงของอเมริกา โดยมีความหมายว่า “เซ่อซ่า” หรือ “เปิ่นๆ เชยๆ”
ใครที่ชอบแวะร้านแมค โดนัลด์คงสบตากับตัวตลกชุดเหลืองที่ยืนยิ้มร่าปากแดงอยู่หน้าร้าน ตัวตลกตัวนั้นคือ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อฟาสต์ฟูดแมคโดนัลด์เป็นสปอนเซอร์ให้รายการโบโซโชว์ทางสถานีโทรทัศน์ของวอชิงตัน จนทำให้มีการสร้างตัวละคร “โรนัลด์ แมคโดนัลด์ ตัวตลกแฮมเบอร์เกอร์” ขึ้นมาเพื่อร่วมแสดงในรายการ
ในตอนแรกยังไม่ได้ตั้งชื่อให้เป็นโรนัลด์ แมคโดนัลด์ แต่อย่างใด ต่อมาเลยตั้งชื่อว่าอาร์ชชี่ แมคโดนัลด์ ในเวลานั้นมีนักจัดรายการชื่อดังคนหนึ่งชื่ออาร์ชชี่ แมคโดนัลด์ เลยต้องเปลี่ยนชื่อกันอีกรอบ วิลลาร์ด สก๊อตนักแสดงที่แสดงเป็นตัวตลกตัวนี้เลยตั้งชื่อให้ว่าโรนัลด์ แมคโดนัลด์ โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2506 มีรองเท้าเป็นรูปขนมปัง มีถ้วยเป็นจมูก มีถาดเบอร์เกอร์เป็นหมวกที่ทำมาจากฟองน้ำ มีหัวเข็มขัดเป็นรูปเบอร์เกอร์ จากนั้นก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของร้านแมคโดนัลด์ทั่วโลก
ทั้งที่ตัวตลกทั้งหลายตั้งใจมอบความสุขและเสียงหัวเราะให้ชาวบ้านชาวช่อง แต่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่คนอเมริกันจำนวนมากเป็นโรคกลัวตัวตลกอย่างเอาจริงเอาจังถึงขั้นต้องบำบัดกันเลยทีเดียว โรคนี้มีชื่อทางการว่า “Coulrophobia” ซึ่งแตกต่างไปจากความไม่ชอบตัวตลก เพราะบางคนไม่ชอบตัวตลก ก็แค่ไม่อยากเห็นและเดินหลบเลี่ยงไปก็เท่านั้น ไม่ได้มีอาการหายใจติดขัดหรือเครียดแต่อย่างใด แต่อาการกลัวตัวตลกที่ถือว่าเป็นโรคนั้นจะมีอาการหายใจไม่ออก กระสับกระส่าย เหงื่อออกหรือรู้สึกอึดอัดกังวลเมื่อเห็นตัวตลก
พ่อแม่คิดเอาเองว่าเด็กๆ มักชอบตัวตลก เวลาจัดงานปาร์ตี้งานวันเกิดลูกๆ ที่บ้าน ก็จะเชิญเพื่อนๆ ในโรงเรียนมากินขนมกัน บ้านไหนรวยหน่อยก็จะจัดงานแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ นั่นคือ มีการจ้างตัวตลกมาเล่นตลกในงานปาร์ตี้ด้วย แต่หลายครั้งที่งานกร่อย เพราะเด็กๆ กลับกลัวตัวตลกจนร้องไห้จ้า ความกลัวตัวตลกนี้มีปมมาจากสมัยวัยเยาว์ เด็กๆ อาจจะกลัวในความแปลกประหลาดของหน้าตา ใบหน้าที่แต้มสีไว้มากเกินไป รวมทั้งตัวตลกมักพยายามเข้าหาเด็กๆ แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งทำให้เด็กกลัวกว่าเดิม เพราะเหมือนถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว
เรื่องนี้มีคำอธิบายในเชิงจิตวิทยาด้วย นักจิตวิทยาอย่าง John B. Watson และ Rosalie Rayner อธิบายว่าสมองของคนเราเชื่อมโยงสิ่งเร้าสองสิ่งเข้าด้วยกัน หากเกิดขึ้นซ้ำๆ ในเวลาเดียวกัน นั่นหมายถึง คนที่กลัวตัวตลกอาจเป็นเพราะมีประสบการณ์ฝังใจกับการเห็นตัวตลกและเรื่องน่ากลัวในเวลาเดียวกัน เลยทำให้เกิดอาการกลัวตัวตลกอย่างไม่มีสาเหตุ
Sigmund Freud นักจิตวิทยาชื่อดังกล่าวว่า การที่บางอย่างดูคุ้นเคยแต่ในเวลาเดียวกันก็ดูแปลกตา ทำนองเดียวกับภาวะ “คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย” ทำให้เกิดความกลัวได้ ตัวตลกที่ยิ้มร่าอยู่ตลอดเวลานั้นก็ถือว่าเข้าข่ายนี้ เพราะโดยทั่วไปแล้วคนส่วนมากคิดว่ารอยยิ้มคือสิ่งดี แต่ไม่มีใครยิ้มตลอดเวลา หากใครยิ้มอยู่ตลอดเวลาแปลว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว ดังนั้นตัวตลกซึ่งฉีกยิ้มตลอดเวลาจึงดูแล้วน่ากลัวมากกว่าน่าเข้าใกล้
ในอเมริกาจึงมักมีเรื่องเล่าสยองขวัญเกี่ยวกับตัวตลกทำนองว่า ระหว่างที่พ่อแม่ดูทีวีกลางดึกในบ้าน อยู่ๆ ลูกวิ่งมาหาหน้าตาตื่น พ่อแม่เลยถามว่าตื่นมาทำไม ลูกบอกว่ามีรูปปั้นตัวตลกอยู่ในห้อง แล้วตัวตลกตัวนั้นก็จ้องหน้าจนนอนไม่หลับ พอได้ฟัง พ่อแม่ก็งง เพราะไม่เคยมีรูปปั้นตัวตลกในห้องนอนลูกหรือที่ไหนในบ้าน แล้วสิ่งที่ลูกเห็นคืออะไร พ่อแม่เลยโทรเรียกตำรวจทันที เพื่อค้นร่องรอยปรากฏว่าไม่พบรูปปั้นตัวตลกในห้องนอนเด็กแต่อย่างใด แต่พบว่ามีร่องรอยบุกรุกจากภายนอก สันนิษฐานว่าคนบ้าปลอมเป็นตัวตลกแอบเข้าบ้านเพื่อฆ่าเด็ก
เรื่องนี้กลับเกิดขึ้นจริงในปีพ.ศ.2533 ที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริด้า หญิงสาวคนหนึ่งชื่อชีเลีย คีน วัย 27 ปีถูกยิงตาย ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ฆาตกรสวมชุดตัวตลกใส่วิกผมสีส้มทอง คดีนี้ไม่สามารถไขปริศนาได้จนถึงปัจจุบัน
ไม่ใช่แต่คดีนี้เท่านั้น ตัวตลกถูกนำไปโยงกับการฆาตกรรมอีกในปี พ.ศ. 2513 จอห์น เวนย์ เกซี่เป็นนักธุรกิจในชิคาโก้ที่ชอบออกงานการกุศลและอุทิศตนช่วยเหลือสังคมอยู่เสมอ มักแต่งตัวเป็นตัวตลกเพื่อไปเยี่ยมเด็กตามโรงพยาบาล รวมถึงเดินร่วมงานตามขบวนพาเหรดอีกด้วย จนได้รับฉายาว่า "ตัวตลกโพโก้"
แต่จอห์นคือฆาตกรฆ่าต่อเนื่องอย่างโหดเหี้ยมสะเทือนขวัญจนกลายเป็นความสยองหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์เมืองชิคาโก้ เมื่อตรวจค้นบ้านของจอห์น ตำรวจถึงกับผงะ เพราะเมื่อค้นหาในบ่อบำบัดน้ำเสียพบศพจำนวน 29 ศพ ส่วนศพอื่นๆ นั้นจอห์นนำไปทิ้งลงในแม่น้ำใกล้บ้าน
คดีนี้เป็นคดีโด่งดังสะท้านโลก ยิ่งทำให้ภาพของตัวตลกยิ่งน่ากลัวมากขึ้น ภาพยนตร์สยองขวัญทั้งหลายก็เริ่มใส่คาแรกเตอร์ตัวตลกเข้ามาในบทบาทตัวร้าย เลยยิ่งทำให้สยองขวัญสุดๆ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความน่าสะพรึงอย่างไม่น่าเชื่อ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี