วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
.jpg)
เรื่องราวของแกรนด์แคนยอนมหัศจรรย์ตั้งแต่การค้นพบเลยทีเดียว แรกเริ่มเดิมทีแผ่นดินอันน่ามหัศจรรย์แห่งนี้คือบ้านของอินเดียนแดง คนผิวขาวกลุ่มแรกที่ค้นพบคือนักสำรวจสเปน แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่เป็นที่แพร่หลาย หรืออาจจะเห็นว่าแห้งแล้งกันดาร และลำบากเกินกว่าจะเดินทางมา ต่อมานักบวชชาวสเปนอีก 2 คนมาพบสถานที่นี้เข้า เลยเผยแพร่ข่าวออกไป หนนี้เริ่มมีคนสนใจอยากเข้ามาสำรวจดินแดนลี้ลับแห่งนี้มากขึ้น รวมทั้งนายทหารหนุ่ม พันตรีจอห์น เวสลีย์ เพาเวลล์ (John Westley Powell) และคณะอีก 9 คน
จะว่าไปแล้วพันตรีรายนี้นับว่าใจเด็ดมาก เพราะหลังจากเสียแขนในสงครามกลางเมือง ก็ยังยืดอกมาสำรวจด้วยการล่องเรือมาตามเส้นทางมหาโหด ล่องแม่น้ำโคโลราโดที่ทุกคนส่ายหน้าว่าปราบเซียน เพราะเต็มไปด้วยเกาะแก่งแง่งหิน แถมกระแสน้ำเชี่ยวกราก เรียกได้ว่าไปแล้วทางรอดแทบไม่มีเลยก็ว่าได้
ความโหดนั้นอยู่ในขั้นสูงสุด หลายต่อหลายหนถูกน้ำซัดจนเรือแตก ต้องเกยตื้นเพื่อซ่อมแซมเรือ ความยากลำบากในการเดินทางอย่างไม่รู้ชะตาอนาคต ทำให้เพื่อนร่วมทีม 2 คน โบกมือบ๊ายบาย เพราะดูท่าแล้วคงเอาชีวิตไม่รอดแน่ หากเดินหน้าต่อ จากนั้นก็แยกไป พันตรีกระดูกเหล็กจดบันทึกไว้ว่า จากนั้นมาก็ไม่มีใครได้ข่าวเพื่อนสองคนนั้นอีกเลย คาดว่าถูกอินเดียนดงถลกหนังหัวเอาไปดูเล่นเสียแล้ว
หลังจากผ่านกระแสคลื่นคลั่ง ทางน้ำวน โตรกผา หุบเหว และความอดอยากต่างๆ นานา ในที่สุดคณะเดินทางก็มาถึงแผ่นดินแปลกประหลาด หินผาเหลื่อมสลับเงื้อมชะโงกซับซ้อนเบื้องหน้า พันตรีจอห์นจึงตั้งชื่อว่า “แกรนด์ แคนยอน”
ความมโหฬารของแกรนด์แคนยอนทำให้ต้องเลือกเข้าชมทิศใดทิศหนึ่ง เพราะมีเวลาแค่วันเดียวเท่านั้น หากอยากสัมผัสความโอฬารให้จุใจ คงต้องเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งหากหลงทาง ก็เสี่ยงต่อการขาดน้ำและอาหารในหน้าแล้ง หน้าร้อนที่นี่โหดไม่ใช่เล่น หน้าร้อนก็ร้อนสาหัส ส่วนหน้าหนาวก็หนาวเอาเรื่อง
อุทยานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมได้สามจุด จุดแรกที่เปิดให้ชมได้แค่ช่วงหน้าร้อนคือฝั่งเหนือ หรือ “North Rim” สูงประมาณ 2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ด้วยความสูงระดับนี้ทำให้ขอบผาด้านเหนือมีสภาพอากาศแตกต่างกันมาก ที่เปิดให้ชมแค่ช่วงหน้าร้อน คือหิมะตกหนักจนเดินทางเข้าไปไม่ได้ช่วงหน้าหนาว เลยเปิดให้เที่ยวได้แค่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม การที่ฉันไปแกรนด์แคนยอนตอนเดือนพฤศจิกายนนั่นคืออดเข้าชมทางด้านทิศเหนือโดยปริยาย จุดชมวิวที่สวยสุดคือ “พอยต์ อิมพีเรียล” (Point Imperial) นับเป็นจุดสูงสุดด้านทิศเหนือ คือสูงประมาณ 2,700 เมตร น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาส เพราะหากมาที่นี่ได้จะเห็นไกลถึงทะเลทรายหลากสี (Painted Desert) และเขตสงวนของอินเดียนแดงเผ่านาวาโฮ (Navajo Reservation)
ไม่น่าเชื่อว่าภาพความงามอันน่าทึ่งเบื้องหน้ามาต้นกำเนิดจากแม่น้ำเล็กๆ สายหนึ่งคือ แม่น้ำโคโลราโด้ไหลคดเดี้ยวผ่านที่ราบกว้างใหญ่เมื่อหลายล้านปีก่อน ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากแรงดันและความร้อนอันมหาศาลใต้พื้นโลก ที่ราบจึงเปลี่ยนรูปกลายเป็นแนวหน้าผากว้างใหญ่ การยกตัวของแผ่นดินทำให้สายน้ำไหลเชี่ยวขึ้น พัดทรายและตะกอนไปตามน้ำ เกิดการกัดเซาะลึกลงไปทีละน้อยๆในเปลือกโลก
การสึกกร่อนพังทลายของหิน บวกกับแรงลมและแสงแดดหลายล้านปีทำให้เกิด “แกรนด์แคนยอน” 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก อายุของทวดแกรนด์แคนยอนก็ไม่มากมายอะไร แค่สิบเจ็ดล้านปีเท่านั้นเอง ชั้นหินที่ลดหลั่นเรียงรายหินคือชั้นหินที่ถูกแม่น้ำตัดผ่าน มีทั้งหมด 12 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นชั้นที่เก่าแก่สุด ส่วนชั้นบนสุดเป็นชั้นที่ใหม่สุด
ในความงามมีความน่าสะพรึง แต่ละปีมีคนตกหน้าผาเสียชีวิตไม่น้อย อย่างปี 2019 เริ่มเดือนแรกก็มีคนตกลงไปตาย เดือนกุมภาพันธ์มีนักท่องเที่ยวจากมาเก๊าลื่นเสียหลักร่วงลงไป เฉลี่ยแล้วทุกเดือนจะมีคนเสียชีวิต โดยเฉลี่ยแล้วปีละ 12 ราย ในบรรดาผู้วายชนม์เหล่านั้น มีคู่คนไทยด้วย เป็นข่าวที่น่าเศร้าและสะเทือนใจในเวลานั้น เพราะทั้งคู่เพิ่งแต่งงานได้แค่สิบวันแล้วมาฮันนีมูนกันที่นี่ สามีเป็นดร. ส่วนภรรยาเป็นทันตแพทย์ ทั้งคู่ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตที่แกรนด์แคนยอน นับเป็นรายที่ 2 และ 3 ที่เสียชิวิตจากการถูกฟ้าผ่า ส่วนรายแรกเป็นชายแก่ที่พอโดนฟ้าผ่าแล้วหัวใจวายตาย
อาจจะเพราะความสวยเป็นเหตุ เลยทำให้บางคนเลือกแกรนด์แคนยอนเป็นสถานที่ฆ่าตัวตาย จุดฆ่าตัวตายยอดนิยมก็ฝั่งทิศใต้นี่แหละ เพราะสามารถขับรถพุ่งแหกรั้วกั้นดิ่งเหวได้เลย สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากหนังเรื่อง “Thelma and Louise” ในปี 1991 ซึ่งจบลงด้วยตัวละครแสดงโดยจีนา เดวิส และซูซาน ซาแรนดอน ขับรถพุ่งลงผาแกรนด์แคนยอน เพราะไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตอันซ้ำซากจำเจเหมือนเก่า หลังจากที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย ปรากฎว่าสถิติการฆ่าตัวตายที่แกรนด์แคนยอนเพิ่มสูงขึ้นมาก
เมื่อเดินไปที่หน้าผา เห็นแล้วแทบก้มลงกราบนาทีนั้น อะไรจะมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่กว่านี้ไม่มีแล้ว ธรรมชาติข่มให้เรากลายเป็นธุลีแห่งจักรวาลไปเลยทีเดียว

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี