สถานการณ์ในเมืองไทยเริ่มระอุขบวนการล้มสถาบันภายใต้การหนุนหลังของบางพรรคการเมืองโดยมีชาติมหาอำนาจหนุนหลังอีกเด้งหนึ่งสร้างสถานการณ์เพื่อหยามหมิ่นขบวนเสด็จของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหรือที่ทุกคนเรียกพระองค์อย่างรักใคร่ว่า “สมเด็จพระเทพ”
กลุ่มคนเหล่านี้จาบจ้วงล่วงเกินสถาบันกษัตริย์โดยตลอดในชื่อกลุ่มทะลุวังแต่บางคนก็เปลี่ยนให้ใหม่เป็นกลุ่มทะลุถุงยางล่าสุดพยายามขับฝ่าเข้าไปในขบวนเสด็จบีบแตรไล่แล้วอัดคลิปเพื่อหวังขยายผลให้กระจายในโลกโซเชียลโดยไม่ได้ดูความจริงเลยว่าเดี๋ยวนี้สถาบันกษัตริย์ปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่แล้ว
เวลาพระบรมวงศานุวงศ์รวมทั้งในหลวงและราชินีเสด็จไปไหนไม่มีการปิดถนนเหมือนแต่ก่อนแต่รถประชาชนทั่วไปสามารถวิ่งขนานไปกับรถพระทั่นั่งหากรถติดสี่แยกไฟแดงก็ติดเหมือนกันรถประชาชนทั่วไปกระนั้นกลุ่มนี้ก็ยังหยามหมิ่นให้ร้ายสถาบันด้วยข้อความเท็จเพื่อหวังผลทางกร่อนแซะ
เมื่อถูกจับเพราะทำผิดกฎหมายก็โวยวายออกมาฟูมฟายว่ารังแกเด็กบ้าง ทั้งที่ทั้งกลุ่มเลยวัยเยาวชนมาแล้ว
สรรหาวาทกรรมมาสาดใส่โลกโซเชียลหลายคนอาจสงสัยว่าไทยเป็นประเทศเดียวหรือไม่ที่มีกฎหมายลักษณะนี้แล้วประเทศอื่นโดยเฉพาะทางตะวันตกมีระบบการปกป้องประมุขของรัฐอย่างไรบ้าง
อเมริกามีกฎหมายในการปกป้องประมุขแห่งรัฐหรือ Presidential immunity ซึ่งประกอบด้วยกฎหมายหลายข้อที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องประธานาธิบดีรายละเอียดนั้นมากมาย หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายคงต้องยกคดีมาประกอบคดีแรกไอ้หนุ่มรายหนึ่งเขียนกวีเสียดสีประธานาธิบดีโอบาม่าเจอคุกไป33เดือนอีกรายเป็นเด็กวัยรุ่นอังกฤษส่งอีเมล์ไปยังทำเนียบขาวตอนเมาเรียกประธานาธิบดีเป็นอวัยวะเพศชาย ถูกห้ามเข้าสหรัฐฯ ตลอดชีวิต
มาเริ่มกันที่คดีแรก ศาลเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกีจำคุกจอห์นนี่โลแกน สเปนเซอร์ วัย 28 ปี เป็นเวลา 33 เดือนด้วยข้อหาข่มขู่ประธานาธิบดีบารัก โอบามากรณีที่นายสเปนเซอร์เขียนบทกวี 16 บรรทัดซึ่งมีเนื้อหาบรรยายถึงการใช้ปืนสไนเปอร์ลอบยิงประธานาธิบดีสหรัฐฯโพสต์บนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง
คดีที่สอง ลุค แองเจล อายุ 17 ปีหนุ่มชาวอังกฤษส่งอีเมล์ไปยังทำเนียบขาวหลังจากดูรายการทีวีเกี่ยวกับเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่11 กันยายน 2544 แล้วเรียกประธานาธิบดีโอบามาว่า “a prick”ซึ่งเป็นศัพท์สแลงมีความหมายถึงอวัยวะเพศชาย
อีเมล์ดังกล่าวถูกสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอดักตรวจได้ จึงส่งข้อมูลให้ตำรวจอังกฤษสืบสวนสอบสวนต่อแม้ว่าจะไม่มีการดำเนินคดีกับเด็กวัยรุ่นชาวอังกฤษคนนี้แต่หมอนี่ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯตลอดชีวิต
เมื่อไม่นานมานี้เอง กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หลายพันคนยกขบวนไปอาคารรัฐสภาบุกฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เข้าไปในอาคารห้องทำงานและห้องประชุมสภาเพราะต้องการขัดขวางการประชุมลงมติของสมาชิกรัฐสภารับรองผลคะแนนว่าโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง ตอนนั้นเผ่นกันกระเจิงรวมทั้งลุงโจไบเดนด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาไม่ทักไม่ถามแต่ชักปืนเล็งใส่ม็อบแบบไม่ลังเล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายผ่านไปหลายปี แต่คดียังตามติดนะจ๊ะตอนนี้ผลออกมาแล้วว่าผู้นำกลุ่มพราวด์บอยส์หรือกลุ่มขวาจัด เจอคุก 18ปีจ้า
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2023 เอฟพีไอตรวจค้นบ้านของเครก โรเบิร์ตสัน ในรัฐยูทาห์เพราะก่อนหน้านั้นหนี่งวัน นายคนนี้โพสต์ข้อความเชิงข่มขู่ประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าเฮ้ย..โจ ไบเดนกำลังจะมาที่ยูทาห์เตรียมจัดหนักกันได้เลย แถมยังโพสต์อีกว่าตนนั้นมีแผนจะใส่ชุดลายพรางของตนเองและจะนำปืนสไนเปอร์ไรเฟิลแบบติดลำกล้อง M24 ไว้รอต้อนรับ
ไม่รู้ว่าคะนองปากแบบเด็กเห่อบางอวัยวะหรือจูนิเบียวแต่ผลคือเอฟบีไอไปเยือนในวันรุ่งขึ้นแบบไม่นัดหมายพร้อมหมายจับในหมายจับระบุความผิดของโรเบิร์ตสัน 3 กระทงในนั้นรวมถึงข่มขู่คุกคามประธานาธิบดีด้วย
ไม่ได้กล่าวหาลอยๆเพราะหมอนี่ยังอ้างถึงการลอบสังหารประธานาธิบดีอีกเพียบบนสื่อสังคมออนไลน์ในนั้นรวมถึงบรรดาเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายระดับสูงที่ดูแลคดีเกี่ยวกับทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นอัยการเขตแมนฮัตตัน อัยการสูงสุดของสหรัฐฯและอัยการรัฐนิวยอร์ก พูดง่ายๆว่าลุงแกขู่ฆ่าแบบยกพวง
พอบุกเข้าไปแล้ว เจ้าของบ้านคงต่อสู้สุดท้ายเอฟบีไอก็ยิงหมอนี่ตายคาบ้าน อย่าว่าแต่อเมริกาเลยอังกฤษก็มีกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐเมื่อปีกลายสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาเสด็จไปยอร์กไอ้หนุ่มคนหนึ่งปาไข่สามฟองใส่ แล้วตะโกนว่า“ประเทศนี้ถูกสร้างขึ้นบนเลือดของทาส” และ “ไม่ใช่กษัตริย์ของผม”ตำรวจรวบตัวทันทีฐานก่อกวนความสงบเรียบร้อย
ย้อนไกลอีกนิด เมื่อเดือนธันวาคม 2011 เดวิด กิลมัวร์ นักศึกษาวัย21 ปีเสพยาหนักผสมดื่มเหล้าเมาแอ๋พอได้ที่ก็ขว้างถังขยะเข้าใส่ขบวนรถพระที่นั่งของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในขณะนั้น ผลคือถูกจำคุก 16 เดือนเพราะสารภาพ แต่ความผิดฐานใช้ความรุนแรงก่อความอลหม่านมีโทษสูงสุดคือจำคุก 5 ปี นั่นหมายความว่าหากปากแข็งและกวนตีนก็คงได้รับโทษตามอัตราที่ระบุไว้ตามกฎหมายคือห้าปีนั่นแหละ
เห็นไหมล่ะว่าทุกประเทศทั้งที่ยังมีระบอบกษัตริย์และระบบอื่นๆที่ไม่มีระบอบกษัตริย์ต่างมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐทั้งสิ้นหากรู้ไม่จริงอย่าโวยวายเรียกร้องยกเลิกกฎหมายมาตรา 112เพราะนี่คือกฎหมายที่ตราไว้ขึ้นเพื่อปกป้องประมุขของประเทศบ้านเราเช่นกัน
..........................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี