วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“พรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์ชัดเจน คุณเลือกไปเลย ไม่ต้องไปสนใจว่าคนจะเป็นอย่างไร” !!
เป็นคำพูดของดอกเตอร์นักวิชาการคนหนึ่งแห่งมหาวิทยาลัยบูรพา ท่านโฟนอินแสดงความเห็นเรื่องการเมือง ทำเอาผมสะอึกนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินอีก!
ผมชื่นชมท่านที่กล้าประกาศตัวว่าเป็น “ด้อมส้ม” และก็ฟังท่านแสดงความเห็นหลายประเด็นหลายวาระเรื่อยมา แม้กระทั่งเรื่องส.ป.ก. เพราะอยากรู้ว่าคนแต่ละพวกแต่ละฝ่ายคิดอย่างไรต่อปัญหาต่างๆ ของบ้านเมือง
เมื่อมีความเห็นแตกต่างกัน แต่มีข้อมูลชัดเจน มีเหตุผลสนับสนุน ผมก็เห็นด้วยในส่วนที่เป็นเหตุเป็นผล (ตามความเห็นของผม) ส่วนที่เป็นการหาเสียงให้พรรคที่ตนยกย่องชื่นชมก็ตัดทิ้งไป
ไม่เพียงดอกเตอร์นักวิชาการท่านนี้ที่พูดอย่างนี้ ยังมีอีกหลายคนที่ผมได้ยินในช่วงที่มี “พรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล” เมื่อย้อนไปถึงยุค “ตุลาคม 2519 ” ซึ่งนักศึกษาและกรรมกรจำนวนมากเข้าป่าจับปืนร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก็มีความเห็นอย่างนี้ และผมก็เชื่อว่าเป็นความเห็นที่จริงใจของพวกเขา
หลัง 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 - 2519 ผมยังเป็นนักศึกษาในวิทยาลัยครูแห่งหนึ่ง ผมก็รู้จักกับนักศึกษาและอาจารย์ทั้ง “ฝ่ายขวา” และ “ฝ่ายซ้าย” ท่านก็เชื่อว่า “อุดมการณ์สำคัญกว่าคน” เพราะอุดมการณ์ที่รักความเป็นธรรม รักความเท่าเทียม ทำให้คนเท่ากันนั้น จะสร้างคนทุกประเภทให้เป็นอย่างอุดมการณ์ได้
จนเช้าวันหนึ่ง ผมนั่งรถประจำทางไปเรียน บังเอิญหรืออาจฟ้าประทานก็ได้ มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่บรรจุใหม่ในวิทยาลัยครูที่ผมเรียน ท่านนั่งคู่กับผมและตั้งคำถามเหมือนรู้จักผมว่า “ระหว่างคนกับอุดมการณ์และระบอบ...อย่างไหนสำคัญกว่ากัน”
ผมคิดว่ามันสำคัญทั้ง 2 อย่าง จึงลังเลที่จะตอบแบบเลือกข้าง ท่านพูดอีกนิดหน่อยว่า “ผมคิดว่าคนสำคัญกว่าอุดมการณ์และระบอบนะ...”
ท่านบอกความเห็นของท่าน พร้อมกับตั้งโจทย์ทำให้ผมคิดด้วย ทำนองแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ผมคิดบ้าง ลืมบ้าง ยาวนานจนอายุ 30 ปีจึงมีคำตอบ
คำตอบยังเหมือนที่คิดในครั้งนั้น คือมันสำคัญทั้ง 2 อย่าง แต่มันชัดเจนขึ้น เมื่อมาได้ยินดอกเตอร์นักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยบูรพาพูดอย่างมั่นใจว่า “อุดมการณ์สำคัญกว่าคน” ผมจึงแย้งท่านอยู่ในใจ
อุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลนั้นก็คือ “อุดมการณ์ของระบอบ” แต่เป็นระบอบอะไรผมไม่แน่ใจ เมื่อเป็นนโยบายก็ยังไม่ชัดเจน แม้จะมีเป้าหมายอยู่ที่ “รัฐสวัสดิการและไม่เอาสถาบันกษัตริย์” แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมอยู่ด้วย ส่วนความคิดนอกนโยบายนั้นก็มีคนจำนวนมากที่ยึดมั่นต่ออุดมการณ์สังคมนิยมดังนั้น อุดมการณ์และนโยบายของพรรคก้าวไกลที่ “ปรากฏต่อสาธารณะ” จึงคลุมเครือ
แต่ประเด็นของบทความนี้คือ “คนกับอุดมการณ์” ที่รวมถึง “ระบอบ” ด้วยว่าอย่างไหนสำคัญกว่ากัน
ถ้าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งผมก็เลือก “คน” สำคัญกว่าอุดมการณ์
“คนดี” แม้อยู่ใน “อุดมการณ์ของระบอบที่เลว” เขาก็จะยังเป็นคนดีตามอุปนิสัย และจะแก้ระบอบที่เลวให้ดีได้ เพราะมันทำลายชีวิตเขาและสังคม มันกดทับ-ปิดกั้นเขา
“คนเลว” แม้อยู่ใน “อุดมการณ์ของระบอบที่ดี” ก็ยังเลวตามอุปนิสัย โอกาสที่จะดีนั้นยากมาก คนเลวนี้แหละที่จะสร้างปัญหาให้แก่ตนและสังคม
ตัวอย่างต่อไปนี้จะช่วยให้เห็นได้ชัดเจนกว่าการอธิบาย
- อุดมการณ์ของระบอบประชาธิปไตยนั้นกลางๆ เปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย (ที่ห้ามละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น) ก็มีทั้งคนดี คนเลว คนที่ล้มเหลว และคนที่ประสบความสำเร็จ
- อุดมการณ์ของระบอบสังคมนิยมที่คนยกย่องกันว่าดี เพราะมันประกาศว่าจะสร้างความเป็นธรรมในสังคมก็พังพินาศไปแล้ว เหตุเพราะคนไม่ดี โดยเฉพาะผู้นำที่เป็น “ตัวแทนของชนชั้นกรรมาชีพ” ที่ลุแก่อำนาจจนลืมความเป็นมนุษย์ และควบคุมกดขี่ธรรมชาติของมนุษย์
- การปกครองของสงฆ์นั้นดีมาก ศาสนาเองก็มุ่งสอนให้เป็นคนดี ดีจนกระทั่งหลุดพ้นไปจากความดีและความชั่วเข้าสู่นิพพาน แต่ก็ยังมีภิกษุที่เลว
-ในแวดวงการเมืองและแวดวงวิชาการ ยิ่งชัด แม้จะมีกฎระเบียบ แต่ก็มีทั้งคนดีและคนเลว
ดังนั้น ถ้าใครจะบอกว่า “พรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์(ของระบอบ) เลือกไปเลย คนจะเป็นอย่างไรไม่ต้องไปสนใจ” จึงไม่จริง เป็นแค่การหาเสียงอย่างหลงใหลเท่านั้น
อุดมการณ์/ลัทธิ/ระบอบ ล้วนเป็น “ชุดความคิด-ความเชื่อ” เท่านั้น มันก็เหมือนเครื่องมือ เช่น มีดเล่มหนึ่ง มันทำงานเองไม่ได้ ต้องมี “คน” ใช้มัน ถ้าคนดีใช้มันก็จะได้ประโยชน์แก่เขาและสังคม ถ้าคนชั่วใช้มันก็จะเดือดร้อนตัวเขาเองและสังคมเช่นกัน
พรรคก้าวไกลเองนั้นประกาศว่ามีอุดมการณ์ แต่ก็มีปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า จนเขี่ยขยะมูลฝอยกลบไม่ทัน ทุกวันนี้ก็ยังเห็นตำตา ถ้าได้เป็นรัฐบาล มีอำนาจบริหารประเทศ และอยู่กับเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลเมื่อไหร่ ก็จะได้เห็นว่าคนกับอุดมการณ์อย่างไหนสำคัญกว่ากัน
ประเทศที่เคยปฏิวัติเป็นสังคมนิยมในศตวรรษที่แล้ว ก็ได้สำแดงให้โลกประจักษ์แล้วว่า คนสำคัญกว่าอุดมการณ์ของระบอบ ยิ่งกว่านั้น มันชั่วร้ายทั้ง 2 อย่าง
วิมล ไทรนิ่มนวล

เพื่อแผ่นดินเกิด! ‘พิมพ์ภัทรา’ลงสนามชิงเก้าอี้สส.เขต 9 นครศรีธรรมราช ‘โกหว่าส่าน’เจิมกระหม่อม
ผู้สมัคร ส.ส.ภท. โต้เพจดัง กล่าวหารวยผิดปกติจากเงินวัด โร่แจ้งความ ยันทำธุรกิจสุจริต
ภารกิจเสร็จสิ้น! อนุทินรับหัวใจดวงที่ 153 จากอุดรธานี ติดปีกสู่ผู้ป่วยที่รพ.จุฬาฯ
ชาวเน็ตอยากใส่ใจ! ต๊อด ปิติ สามีนางเอกดัง นุ่น วรนุช โพสต์เดือดอ่านแล้วถึงกับสะดุ้ง
สรุปมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2568

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี