“พรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์ชัดเจน คุณเลือกไปเลย ไม่ต้องไปสนใจว่าคนจะเป็นอย่างไร” !!
เป็นคำพูดของดอกเตอร์นักวิชาการคนหนึ่งแห่งมหาวิทยาลัยบูรพา ท่านโฟนอินแสดงความเห็นเรื่องการเมือง ทำเอาผมสะอึกนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินอีก!
ผมชื่นชมท่านที่กล้าประกาศตัวว่าเป็น “ด้อมส้ม” และก็ฟังท่านแสดงความเห็นหลายประเด็นหลายวาระเรื่อยมา แม้กระทั่งเรื่องส.ป.ก. เพราะอยากรู้ว่าคนแต่ละพวกแต่ละฝ่ายคิดอย่างไรต่อปัญหาต่างๆ ของบ้านเมือง
เมื่อมีความเห็นแตกต่างกัน แต่มีข้อมูลชัดเจน มีเหตุผลสนับสนุน ผมก็เห็นด้วยในส่วนที่เป็นเหตุเป็นผล (ตามความเห็นของผม) ส่วนที่เป็นการหาเสียงให้พรรคที่ตนยกย่องชื่นชมก็ตัดทิ้งไป
ไม่เพียงดอกเตอร์นักวิชาการท่านนี้ที่พูดอย่างนี้ ยังมีอีกหลายคนที่ผมได้ยินในช่วงที่มี “พรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล” เมื่อย้อนไปถึงยุค “ตุลาคม 2519 ” ซึ่งนักศึกษาและกรรมกรจำนวนมากเข้าป่าจับปืนร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก็มีความเห็นอย่างนี้ และผมก็เชื่อว่าเป็นความเห็นที่จริงใจของพวกเขา
หลัง 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 - 2519 ผมยังเป็นนักศึกษาในวิทยาลัยครูแห่งหนึ่ง ผมก็รู้จักกับนักศึกษาและอาจารย์ทั้ง “ฝ่ายขวา” และ “ฝ่ายซ้าย” ท่านก็เชื่อว่า “อุดมการณ์สำคัญกว่าคน” เพราะอุดมการณ์ที่รักความเป็นธรรม รักความเท่าเทียม ทำให้คนเท่ากันนั้น จะสร้างคนทุกประเภทให้เป็นอย่างอุดมการณ์ได้
จนเช้าวันหนึ่ง ผมนั่งรถประจำทางไปเรียน บังเอิญหรืออาจฟ้าประทานก็ได้ มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่บรรจุใหม่ในวิทยาลัยครูที่ผมเรียน ท่านนั่งคู่กับผมและตั้งคำถามเหมือนรู้จักผมว่า “ระหว่างคนกับอุดมการณ์และระบอบ...อย่างไหนสำคัญกว่ากัน”
ผมคิดว่ามันสำคัญทั้ง 2 อย่าง จึงลังเลที่จะตอบแบบเลือกข้าง ท่านพูดอีกนิดหน่อยว่า “ผมคิดว่าคนสำคัญกว่าอุดมการณ์และระบอบนะ...”
ท่านบอกความเห็นของท่าน พร้อมกับตั้งโจทย์ทำให้ผมคิดด้วย ทำนองแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ผมคิดบ้าง ลืมบ้าง ยาวนานจนอายุ 30 ปีจึงมีคำตอบ
คำตอบยังเหมือนที่คิดในครั้งนั้น คือมันสำคัญทั้ง 2 อย่าง แต่มันชัดเจนขึ้น เมื่อมาได้ยินดอกเตอร์นักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยบูรพาพูดอย่างมั่นใจว่า “อุดมการณ์สำคัญกว่าคน” ผมจึงแย้งท่านอยู่ในใจ
อุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลนั้นก็คือ “อุดมการณ์ของระบอบ” แต่เป็นระบอบอะไรผมไม่แน่ใจ เมื่อเป็นนโยบายก็ยังไม่ชัดเจน แม้จะมีเป้าหมายอยู่ที่ “รัฐสวัสดิการและไม่เอาสถาบันกษัตริย์” แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมอยู่ด้วย ส่วนความคิดนอกนโยบายนั้นก็มีคนจำนวนมากที่ยึดมั่นต่ออุดมการณ์สังคมนิยมดังนั้น อุดมการณ์และนโยบายของพรรคก้าวไกลที่ “ปรากฏต่อสาธารณะ” จึงคลุมเครือ
แต่ประเด็นของบทความนี้คือ “คนกับอุดมการณ์” ที่รวมถึง “ระบอบ” ด้วยว่าอย่างไหนสำคัญกว่ากัน
ถ้าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งผมก็เลือก “คน” สำคัญกว่าอุดมการณ์
“คนดี” แม้อยู่ใน “อุดมการณ์ของระบอบที่เลว” เขาก็จะยังเป็นคนดีตามอุปนิสัย และจะแก้ระบอบที่เลวให้ดีได้ เพราะมันทำลายชีวิตเขาและสังคม มันกดทับ-ปิดกั้นเขา
“คนเลว” แม้อยู่ใน “อุดมการณ์ของระบอบที่ดี” ก็ยังเลวตามอุปนิสัย โอกาสที่จะดีนั้นยากมาก คนเลวนี้แหละที่จะสร้างปัญหาให้แก่ตนและสังคม
ตัวอย่างต่อไปนี้จะช่วยให้เห็นได้ชัดเจนกว่าการอธิบาย
- อุดมการณ์ของระบอบประชาธิปไตยนั้นกลางๆ เปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย (ที่ห้ามละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น) ก็มีทั้งคนดี คนเลว คนที่ล้มเหลว และคนที่ประสบความสำเร็จ
- อุดมการณ์ของระบอบสังคมนิยมที่คนยกย่องกันว่าดี เพราะมันประกาศว่าจะสร้างความเป็นธรรมในสังคมก็พังพินาศไปแล้ว เหตุเพราะคนไม่ดี โดยเฉพาะผู้นำที่เป็น “ตัวแทนของชนชั้นกรรมาชีพ” ที่ลุแก่อำนาจจนลืมความเป็นมนุษย์ และควบคุมกดขี่ธรรมชาติของมนุษย์
- การปกครองของสงฆ์นั้นดีมาก ศาสนาเองก็มุ่งสอนให้เป็นคนดี ดีจนกระทั่งหลุดพ้นไปจากความดีและความชั่วเข้าสู่นิพพาน แต่ก็ยังมีภิกษุที่เลว
-ในแวดวงการเมืองและแวดวงวิชาการ ยิ่งชัด แม้จะมีกฎระเบียบ แต่ก็มีทั้งคนดีและคนเลว
ดังนั้น ถ้าใครจะบอกว่า “พรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์(ของระบอบ) เลือกไปเลย คนจะเป็นอย่างไรไม่ต้องไปสนใจ” จึงไม่จริง เป็นแค่การหาเสียงอย่างหลงใหลเท่านั้น
อุดมการณ์/ลัทธิ/ระบอบ ล้วนเป็น “ชุดความคิด-ความเชื่อ” เท่านั้น มันก็เหมือนเครื่องมือ เช่น มีดเล่มหนึ่ง มันทำงานเองไม่ได้ ต้องมี “คน” ใช้มัน ถ้าคนดีใช้มันก็จะได้ประโยชน์แก่เขาและสังคม ถ้าคนชั่วใช้มันก็จะเดือดร้อนตัวเขาเองและสังคมเช่นกัน
พรรคก้าวไกลเองนั้นประกาศว่ามีอุดมการณ์ แต่ก็มีปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า จนเขี่ยขยะมูลฝอยกลบไม่ทัน ทุกวันนี้ก็ยังเห็นตำตา ถ้าได้เป็นรัฐบาล มีอำนาจบริหารประเทศ และอยู่กับเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลเมื่อไหร่ ก็จะได้เห็นว่าคนกับอุดมการณ์อย่างไหนสำคัญกว่ากัน
ประเทศที่เคยปฏิวัติเป็นสังคมนิยมในศตวรรษที่แล้ว ก็ได้สำแดงให้โลกประจักษ์แล้วว่า คนสำคัญกว่าอุดมการณ์ของระบอบ ยิ่งกว่านั้น มันชั่วร้ายทั้ง 2 อย่าง
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี