อาทิตย์นี้เป็นวันหยุดแห่งชาติที่เรียกว่า Memorial Day อเมริกันออกเดินทางท่องเที่ยวเพราะหยุดยาวพวกที่อยู่บ้านก็เตรียมตั้งเตาบาร์บีคิวในสวนหลังบ้านพวกบ้าช้อปก็สอดส่ายสายตาช้อปของถูกส่วนมากจะเป็นฟูกกับเฟอร์นิเจอร์จะลดราคากระหน่ำช่วงนี้ส่วนทหารจะมีพิธีกรรมระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามทุกปี
ไหนๆ ก็เป็นวันหยุดให้ระลึกถึงทหารอเมริกันแล้วอยากเล่าเรื่องทหารรสแซ่บรายหนึ่งที่เป็นถึงนายพลมีชีวิตอยู่ช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกาก่อนที่ท่านนายพลจะมาเป็นทหารก็มีวีรกรรมฮือฮาในเวลานั้นนายพลรายนี้ชื่อนายพลแดเนียล อี.ซิคเคิลส์
ความแซ่บของนายพลรายนี้เริ่มต้นมาก่อนเกิดสงครามกลางเมืองเสียอีกอาศัยว่าเกิดมาบนกองเงินกองทองเลยคิดว่าจะทำอะไรก็ได้
เลยไปเป็นนักการเมือง แล้วเจอละอ่อนนางหนึ่งนามเทเรซ่า บาจิโอลี่อายุอานามห่างกันโข คือตอนนั้นแดเนียลอายุ 31 ปี ส่วนสาวน้อยอายุเค่15 ขวบ ซึ่งภรรยาสาววัยรุ่นนี่แหละทำให้โลกฮือฮากับคดีประหลาดและถือเป็นคดีแรกแหวกแนวสุดๆ ในอเมริกา
วันหนึ่งในปีค.ศ.1859 ทุกคนในทำเนียบขาวได้ยินเสียงปืนปังๆๆถี่รัว พอทุกคนวิ่งกรูไปถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่าแดเนียลยิงไอ้หนุ่มหน้าใสรายหนึ่งกลางวันแสกๆ
แบบไม่แคร์สื่อหน้าทำเนียบขาวพอชาวบ้านชาวช่องเห็นหน้าไอ้หนุ่มเคราะห์ร้ายแล้วต่างอุทานเสียงหลงเพราะจำได้ว่าหมอนี่คือฟิลลิป บาร์ตัน คีย์ที่สอง (Philip Barton Key II)ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของกวีฟรานซิส สก็อต คีย์ (Francis Scott Key)
กวีคนนี้ได้รับการยกย่องสูงสุดในอเมริกาเนื่องจากเป็นคนแต่งบทกวีที่กลายเป็นเพลงชาติอเมริกา “เดอะ สตาร์สแปงเกิล แบนเน่อร์” (The Star-Spangled Banner)การที่เฮียแดเนียลจัดหนักกับลูกชายกวีแห่งชาตินับเป็นเรื่องไม่ธรรมดาเฮียให้การว่ายิงเพราะแค้นที่ไอ้หนุ่มนี่เป็นชู้กับเมียละอ่อนของแกพอมีการฟ้องคดีนี้ขึ้นศาล
เฮียแกอ้างหน้าตาเฉยว่าเหตุที่ยิงลูกชายกวีแห่งชาติเพราะเป็นบ้าไปชั่วขณะ เฮ้ย..แบบนี้ก็ได้เหรอข้ออ้างแบบนี้อาจจะไม่แปลกเท่าไหร่แล้วในปัจจุบันแต่ในปีค.ศ.นั้นยังไม่เคยมีผู้ต้องหาคนไหนใช้อ้างมาก่อนถือเป็นคดีประวัติศาสตร์คดีแรกในอเมริกาที่มีการอ้างเช่นนั้นแถมหลุดคดีเสียด้วย
หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามกลางเมืองเกิดอารมณ์รักชาติพวยพุ่งเลยไปสมัครรบเพื่อชาติแต่ในฐานะนักการเมืองที่ทั้งซ่าและแสนรวยคิดหรือว่าจะยอมกระจอกง่อกง่อยในตำแหน่งพลทหารพี่แกก่อตั้งกองทัพของตัวเองขึ้นมาเลยแบบสดๆ ซิงๆเพราะอย่างที่บอกแหละว่าคนรวยทำอะไรก็ได้ เงินถึงใจถึงคนก็แห่ไปซบจนสามารถจัดตั้งกองกำลังของตัวเองแถมยังติดยศนายพลโก้หร่าน
วีรกรรมวีรเวรอย่างชนิดโลกไม่ลืมเกิดขึ้นที่สมรภูมิเก็ตตี้สเบิร์กระหว่างที่ทหารฝ่ายใต้โจมตีหน่วยของนายพลแดเนียล ซิคเคิลส์อย่างหนักลูกกระสุนปืนใหญ่ลูกหนึ่งพุ่งใส่นายพลตัวแสบจนพลัดตกจากหลังม้ากระสุนบดกระดูกขาขวาหักสะบั้น จนร่วงมานอนกับพื้นทหารในหน่วยจึงช่วยกันหามท่านนายพลคนแซ่บไปโรงพยาบาลระหว่างที่หามไปโรงพยาบาลสนามนั้นนายพลแดเนียลยังผงกหัวขึ้นมายิ้มยิงฟันให้ลูกน้องตนพลางสูบซิการ์ปุ๋ยๆ ตลอดทางจนถึงโรงพยาบาลจะว่าไปเฮียแกก็เป็นคนกวนอวัยวะใส่รองเท้าใช้ได้เลยทีเดียว
ในเวลานั้นไม่ว่าทหารรายไหนได้รับบาดเจ็บส่วนไหนวิธีรักษามีหนทางเดียวคือตัดอวัยวะส่วนนั้น กรณีนายพลแดเนียลก็เช่นกันต่อให้เปรี้ยวเยี่ยวราดอย่างไรก็หนีไม่พ้นเลยถูกตัดขาทิ้งในเย็นวันนั้นนั่นเอง
อย่าคิดว่าเรื่องแซ่บๆ จะหมดลงเพียงแค่นี้ถึงจะเหลือขาเพียงข้างเดียว แต่นายพลแดเนียลก็ไม่ยอมปลดประจำการยังขอประจำกองทัพ ต่อมาไปเป็นทูตที่สเปนและมีข่าวอื้อฉาวคาวสวาทว่าเป็นคู่ขาของสมเด็จพระราชินีอิสซาเบลล่าที่ 2 เลยทีเดียว
อีกเรื่องที่เป็นสีสันให้โลกลือคือ กระดูกขาที่ถูกตัดออกไปถูกนำไปแสดงในตู้กระจกพิพิธภัณฑ์แห่งสุขภาพและเวชภัณฑ์พร้อมด้วยลูกปืนใหญ่ที่บดกระดูกขาคนที่ส่งไปให้พิพิธภัณฑ์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เฮียแดเนียลเป็นคนบรรจงใส่กล่องและส่งไปรษณีย์ไปให้อย่างดิบดี
วันดีคืนดี นายพลตัวร้ายขนเพื่อนฝูงและสาวๆไปเต็มพิพิธภัณฑ์เพื่อไปดูขาข้างนั้น แถมเฮฮาอย่างกับมีปาร์ตี้โดยนายพลสุดแสบคุยโขมงโฉงเฉงถึงวีรกรรมในสมรภูมิที่เก็ตตี้สเบิร์กหลังๆ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มชินปล่อยให้นายพลแดเนียลเม้ามอยกับกระดูกขาของตัวเองตามลำพัง
นายพลแดเนียลอายุยืนถึง 94เมียเด็กอันเป็นเหตุให้ฆ่าลูกชายกวีแห่งชาติตายก่อนเลยแต่งงานกับสาวผู้ดีในสเปนและมีลูกด้วยกันสองคนศพของนายพลคนแซ่บถูกฝังในสุสานอาร์ลิงตันอันถือเป็นเกียรติของทหารเช่นเดียวกับนายพลที่เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ทั้งปวงจะยกแว้นก็แต่กระดูกขาที่ยังคงอยู่ในพิพิธภัณฑ์และกลายเป็นเรื่องราวให้เล่าขานสืบต่อมา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี