นักการเมืองกับพวกนายทุนบางกลุ่มพยายามจะเปิดกาสิโนในเมืองไทยมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ก็ด้วย ตอนนั้นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างรวมหัวกัน แต่เสียงคัดค้านของประชาชนมีมากจึงเงียบไป แต่ในความเงียบนั้นพวกเขากลับเร่งศึกษาและทำแผนกันมาอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายอยู่แล้วว่าหลังรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ก็จะเปิดกาสิโน(ถูกกฎหมาย) จึงไม่แปลกใจที่ตอนนี้รัฐบาลในปัจจุบันพยายามเร่งจะเปิดให้ได้!
กาสิโนคืออะไร?
วิกิพีเดียบอกไว้ว่า “กาสิโน (อิตาลี : casino) เป็นสถานบันเทิงที่มีกิจกรรมการพนันเป็นกิจกรรมหลัก โดยปกติแล้วกาสิโนมักจะสร้างร่วมกับโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง หรือบางครั้งกาสิโนจะสร้างอยู่บนเรือนำเที่ยว ปัจจุบันมีกาสิโนมากกว่า 4,750 แห่งทั่วโลก”
แต่บทความนี้ตั้งชื่อว่า “เศรษฐกิจกาสิโน” ซึ่งแตกต่างจากคำว่ากาสิโนข้างต้น เพราะมีคำว่า “เศรษฐกิจ” อยู่ข้างหน้าด้วย
เป็นคำที่ผมบัญญัติขึ้นเอง และขอนิยามว่า “คือเศรษฐกิจที่มีการลงทุนเพียงส่วนเดียว มีการจ้างคนทำงานบ้าง แต่เป็นการลงทุนโดยมีเป้าหมายเพื่อการเสี่ยงโชค ไม่ได้มีการผลิตและไม่มีผลผลิตใดเพื่อสังคม”
เศรษฐกิจกาสิโนจึงได้แก่ บ่อนการพนันทุกชนิด หวยบนดินและใต้ดิน บ่อนการพนันทุกประเภท การขายบริการทางเพศ การค้าสารเสพติด และอื่นๆ ที่มีแต่การมอมเมา ซึ่งต่างกับการลงทุนตั้งโรงงานผลิตเครื่องอุปโภคบริโภค โรงงานอุตสาหกรรมหนักต่างๆ การค้าขาย การทำธุรกิจ การประมงและการเกษตร เป็นต้น
บ่อนกาสิโนนี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสร้างเป็น Entertainment Complex ซึ่งประกอบด้วยการบริการต่างๆ เช่น กาสิโน (สถานที่เล่นการพนัน) ห้างสรรพสินค้าครบวงจร โรงแรมหรู 5 ดาว ร้านอาหาร และบาร์ ศูนย์การประชุม สนามกีฬา สวนสนุก สถานที่แสดงโชว์ สวนน้ำ พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและจำหน่ายสินค้า OTOP โดยรัฐบาลวางแผนเปิดในพื้นที่เป้าหมาย 5 แห่ง ได้แก่
1.พื้นที่ กทม. ท่าเรือคลองเตย 2.พื้นที่บางกะเจ้า (สมุทรปราการ) พื้นที่ฝั่งตรงข้ามท่าเรือคลองเตย 3.พื้นที่ EEC (ระยอง, ชลบุรี และฉะเชิงเทรา) 4.เชียงใหม่ 5.ภูเก็ต ซึ่งคาดว่า EntertainmentComplex แห่งแรกของไทยจะเปิดให้บริการได้ในปี 2576
คนที่สนับสนุนให้เหตุผลว่า การเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศไทยจะได้ประโยชน์มากกว่าเสีย เพราะคนที่เล่นการพนันก็เล่นอยู่ดี เงินพนันเหล่านี้จะไปตกอยู่กับกลุ่มคนที่มีอำนาจหรือไม่ก็นายทุนผู้มีอิทธิพล ส่วนประเทศเพื่อนบ้านก็เปิดกาสิโนหมดแล้ว เงินจำนวนไม่น้อยที่ไหลออกนอกประเทศ เพราะคนไทยไปเล่นในต่างประเทศกันมาก โดยประเทศไทยไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จึงควรเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศไทย เพื่อนำเงินมหาศาลนั้นมาพัฒนาการศึกษาและเก็บเป็นของรัฐ
มันเป็นการคิดแบบสิ้นคิด โง่เขลามักง่าย เอาแต่ได้ คิดแต่เรื่องเงินอย่างเดียวไม่สนใจคุณภาพของพลเมือง ไม่สนใจจริยธรรมของสังคมและคุณค่าของมนุษย์ว่าจะเป็นอย่างไร
เพราะการได้เงินจากแหล่งอบายมุขต่างๆ ไม่ว่าจะมากมายมหาศาลเพียงใด นั่นคือการส่งเสริมมันให้แพร่หลายมากขึ้น พร้อมกับทำลายศักยภาพของพลเมืองให้ตกต่ำอ่อนแอลง ทั้งด้านสุขภาพ การทำงานสติปัญญา ชีวิตในครอบครัว การฆ่าตัวตายการก่ออาชญากรรม และมีไม่น้อยที่ได้ทำลายทรัพย์สินและครอบครัวของตนให้พินาศ ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถเยียวยาด้วยเงินได้ ไม่ว่าจะมากเพียงใด
และยังจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นในสังคมอีกสารพัด เช่น ปัญหาอาชญากรรม รวมถึงปัญหาการฟอกเงินที่เป็นปัญหาอยู่ในหลายประเทศ
สังคมยุคใหม่ยิ่งบีบคั้น-เร่งเร้าให้คนอยากรวยเร็ว รวยทางลัด ทำงานน้อยได้เงินมาก และวิธีที่จะให้ได้เงินเร็วและมาก แต่ทำงานน้อยนั้นไม่มีอะไรเร็วและมากเท่ากับการพนันและขายยาบ้า พลเมืองจะเสพติดการพนัน-ยาบ้ามากขึ้นจนแก้ไขไม่ได้
การเปิดบ่อนกาสิโนจึงเท่ากับว่ารัฐบาลทำลายสังคมและประเทศให้ตกต่ำเสื่อมทราม
ทั้งที่หน้าที่ของรัฐนั้นคือการสร้างอรรถประโยชน์ให้แก่สังคม พัฒนาศักยภาพของพลเมืองให้พึ่งพาตนเองได้ สร้างสรรค์ประเทศให้เป็นสังคมอุดมปัญญา
เศรษฐกิจกาสิโนนั้นเป็นปัญหาของสังคม-ของประเทศ แต่รัฐบาลกับนายทุนกลับหน้าชื่นตาบานที่จะเหยียบย่ำประเทศชาติให้ตกต่ำเสื่อมทราม เพื่อผลประโยชน์อันมหาศาลของพวกตน
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี