รีดเดอร์ส ไดเจสท์ (Reader's Digest) เป็นนิตยสารรายเดือนของอเมริกา เกิดจากความคิดของเดอวิตต์ วอลเลซ และภรรยาคือ ไลลา เบล อาชีสัน ฉบับแรกพิมพ์ปี ค.ศ.1922 เป็นหนังสือที่คัดย่อสรุปบทความต่างๆที่น่าสนใจรวบรวมไว้ รวมถึงคำคมและเรื่องตลกด้วย นับเป็นนิตยสารขายดีฉบับหนึ่งของโลก มีการจัดพิมพ์และจำหน่ายทั่วโลกใน 50 รูปแบบ และ 22 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย

ฉบับภาษาไทยพิมพ์ขายตั้งแต่ พ.ศ. 2539 ใช้ชื่อเป็นภาษาไทยว่า รีดเดอร์ส ไดเจสท์ สรรสาระ เป็นนิตยสารที่ขายดีฉบับหนึ่งของไทย   มีลักษณะพิเศษคือขนาดเล่มเล็กเท่าพอกเก็ตบุ๊กแบบเดียวกับต่วยตูน น่าเสียดายที่ปิดตัวลงในปี พ.ศ.2557

นิตยสารเล่มนี้มีการประกวดเรื่องตลกที่จัดประกวดอย่างต่อเนื่อง แสดงว่าเอาจริงเอาจังกับการเล่าเรื่องตลกมาก  แถมไม่ได้จัดประกวดกันแค่ในอเมริกา แต่มีการจัดประกวดทั่วโลกที่ตีพิมพ์นิตยสารเล่มนี้ในภาคภาษาอื่น

เมื่อสิบกว่าปีก่อน รีดเดอร์สไดเจสท์จัดประกวดเรื่องตลกที่สุดในโลก ปรากฎว่าผู้ชนะเป็นคนสวีเดน  การประกวดนี้จัดแบบออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสส่งเรื่องตลกที่คิดว่าเจ๋งสุดๆ เข้าประกวด  คัดจากรีดเดอร์ส ไดเจสท์ ใน 30 ประเทศทั่วโลก  คว้าเงินรางวัลไปพันเหรียญหรือสี่หมื่นบาทไทย (เทียบค่าเงินในช่วงนั้น)

เรื่องที่ชนะรางวัลมีอยู่ว่าชายแต่งตัวดีคนหนึ่งจากกรุงสตอกโฮล์มไปล่าสัตว์ในชนบท  แกยกปืนเล็งนกเป็ดน้ำแล้วยิงเปรี้ยง   ปรากฏว่านกตกลงในที่ดินของชาวนาคนหนึ่ง  ซึ่งอ้างว่านกตัวนี้เป็นของตน ทั้งคู่เถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด     ต่างยืนยันความเป็นเจ้าของ ชาวนาเลยเสนอให้ใช้วิธีเตะเป้าแบบโบราณ

“ข้าจะเตะเป้ากางเกงแกก่อนล่ะวะ   จากนั้นแกค่อยเตะข้าคืน ใครร้องเสียงเบากว่า ก็จะได้นกไป”

ชาวกรุงตกลง  ชาวนาเตะผ่าหมากเต็มแรง จนไอ้หนุ่มกรุงลงไปนอนกุมเป้างอก่องอขิงอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง  พอลุกขึ้นได้ก็ตะคอกใส่ชาวนา

“เอาละ ถึงตาข้าบ้าง”

“ไม่ต้องแล้ว”

ชาวนายักคิ้ว ก่อนหันหลังเดินจากไป

“แกเอานกไปได้เลย”

ส่วนมากแล้วมุขตลกในรีดเดอร์ส ไดเจสท์ เป็นมุขตลกสุภาพ ไม่มีมุขหยาบๆ หรือการเมืองปน แต่ถ้าชอบมุขตลกแบบถึงอกถึงใจ คนอเมริกันจะอ่านนิตยสาร Mad ที่พิมพ์มาตั้งแต่ปี 1952 จนถึงปัจจุบัน มีครบครันทั้งตลกลามกไปยันตลกการเมือง

ส่วนมากแล้วตลกอเมริกันหนีไม่พ้นเรื่องอวดตัวว่าตนนั้นดีกว่าชาติอื่น และเกทับใส่รัสเซีย ตลกแบบนี้มีเพียบในอเมริกา เช่นเรื่องนี้

ช่วงยุคสงครามเย็น  พี่หมีขาวรัสเซียต้องการอวดแสนยานุภาพ เพื่อข่มวัยรุ่นอเมริกัน เลยตั้งทีมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามจิตวิทยา  นักจิตวิทยารัสเซียประชุมเคร่งเครียด แล้วแจ้งต่อประธานาธิบดีรัสเซียว่าต้องสั่งซื้อถุงยางอนามัยของอเมริกา   ประธานาธิบดีรัสเซียยืนงง เอ๊ะ..ถุงยางมันเกี่ยวอะไรกับความเป็นมหาอำนาจโลก แปลกใจเหลือหลายเลยถามกลับว่า

 “ทำไมเราต้องสั่งซื้อถุงยางอนามัยจากอเมริกา”          

ทีมผู้เชี่ยวชาญยืดอกแล้วตอบฉาดฉาน เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วห้อง  ทุกคนผงกหัวเห็นด้วย

“คืองี้นะ ท่านประธานาธิบดี   เราระบุในใบสั่งซื้อไปเลยว่า รัสเซียต้องการซื้อถุงยางอนามัยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ความยาว 1 ฟุต จำนวน 2  ล้านชิ้น   เราจะจ้างอเมริกาผลิตให้  โดยออเดอร์โดยตรงไปที่ทำเนียบขาว”

ว่าแล้วผู้เชี่ยวชาญก็เดินไปหาประธานาธิบดีรัสเซีย  พลางป้องปากกระซิบกระซาบ ส่วนท่านประธานาธิบดีเบิกตาโพลง   หัวเราะร่าอย่างเห็นดีเห็นงามด้วย

เมื่อทำเนียบขาวได้ออเดอร์จากทางรัสเซีย ประธานาธิบดีอเมริกาถึงกับเรียกประชุมทีมที่ปรึกษาทันที จากนั้นก็ประชุมกันอย่างคร่ำเคร่งโดยถือเป็นวาระแห่งชาติ

“โอ้โห..พวกเราจะทำไงดี นี่ถ้าวัยรุ่นอเมริกันรู้คงเครียดตายเลย  ดูสิ.. เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ยาวตั้งฟุตนึงแน่ะ”

หลังประชุมเครียดสามวันสามคืน สุดท้ายนักจิตวิทยาอเมริกันมีคำตอบให้ท่านประธานาธิบดี

“ไอว่าเอาอย่างงี้ เรารับออเดอร์พวกรัสเซียแหละ ผลิตถุงยางตามที่พวกนั้นต้องการ แต่เราจะพิมพ์หน้ากล่องว่า ถุงยางอนามัยผลิตในอเมริกา ขนาดกลาง  ไม่ใช่ขนาดใหญ่”

เชื่อเถอะ..ไม่ว่าโลกจะพัฒนาไปไกลขนาดไหน ชาวโลกยังรักเสียงหัวเราะ การเล่าเรื่องตลกปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ตราบใดที่เรายังมีอารมณ์ขัน ชีวิตย่อมมีความสุขแน่นอน