วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ใครๆก็รู้ว่าลุงแซมเป็นพ่อค้าอาวุธและมาเฟียผู้เสพความตายระดับโลก แต่วันร้ายคืนร้าย การให้สิทธิ์พกปืนโดยเสรีส่งผลร้ายในบ้านตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนต้องคำสาป อเมริกากลายเป็นประเทศที่เกิดเหตุการณ์การกราดยิงมากที่สุดในโลก ก่อให้เกิดการถกเถียงว่า ทำไมจึงเกิดเหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา หรือว่านี่คือความปกติในสังคมอเมริกัน..?
รายงานของสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐหรือเอ็นไอเอชระบุว่า สหรัฐเป็นประเทศที่มีอัตราการกราดยิงเพื่อสังหารหมู่เป็นจำนวนมากครั้งที่สุดในโลก โดยอยู่ที่ 90 ครั้งระหว่างปี พ.ศ. 2509-2555 คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของเหตุกราดยิงทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลก
ตามรายงานยังระบุว่าอเมริกาเป็นประเทศที่มีจำนวนอาวุธปืนหมุนเวียนในตลาดมากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน อยู่ที่ประมาณ 270-310 ล้านกระบอก เทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศอยู่ที่ราว 319 ล้านคน ซึ่งหมายความว่าชาวอเมริกันแทบทุกคนมีปืนเป็นของตัวเองอย่างน้อยคนละ 1 กระบอก
ทุกครั้งหลังเหตุการณ์กราดยิง คนอเมริกันหันมาถกเถียงอย่างดุเดือดว่าควรออกกฎหมายจำกัดสิทธิในการพกปืนหรือไม่ เพราะการมีปืนไว้ครอบครองนั้นง่ายมาก ทุกคนเลยอยากซื้อปืน อ้างว่ามีไว้ป้องกันตัว แต่ไม่มีใครย้อนคิดถึงสาเหตุของการมีปืนไว้ประจำบ้านว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ทุกครั้งที่ถกประเด็นเรื่องการควบคุมอาวุธปืน จะต้องมีฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายไม่เห็นด้วย
ฝ่ายที่ไม่อยากให้มีการควบคุมอาวุธปืนชักแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายว่า การก่อร่างสร้างบ้านลุงแซมนั้นสร้างมาจากปืน อเมริกาเป็นประเทศที่ก่อร่างตั้งตัวขึ้นมาด้วยการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก อาวุธถือเป็นสิ่งจำเป็นตั้งแต่ในยุคเริ่มบุกเบิกจนตั้งประเทศได้ บวกกับการให้สิทธิเสรีภาพในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง
ดังนั้นการให้ประชาชนมีอาวุธปืนไว้ใช้ป้องกันตนเอง จึงถูกตราไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของปวงประชา การครอบครองอาวุธปืนเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา และการออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืน จะยิ่งทำให้ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรต่างๆ มากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่สามารถปกป้องตัวเองจากภัยคุกคามต่างๆ ได้ จากนั้นก็ยกสโลแกนเก๋ๆ ขึ้นมาตบท้ายว่า
“Gun does not commit crime, people do !”
.jpg)
ส่วนฝ่ายที่อยากให้มีการควบคุมอาวุธปืนก็ลุกมาโต้แย้งแสดงเหตุผลนานาประการเช่นกัน ว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกฎหมายที่เข้มงวดกว่านี้ในการครอบครองอาวุธปืน เพื่อลดความเสี่ยงที่เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก งานศึกษาหลายชิ้นพบความเชื่อมโยงระหว่างจำนวนการครอบครองปืนและการฆาตกรรม คือรัฐที่มีผู้ครอบครองปืนมากกว่าจะมีเหตุการณ์ฆาตกรรมมากกว่ารัฐอื่น
ทุกครั้งที่มีการถกเถียงในเรื่องนี้ มักถูกคัดค้านอย่างแข็งขันจากเหล่าบริษัทผู้ผลิตปืนทั้งหลายในทำนองว่าการครอบครองปืนเป็นสิทธิพื้นฐานที่ใครละเมิดมิได้ แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องสิทธิเสรีภาพอะไรหรอก เป็นเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ เพราะถ้ามีการควบคุมอาวุธปืนขึ้นมาจริงๆ บริษัทผลิตปืนทั้งหลายเสียรายได้มหาศาลแน่นอน ถึงเกิดการคัดค้านตลอดเวลา
ในยุคประธานาธิบดีโอบาม่ามีการใช้กฎระเบียบใหม่ว่าด้วยการซื้อขายอาวุธปืนในอเมริกา ว่านับจากนี้เป็นต้นไปกำหนดให้มีการตรวจสอบภูมิหลังผู้ขอซื้อปืนเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากมีแถลงการณ์นี้ออกมา สมาชิกสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติโวยวายทันทีโดยอ้างว่า “ขัดต่อหลักการเสรีภาพของอเมริกา”
จะว่าไปแล้วก็ไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เพราะสมาคมปืนยาวแห่งชาติ (The National Rifle Association – NRA) มีอิทธิพลสูงมากในสภา และเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของพรรครีพับลิกันอีกต่างหาก ในขณะที่ผลประโยชน์ในด้านการค้าอาวุธของอเมริกานั้นมีมูลค่ามหาศาล
สมาคมปืนยาวแห่งชาติ (The National Rifle Association – NRA) มีงบมหาศาลที่จะทุ่มไปกับการล็อบบี้นักการเมือง แถมยังมีสมาชิกที่เป็นผู้ออกเสียงอีกราว 5 ล้านคน เมื่อปี 2016 เอ็นอาร์เอทุ่มงบประมาณ 4 ล้านดอลลาร์หรือ133.5 ล้านบาทไปกับการล็อบบี้ และอีกกว่า 50 ล้านดอลลาร์หรือ 1.7 พันล้านบาท เพื่อหาเสียงสนับสนุนทางการเมือง
หลังจากเกิดเหตุกราดยิงติดต่อกันและนับวันจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ มะริกันชนเริ่มตระหนักว่าคงพึ่งประธานาธิบดีและพรรคการเมืองไม่ได้ เพราะไม่ว่าเหตุร้ายแบบนี้เกิดขึ้นกี่ครั้งและอายุของฆาตกรนับวันจะยิ่งน้อยลงทุกที แต่สมาคมปืนยาวหรือ NRA ยังคงคัดค้านอย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมให้มีการจำกัดใดๆ ต่อสิทธิเสรีภาพที่จะถืออาวุธปืนตามที่ระบุเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ พูดง่ายๆ คือ ไม่รู้ไม่ดูไม่แคร์ชีวิตใครแต่ผลประโยชน์กูต้องปกป้องยิ่งชีพนั่นแหละ

ชั้น 14 ทำพิษ! ยธ.สั่งปรับปรุงระเบียบ ส่งผู้ต้องขังรักษานอกเรือนจำ ป้องกันเอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังบางราย
ถามกลับจี๊ด! 'ดัง พันกร'ฟาดเดือด'แจ๊กแปปโฮ' ถ้าเขมรทำแบบนี้ในไทย..จะรู้สึกยังไง?
'บิ๊กเล็ก' ลั่น สบายใจ หลัง 'ฮุน เซน' ท้าปิดด่าน 100 ปี ยันไม่ปล่อย 18 เชลยศึก
สื่อกัมพูชาขยันปล่อยเฟคนิวส์! กุเรื่องไทยเตรียมโจมตีจ.โพธิสัตว์-ทหารไทยชุดดำขืนใจสาวเขมร
'พล.อ.ทรงวิทย์' บวชอุทิศส่วนกุศล ให้กับทหารที่เสียชีวิต (ชมคลิป)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี