...แล้ววันนั้น วันที่คนทั้งในและนอกวงการบันเทิงหลายคน รอคอย...

...คือการที่จากไปของพระเอกนิสัยดี ดีกรี “ตุ๊กตาทอง” ผู้แสดงนำประกอบชายได้มาถึง

.. “เปี๊ยก” อโนเชาว์ ยอดบุตร

ไม่มีใคร แม้แต่ญาติพี่น้องสนิทใกล้ชิด อยากจะยื้อยุดไว้

เพราะเขากลายเป็น “เจ้าชายนิทรา” ที่มีแต่ร่างกาย และลมหายใจรวยริน ให้เห็นนานจนแฟนหนังอาจลืมเขาไปแล้วก็ได้

ยกเว้น ตลอดระยะเวลาที่เขานิทราสนิทเนิ่นนานนั้น....

มีเพียง แม่อำไพ แม่บังเกิดเกล้าเท่านั้น ที่คอยเฝ้าเช็ดตัว เช็ดหน้าตา เเละป้อนอาหารให้

แต่ “เปี๊ยก” อโนเชาว์ ที่แม้แต่วิญญาณ ก็ไม่น่าจะเหลืออยู่กับร่าง

ไม่มีทีท่าว่าจะรับรู้ในทุกสรรพสิ่ง นอกจากอาการกะพริบตา ให้หลายคนได้เห็นเป็นความหวัง

หนังเรื่อง “ รักกันวันละนิด” ของ พรพจน์ กนิษฐเสนผู้กำกับที่แสนอาภัพเหมือนกัน ปิดกล้องวันนั้น

....วันที่ 30 ตุลาคม 2526

...ทุกคนเดินทางกลับด้วยความชื่นมื่น

บันทึกเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เล่าว่า “เปี๊ยก” อโนเชาว์ นั่งอยู่ตอนท้ายของรถจี๊ป

ด้วยท่าทางที่สนุกเกินกว่าอาการสนุกทั่วไป ร้องเพลง เฮฮา โดยมี สรพงศ์-จารุณี ดารานำ นั่งอยู่ด้านหน้า

จนทุกคนลืมไปว่า ที่ที่เขานั่งนั้น คือท้ายรถ ที่เมื่อรถสะดุดกับหล่ม หรือหิน ทำให้อุบัติเหตุ น่าสลดใจ

....เกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน..!!

มันอาจเป็นเรื่องเหมือนธรรมดากับอุบัติเหตุทั่วไป

เพียงแต่วันนั้น มันเป็นความสนุกครั้งสุดท้ายของพระเอกผู้นี้

@@@@@@@@@

“เปี๊ยก” อโนเชาว์ มีเพื่อนที่เขามักจะร่วมวงด้วยเสมอ ก็คือ “นก” ฉัตรชัย เปล่งพานิช ผู้ที่ผันตัวเองมาอยู่เบื้องหลังการแสดงวันนี้

เพลงที่ทั้งคู่มักจะร้องร่วมกัน หลังวงเหล้าเสมอคือเพลง “บัวลอย” ของ แอ๊ด คาราบาว เรียกว่า เมาได้ที่เมื่อไร เพลงนี้จะดังสนั่น

อนาคตทางการแสดงของ “เปี๊ยก” อโนเชาว์ น่าจะไปได้ดีไม่แพ้ดารารุ่นเดียวกัน ด้วยเขาไม่เลือกที่จะเล่นหนังเรื่องอะไร แนวไหน เพียงมีคนร้องขอให้เล่น “เปี๊ยก” ไม่เคยเกี่ยงบท

ครั้งหนึ่ง “เปี๊ยก” อโนเชาว์ ได้รับการร้องขอจากผู้ที่เขานับถือ ให้รับงานหนังเรื่องหนึ่งคู่กับ สินจัย หงษ์ไทย นางเอกวัยรุ่นมาแรงช่วงนั้น ที่ยังมีผลงานขณะนี้

เป็นหนังที่สร้างกรรมเเละทุกข์ซ้ำซ้อนให้เขาอย่างมาก

และเป็นหนังเรื่องเดียวที่ผู้กำกับ ซึ่งในวงการให้สมญาว่า “ยอดชั่ว”

ทั้งสร้าง (โดยเมีย เป็นอดีตนักพากย์ชื่อดัง และเสียชีวิตไปแล้วเป็นผู้ลงทุนสร้าง) และผู้กำกับยอดชั่วนี้กำกับ

ใช้วิธี เขียนบทหนังทีละใบ แล้วตัวผู้เขียนบท เอาไปกำกับฯเองหน้ากล้อง…!!

คือต้องถ่ายไป เขียนบทไป และ กำกับไป หนังติดตะกุกตะกัก ชะงักมาตลอดการทำงาน

“ช่อ ชัยพฤกษ์” เห็นมากับตา กองถ่ายหนังเรื่องนี้ ไปตั้งกองสถานที่หนึ่ง แต่ผู้กำกับฯยอดชั่ว นัดหมายให้ “เปี๊ยก” อโนเชาว์ไปอีกที่หนึ่ง

ทำให้พระเอกผู้มีดีกรี “ ตุ๊กตาทอง” ต้องน้ำตาตก ด้วยข้อหา ....

มาเข้ากองถ่ายช้า และโดนทั้งด่า โดนทั้งตัดตัวจากการแสดง อย่างตั้งใจ

ที่สำคัญคือตั้งใจไม่จ่ายค่าตัว ที่ตั้งไว้ 70,000 บาท!!

โดยแก้บทให้พระเอกหายไปในช่วงกลางของหนัง เพราะใครจะคิดว่า การถ่ายทำหนังเรื่องนี้

มีการวางแผนถ่ายตอนต้นเรื่อง และตอนจบเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว..!!

คือถ้า ดาราคนใด สร้างปัญหา หนังจะปิดกล้องได้โดยเนื้อหาไม่เสีย

การจากไปครั้งนี้ของ “เปี๊ยก” อโนเชาว์ คงบันทึกไว้แค่ในความทรงจำของวงการบันเทิง แต่ด้วยความจริง ทุกคนคิดว่า

เปี๊ยก-อโนเชาว์ ควรพ้นบ่วงกรรม นี้ไปนานแล้ว เพราะ 30 กว่าปีที่เขากลายเป็นเจ้าชายนิทรานั้น มันทรมานเหลือเกินกับมารดา ที่ดูแลลูกไม่ห่าง

วันที่ 26 มีนาคม คนบันเทิงทั้งรุ่นเก่าและใหม่ ควรไปร่วมกันส่งดวงวิญญาณของเขาขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ

โดยเฉพาะ “นางเอกสาวสวยอิมพอร์ตจากอเมริกา”ที่น่าจะเป็นรายเดียว ที่เป็นคนบันเทิงซึ่งเขาคบด้วย

หรือไม่น่าพลาดเลยกับ เเฟนตัวจริงนอกวงการ ที่คบกันมานาน แล้วเลิกราไป หลังจากมองเห็นว่า เขาไม่น่าจะกลับมาเหมือนเดิม

และสำหรับวันนี้เช่นกัน กับผู้กำกับยอดชั่วรายนั้น

เขาควรสำนึกถึงกรรมที่ทำไว้ กับ “เปี๊ยก” อโนเชาว์ ยอดบุตร พระเอก สุดสงสารของวงการบันเทิง

สิทธิ์ สุดท้ายแห่งการขอขมา คุณทำได้ แค่วันเดียวเท่านั้น...!!

วันที่ 26 มีนา คือวันฌาปนกิจศพ ของพระเอกผู้นี้...!!

ช่อ  ชัยพฤกษ์