(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
2.การรักษามะเร็งตับด้วยวิธีผ่านหลอดเลือด
การปฏิบัติตัวหลังการตรวจ :ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำให้นอนอยู่บนเตียง และเหยียดขาด้านที่มีรอยใส่สายสวน เป็นเวลา 6 ชั่วโมง อาจได้รับอนุญาตให้รับประทานน้ำ และอาหารได้หากไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน การปัสสาวะ และอุจจาระ ยังคงต้องทำบนเตียงในระหว่าง 6 ชั่วโมงนั้น พยาบาลจะเปลี่ยนผ้าพันแผล บริเวณขาหนีบให้ในวันรุ่งขึ้นหากผู้ป่วยมีอาการปวดแผลหรือปวดท้อง สามารถขอยาจากเจ้าหน้าที่พยาบาล ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ ซึ่งถ้ามีอาการมากสามารถขอยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้
ผลข้างเคียงจากการรักษา :ส่วนมากแล้วค่อนข้างปลอดภัย ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยได้แก่ อาการไข้หลังการรักษา 1-2 วัน ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 40 อาจมีอาการจุกแน่นบริเวณช่องท้องข้างบนในบางรายอาจมีอาการปวดบวมบริเวณขาหนีบ บริเวณที่มีการใส่สายสวนซึ่งมักจะหายได้เองในสัปดาห์แรก
ต้องทำบ่อยแค่ไหน :โดยเฉลี่ยจะทำการรักษา 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 เดือน โดยก่อนการรักษาครั้งที่ 2 จะมีการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อประเมินการตัดสินใจ และอาจมีการใช้วิธีการรักษาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การใช้เข็มความร้อน RF
3.การรักษามะเร็งตับด้วยไมโครเวฟ
เป็นการรักษาโดยใช้เครื่องมือเเพทย์ชนิดหนึ่งที่นำพลังงานคลื่นไมโครเวฟที่พัฒนาเป็นเข็มขนาดใหญ่ที่ใช้สอดหรือฝังเข้าไปในก้อนมะเร็งผ่านเเผลเล็กๆ ขนาด 2-3 มม. ที่ผิวหนัง โดยอาศัยเครื่องมือที่ทำให้เห็นภาพก้อนเนื้อจากภายนอกเช่นเครื่องอัลตราซาวนด์ หรือ ซีที สแกน เป็นตัวนำทางให้สามารถสอดเข็มเข้าไปในอวัยวะที่มีก้อนเนื้อเช่น ตับ ไต ปอด โดยที่ปลายของเข็มมีระบบบที่สามารถปล่อยพลังงานไมโครเวฟที่สร้างความร้อนระดับ 90-100 องศา ทำให้ก้อนเนื้อเกิดการเผาไหม้และตายอย่างสมบูรณ์ โดยซากของเนื้อตายภายในอวัยวะก็จะกลายเป็นแผลเป็น(จริงๆ น่าจะเรียกว่าแผลตายมากกว่า)
วิธีการนี้สามารถนำมาใช้ในการรักษามะเร็งชนิดที่เป็นก้อน(solid) ที่มีขนาดไม่เกิน 4-5 ซม. เป็นที่นิยมอย่างเเพร่หลายในการรักษามะเร็งตับ และ มะเร็งปอดแบบที่ผ่าตัดไม่ได้
ข้อดีอย่างมากคือเเผลเล็กมาก หายไว เจ็บน้อย นอน โรงพยาบาลแค่คืนเดียว และค่าใช้จ่ายยังไม่สูงเมื่อเทียบกับการผ่าตัดตับแบบเก่าที่ต้องเปิดท้อง ตัดทำลายเนื้อตับเป็นปริมาณมากๆ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง
ปัจจุบันการรักษามะเร็งโดยการใช้เข็มไมโครเวฟ แพร่หลายมากขึ้นในบ้านเรา แต่ยังมีข้อจำกัดตรงที่แพทย์ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะแพทย์ด้านรังสีร่วมรักษาหรือศัลยกรรมยังมีจำนวนไม่มากนัก
4.การรักษามะเร็งตับด้วยการฉีดสารกัมมันตภาพรังสี
เป็นวิธีที่ค่อนข้างใหม่ เหมาะสมกับมะเร็งตับที่มีการลุกลามเข้าไปในหลอดเลือดดำของตับ(แต่การทำงานของตับยังพอใช้ได้อยู่) หลักการรักษาคล้ายกับการทำ TOCE หรือ TACE คือมีการสอดสายสวนเข้าไปในหลอดเลือดแดงของตับที่เลี้ยงก้อนเนื้อ แล้วทำการฉีดสารกัมมันตภาพรังสีที่เรียกว่า Yttrium (ยิตเทรียม)เข้าไป ซึ่งสารดังกล่าวจะปล่อยรังสีชนิดเบต้า ตรงก้อนเนื้อและออกฤทธิ์ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงจากนั้นจะสลายตัวไปเอง ไม่มีการตกค้างอยู่ในร่างกาย
การรักษาวิธีนี้บางคนอาจเรียกว่า Radioembolization หรือ SIRT (Selective internal Radiation therapy) ซึ่งอาจมีราคาค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเนื่องจากต้องนำเข้าสารกัมมันตภาพรังสี และอุปกรณ์จากต่างประเทศ เพื่อนำเข้ามาฉีดให้ผู้ป่วยเป็นรายๆ ไป ขั้นตอนการทำมีความยุ่งยากมากกว่าการรักษา TOCE โดยเฉพาะต้องมีการตรวจโดยการฉีดสีดูเส้นเลือดตับและทดสอบว่าสามารถทำการรักษาได้โดยไม่มีผลข้างเคียง เมื่อแน่ใจแล้วจึงจะมานอนโรงพยาบาลอีกครั้งในสัปดาห์ต่อมาเพื่อทำการรักษา
ผลข้างเคียงส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น ปวดทองคลื่นใส้ อาเจียนใน 1-2 วันแรก หลังการรักษา ส่วนผลการรักษาใกล้เคียงกับการรักษาด้วย TOCE แต่สามารถทำได้ในกรณีที่โรคได้กินเข้าในหลอดเลือดดำแล้ว ซึ่งไม่สามารถรักษาด้วยวิธี TOCE ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี