วันเสาร์ ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ผู้หญิง / ทันโลกทันเหตุการณ์
ทันโลกทันเหตุการณ์

ทันโลกทันเหตุการณ์

แพทยสภา
วันเสาร์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
สุขภาพตา by สมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ‘ภูมิแพ้ขึ้นตา’ โดย นายแพทย์ วีรภัทร อุดมวงศ์

ดูทั้งหมด

  •  

ภูมิแพ้ขึ้นตาคืออะไร และ มีอาการอย่างไรบ้าง

  • โรคภูมิแพ้ขึ้นตาหรืออีกชื่อคือโรคเยื่อบุตาอักเสบที่เกิดจากภูมแพ้ เกิดจากเยื่อบุตาขาวมีการสัมผัสกับสารก่อการแพ้ เช่น ไรฝุ่น, เกสรดอกไม้, ขนสัตว์ (แมว, สุนัข) ซึ่งสารเหล่านี้จะกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดที่อยู่ตามเยื่อบุตาหลั่งสารกระตุ้นที่ชื่อว่า ฮีสตามีน (Histamine)
  • ฮีสตามีน (Histamine) จะกระตุ้นให้เกิดอาการคันตา ร่วมกับมีตาแดง น้ำตาไหล หากอาการเป็นมากอาจมีตาแพ้แสง มีขี้ตาสีขาวเหนียว เปลือกตาอาจมีการบวมแดง เยื่อบุตาขาวอาจบวม และมีลักษณะคล้ายวุ้นได้ อาจมีการระบบอื่นร่วมเช่น คันผิวหนัง ไอจาม และน้ำมูกไหลร่วมได้ด้วย
  • หากเป็นเรื้อรังอาจมีผลเสียของการขยี้ตาเกิดขึ้นดังนี้
    •  ผิวรอบดวงตาเป็นสีดำ
    • อาจเกิดภาวะหนังตาตกได้จากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อรอบดวงตาซ้ำๆจากการขยี้ตา
    • เกิดภาวะกระจกตาโก่งย้วยได้

ภูมิแพ้ขึ้นตาสามารถพบได้ในกลุ่มประชากรใด ช่วงอายุไหน ที่พบได้บ่อย

  • สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่มักจะพบได้ในเด็กช่วงอายุ 5-10 ขวบ บ่อยกว่าช่วงอายุอื่นๆ

ภูมิแพ้ขึ้นตามีกี่ชนิด และมีลักษณะอย่างไรบ้าง

  • ชนิดเฉียบพลัน (พบได้บ่อย) เกิดจากการที่มีสารก่อภูมิแพ้มากระตุ้นและก่อให้เกิดอาการทางตาขึ้นมาทันที เช่นสัมผัสไรฝุ่นแล้วมีอาการคันตา ตาแดง โดยชนิดเฉียบพลันสามารถแบ่งได้ 2ชนิดคือ
    • ชนิดที่เป็นตามฤดูกาล เช่นช่วงฤดุใบไม้ผลิ ช่วงที่มีอากาศร้อน หรืออากาศแห้งก็สามารถกระตุ้นให้มีอาการกำเริบขึ้นมาได้ บางคนมีอาการช่วงที่มีการสัมผัสเกสรดอกไม้ ซึ่งมักเป็นตามฤดูกาล
    • ชนิดที่เป็นๆหายๆ มีอาการตลอดทั้งปี มีช่วงที่มีการกระตุ้นขึ้นมาทีก็มีอาการ และมีช่วงที่อาการสงบไปเป็นบางช่วง
  • ชนิดเรื้อรัง มักมีความรุนแรง และรักษาได้ยากกว่า มีช่วงที่อาการดีสลับกับอาการแย่ลง ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น คือมีกระจกตาที่ผิดปกติร่วมด้วย ซึ่งการรักษาจะมีความซับซ้อนมากกว่าชนิดฉับพลัน

สารก่อภูมิแพ้ที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ขึ้นตามีอะไรบ้าง และสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสได้อย่างไรบ้าง

  • สารที่กระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ในแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันตามบุคคล สำหรับสารที่พบว่าก่อภูมิแพ้ได้บ่อยคือ ไรฝุ่น ขนสัตว์จำพวกขนแมว ขนสุนัข เกสรดอกไม้ และ สารในน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ อย่างไรก็ตามประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีภูมิแพ้ขึ้นตาไม่สามารถหาสารที่เป็นปัจจัยกระตุ้นได้พบ

การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ขึ้นตาทำได้อย่างไร

  • แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากประวัติและการตรวจร่างกายเป็นหลัก
    • จากประวัติ เริ่มจากการมีอาการตาแดง คันตา น้ำตาไหล อาจมีขี้ตาสีขาวร่วมด้วย และมีประวัติสัมผัสสารก่อภูมิแพ้
    • จากการตรวจร่างกาย จะพบลักษณะที่บ่งบอกว่ามีภูมิแพ้เกิดขึ้น เช่นเยื่อบุตาขาวมีสีแดงมากขึ้น หรือมีลักษณะเฉพาะที่สัมพันธ์กับภูมิแพ้ขึ้นตา ในกรณีที่เป็นภูมิแพ้ขึ้นตาเรื้อรังมีการขยี้ตามานานอาจพบลักษณะผิวรอบดวงตามีสีคล้ำได้
  • สำหรับการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ชนิดเจาะจงที่ก่อให้เกิดอาการนั้น ไม่ได้ทำการตรวจในคนไข้ทุกราย โดยจะเลือกทำในรายที่มีอาการรุนแรง หรือ เรื้อรัง
    • Skin prick test ตรวจด้วยการนำสารที่พบว่ามีการก่อภูมิแพ้ได้บ่อยมาจิ้มที่ท้องแขน และดูการตอบสนองที่ผิวของผู้ป่วยว่ามีการบวม นูน แดงหรือไม่ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกว่ามีอาการแพ้ โดยเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
    • การเจาะเลือดตรวจดูระดับภูมิคุ้มกัน (IgE) ที่ต่อสารที่แพ้บางชนิด
    • สำหรับการตรวจเพื่อให้ทราบว่ามีภูมิแพ้ที่เยื่อบุตาจริงไหม ทำได้โดยการขูดเยื่อบุตาขาว และนำไปตรวจดูว่ามีเม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophil สูงหรือไม่

การรักษาโรคภูมิแพ้ขึ้นตามีหลักการอย่างไรบ้าง และสามารถดูแลตัวเองอย่างไรได้บ้าง

  • การรักษาโดยไม่ใช้ยา
    • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ถ้าหากทราบชนิดสารดังกล่าวซึ่งเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ เช่นแพ้ไรฝุ่นสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และนำไปตากแดดบ่อยๆ ในกรณีที่แพ้ขนสัตว์ สามารถทำการแยกสัตว์ไม่ให้เข้ามาในห้องนอน
    • เมื่อมีอาการคันตา ให้พยายามไม่ขยี้ตาเพื่อลดการหลั่งสาร histamine จากเม็ดเลือดขาว ซึ่งถ้าหากขยี้ส่งผลให้อาการคันมากขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนในอนาคตได้
    • ล้างมือบ่อยๆในช่วงที่มีอาการแพ้เนื่องจากเป็นแหล่งที่นำสารก่อภูมิแพ้เข้าตาได้
    • ประคบเย็นบริเวณดวงตาเพื่อลดการหลั่ง histamine ส่งผลให้ลดอาการคันได้
    • ใช้น้ำตาเทียม หยอดตา
    • ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ที่ผิวกระจกตา
    • การนำน้ำตาเทียมแช่เย็น และหยอดตา ช่วยลดการหลั่งhistamine ได้
  • การรักษาด้วยการใช้ยา
    • ยาหยอดตาชนิด anti-histamine เพื่อลดอาการคันตา ตาแดง และบรรเทาอาการแพ้
    • ยาหยอดตาชนิด mast cell stabilizer เพื่อป้องกันการหลั่ง histamine จาก mast cell อย่างไรก็ตามระยะเวลาที่ใช้ออกฤทธิ์ช้า โดยใช้เวลาประมาณ2สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผล จึงมักให้ร่วมกับ anti-histamine และสามารถหยอดตั้งแต่เนิ่นๆช่วงที่ใกล้เข้าฤดูที่สัมพันธ์กับอาการแพ้ เพื่อเป็นการป้องกันอาการไม่ให้รุนแรง
    • ยาหยอดตาชนิด steroid ใช้ในกรณีที่เป็นเรื้อรังและรุนแรง โดยต้องใช้ระยะสั้น และสั่งโดยจักษุแพทย์

การใช้ immune therapy สามารถใช้กับภูมิแพ้ที่ตาได้หรือไม่ มีวิธีการทำอย่างๆไร

  • สามารถใช้รักษาภูมิแพ้ที่ตาได้ แต่ไม่ได้เลือกทำในผู้ป่วยทุกๆราย เลือกทำในผู้ที่มีอาการรุนแรงและมีอาการเรื้อรัง
  • การทำ immune therapy ต้องทำการปรึกษากุมารแพทย์ หรือ อายุรแพทย์ โรคภูมิแพ้
  • ต้องรู้ชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ชัดเจน จากการทำ skin prick test ซึ่งมากกว่า 50% ของผู้ป่วยมักไม่เจอสารก่อภูมิแพ้ที่ชัดเจน ซึ่งจะไม่สามารถทำ immune therapy ได้
  • ทำโดยการนำสารก่อภูมิแพ้ชนิดที่ผู้ป่วยแพ้ปริมาณน้อยๆมาทำการฉีดกระตุ้นที่ใต้ผิวหนัง โดยจะทำการฉีดกระตุ้นซ้ำๆเพื่อให้ภูมิคุ้มกันร่างกายชินกับสารกระตุ้นนั้นคล้ายเป็นการทำให้ร่างกายรู้จักกับสารตัวนี้และลดการเกิดการแพ้
  • พบว่าการทำ immune therapy ช่วยลดอาการภูมิแพ้ทางตา ทางจมูก และทางผิวหนังได้มากกว่าการหยอดยา และเมื่อเทียบผจากการำ immune therapy และการหยอดยาพบว่า IgE ลดลงมากกว่าด้วย

การรักษาคนไข้ภูมิแพ้ขึ้นตาแบ่งได้ 3กลุ่มคร่าวๆดังนี้

  • กลุ่มเด็กที่มีโรคภูมิแพ้เรื้อรัง อาการเป็นเยอะเป็นบ่อยมาด้วยตาแดงไปโรงเรียนไม่ได้ ตาแพ้แสงน้ำตาไหล ต้องได้รับsteroid ระยะสั้น และใช้ ยากดภูมิต่ำๆหยอดตา เช่น cyclosporin แนะนำและติดตามจนเข้าสู่วัยรุ่นหรืออาการดีขึ้น
  • กลุ่มช่วงอายุ 30-40 ปี  มาด้วยอาการคันตาเฉียบพลัน ตาแดงน้ำตาไหล มีขี้ตา และมีประวัติสัมผัสสารที่แพ้ มักเป็น2ข้าง แพทย์แนะนำหลีกเลี่ยงสารแพ้ และอาจให้ยาหยอดและรับประทาน  antihistamine
  • กลุ่มผู้สูงอายุ 70-80ปี มาด้วยอาการเคืองตาคันเปลือกตา คันหัวตา ส่วนใหญ่มักเป็นจากภาวะตาแห้ง โดยส่วนน้อยเป็นจากอาการแพ้ บางรายมีเปลือกตาอักเสบร่วมด้วย โดยกลุ่มนี้อาจรักษาโดยการทำความสะอาดเปลือกตา และรักษาภาวะตาแห้ง

ภาวะแทรกซ้อนต่อดวงตาที่สามารถเกิดได้จากการเป็นภูมิแพ้ขึ้นตาชนิดเรื้อรัง และ รุนแรง

  • มักเจอภาวะแทรกซ้อนในเด็ก ซึ่งเป็นสาเหตุที่แนะนำให้ทำการรักษา
  • เมื่อมีการขยี้ตาบ่อยๆในช่วงที่อายุยังน้อยโดยเฉพาะอายุต่ำกว่า20 ปี ซึ่งcollagen ในกระจกตายังไม่มีความแข็งแรงจะทำให้collagenนั้นเกิดความผิดปกติ เกิดกระจกตาโก่งย้วยได้ (Keratoconus)
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะนี้มักมีประวัติเปลี่ยนแว่นบ่อย เช่นสายตาสั้น และเอียงไวผิดปกติ ซึ่งในกลุ่มนี้แนะนำให้พบจักษุแพทย์เพื่อประเมินและทำการรักษาภูมิแพ้ขึ้นตาให้เหมาะสมต่อไป
  • ถ้ามีอาการรุนแรงมากๆอาจทำให้ผิวกระจกตามีปัญหา อาจมีภาวะตาแห้งมากกว่าปกติ
  • การขยี้ตาบ่อยๆอาจทำให้มีภาวะหนังตาตกได้ ซึ่งมีผลต่อกล้ามเนื้อที่ช่วยในการเปิดเปลือกตา

PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อการเกิดภูมิแพ้ขึ้นตาหรือไม่ และเรามีวิธีการดูแลป้องกันตนเองได้อย่างไรบ้าง

  • PM 2.5 มีองค์ประกอบหลายอย่าง เมื่อเข้าตาจึงสามารถก่ออาการแพ้ขึ้นมาได้เกิดอาการระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภูมิแพ้ตา  และมีภาวะตาแห้งเดิม
  • หลีกเลี่ยงได้ยาก อาจต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อเป็นการชะล้างฝุ่นที่ระคายเคืองตาออกไป บางรายที่มีภูมิแพ้หรือตาแห้งเดิมอาจต้องใช้น้ำตาเทียมหรือยาในการคุมอาการมากขึ้น

สามารถซื้อยาเองได้ไหมหรือต้องพบแพทย์ทุกครั้ง

  • ในกลุ่มเฉียบพลันเมื่อได้รับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากจักษุแพทย์ สามารถหาซื้อยาได้เองตามร้านขายยา เมื่อมีอาการเช่นยา antihistamine
  • ในกลุ่มภูมิแพ้ขึ้นตาเรื้อรัง ควรที่จะตรวจติดตามกับจักษุแพทย์เพื่อติดตามว่ามีลักษณะของดวงตาที่เกิดจากภูมิแพ้เรื้อรัง เพื่อที่จะได้ทำการรักษาต่อไป

การใช้ยาหยอดตา antihistamine ในระยะยาวมีผลเสียอย่างไรบ้าง

  • อาจเกิดภาวะตาแห้งได้ เนื่องจากยามีผลต่อการหลั่งน้ำตา และตัวยามีสารกันเสียผสมอยู่
  • ตัวยามีฤทธิ์ในการหดเส้นเลือด ทำให้หยอดไปแล้วตาหายแดงเร็ว แต่เมื่อหยอดไปนานๆ ฤทธิ์อาจลดลง และทำให้เมื่อหยอดไปตาอาจไม่หายแดงแล้ว
  • ถ้าหากต้องใช้ยาในระยาว และคุมอาการได้ไม่ดีควรพบจักษุแพทย์เพื่อเปลี่ยนยา และทำการรักษาต่อไป

 

“โรคภูมิแพ้ขึ้นตาเป็นภาวะที่พบใด้บ่อย ผู้ปกครองควรใส่ใจกับภาวะนี้ของเด็กและพามาพบจักษุแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อทำการรักษาและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนกระจกตาโก่งย้วยในเด็ก”

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:34 น. ‘นาวิกโยธิน’ตอบโต้‘กัมพูชา’หนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตย
08:24 น. ‘ทัพเรือ’ลั่น‘ฝึกอย่างไร รบอย่างนั้น’ ลุยฝ่าทุ่นระเบิด ผลักดันกำลังต่างชาติรุกล้ำอธิปไตย
08:15 น. ‘ธนกร’หนุนสภาฯไม่ตัดงบจัดซื้อ‘อาวุธ’กลาโหม ชี้เร่งเพิ่มขีดความสามารถกองทัพไทย
08:09 น. กองทัพภาค2 ส่งกำลังใจ'กองทัพเรือ' เจอ'เขมร'โจมตี ทหารไทยโต้กลับแบบสาสม
08:06 น. พาณิชย์จับมือส.อ.ท. ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ
ดูทั้งหมด
ด่วน! ทอ.ส่ง 'F-16' 6 ลำ ทิ้งระเบิดพื้นที่ช่องอานม้าของกัมพูชา
ละลาย! F-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 ไม่พลาดเป้า 4 เครื่องกลับฐานบินปลอดภัย
เหตุปะทะล่าสุด! เขมรงัดอาวุธหนัก 'อาร์พีจี-ปืนใหญ่กระสุนแตกอากาศ' กระหน่ำยิงไทย
'น้องนนท์' เด็ก Gen Z อัดเขมร ชาวเน็ตชมความคิดดี เก่งกว่า รมต.บางคนอีก
'กัมพูชา'ขอโทษ!เปลี่ยนใช้โลโก้'ซีเกมส์'ไทยเป็นรูปควาย
ดูทั้งหมด
เปิดเวทีฟังความเห็น (ร่าง)บริหารบัตรทองปี’69
บุคคลแนวหน้า : 26 กรกฎาคม 2568
ไม่ใช่พ่อฮุนเซน แต่เป็นขี้ข้าฮุนเซน
Last dinner ฤา Swan song ของพ่อลูก ชินวัตร
ขอมป่าเถื่อน?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทัพเรือ’ลั่น‘ฝึกอย่างไร รบอย่างนั้น’ ลุยฝ่าทุ่นระเบิด ผลักดันกำลังต่างชาติรุกล้ำอธิปไตย

กองทัพภาค2 ส่งกำลังใจ'กองทัพเรือ' เจอ'เขมร'โจมตี ทหารไทยโต้กลับแบบสาสม

แม่ซึ้งน้ำใจ! ลูกชาย 'ส.อ.อภิวัฒน์' พ้นขีดอันตรายแล้ว ขอบคุณคนไทยทุกคน

นิวจ๊อบ !นักแสดง 7HD เสิร์ฟความสามารถใหม่ช่อง 7HD คืนกำไรให้แฟน ๆ ต่อยอดผลงาน

ระวังโดรน! โคราชประกาศห้ามบิน รอบกองบิน 1 รัศมี 9 กม. เข้มงวดไม่มีกำหนด!

'วราวุธ'พ่นอังกฤษรัวๆ แถลงการณ์โจมตีพลเรือนไทย ชาวเน็ตซูฮกนี่คือ'สปีด'ที่เข้มแข็งที่สุด

  • Breaking News
  • ‘นาวิกโยธิน’ตอบโต้‘กัมพูชา’หนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตย ‘นาวิกโยธิน’ตอบโต้‘กัมพูชา’หนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตย
  • ‘ทัพเรือ’ลั่น‘ฝึกอย่างไร รบอย่างนั้น’ ลุยฝ่าทุ่นระเบิด ผลักดันกำลังต่างชาติรุกล้ำอธิปไตย ‘ทัพเรือ’ลั่น‘ฝึกอย่างไร รบอย่างนั้น’ ลุยฝ่าทุ่นระเบิด ผลักดันกำลังต่างชาติรุกล้ำอธิปไตย
  • ‘ธนกร’หนุนสภาฯไม่ตัดงบจัดซื้อ‘อาวุธ’กลาโหม ชี้เร่งเพิ่มขีดความสามารถกองทัพไทย ‘ธนกร’หนุนสภาฯไม่ตัดงบจัดซื้อ‘อาวุธ’กลาโหม ชี้เร่งเพิ่มขีดความสามารถกองทัพไทย
  • กองทัพภาค2 ส่งกำลังใจ\'กองทัพเรือ\' เจอ\'เขมร\'โจมตี ทหารไทยโต้กลับแบบสาสม กองทัพภาค2 ส่งกำลังใจ'กองทัพเรือ' เจอ'เขมร'โจมตี ทหารไทยโต้กลับแบบสาสม
  • พาณิชย์จับมือส.อ.ท. ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ พาณิชย์จับมือส.อ.ท. ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

26 ก.ค. 2568

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

19 ก.ค. 2568

บุหรี่ไฟฟ้า: ทางเลือกที่(ไม่)ปลอดภัย

บุหรี่ไฟฟ้า: ทางเลือกที่(ไม่)ปลอดภัย

12 ก.ค. 2568

การรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ ErYAG “เหมาะกับผู้ป่วยบางกลุ่มเท่านั้น ควรประเมินรายบุคคลโดยแพทย์เฉพาะทาง”

การรักษานอนกรนด้วยเลเซอร์ ErYAG “เหมาะกับผู้ป่วยบางกลุ่มเท่านั้น ควรประเมินรายบุคคลโดยแพทย์เฉพาะทาง”

5 ก.ค. 2568

ทำไมผู้สูงอายุต้องได้รับวัคซีนและวัคซีนที่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุ

ทำไมผู้สูงอายุต้องได้รับวัคซีนและวัคซีนที่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุ

28 มิ.ย. 2568

การเลือกนมและผลิตภัณฑ์ของนม

การเลือกนมและผลิตภัณฑ์ของนม

21 มิ.ย. 2568

โรคพาร์กินสัน : รู้เร็ว รักษาไว คุณภาพชีวิตยั่งยืน

โรคพาร์กินสัน : รู้เร็ว รักษาไว คุณภาพชีวิตยั่งยืน

14 มิ.ย. 2568

สุขภาพตา by สมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ‘ภูมิแพ้ขึ้นตา’ โดย นายแพทย์ วีรภัทร อุดมวงศ์

สุขภาพตา by สมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ‘ภูมิแพ้ขึ้นตา’ โดย นายแพทย์ วีรภัทร อุดมวงศ์

7 มิ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved