ผลพวงของ “โพดุล” และ “คาจิกิ” พายุ 2 ลูกใหญ่ ต่อเนื่อง ที่ส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมครั้งใหญ่ในภาคอีสาน ได้สร้างความเสียหายทั้งในแง่เศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพี่น้องชาวอีสาน (รวมถึงสัตว์เลี้ยง) เป็นอย่างมาก “Pet Care ดูแลสัตว์เลี้ยง by หมอโอห์ม” ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องที่ประสบปัญหา และเอาใจช่วยให้ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนเร่งแก้ไขและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับ
ในช่วงแรกนี้ ผมขอหยิบมาเรื่องราวที่เกี่ยวกับ “โรคภัยต่างๆ ที่มากับน้ำท่วม” ที่อาจเกิดกับสัตว์เลี้ยงของท่านมาพูดคุยกัน ซึ่งได้แก่ โรคฉี่หนู โรคติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ รวมถึงระบบทางเดินอาหาร เพื่อที่ท่านเจ้าของสัตว์เลี้ยงจะได้ทราบเป็นข้อมูลเบื้องต้น จะได้เข้าใจ รวมถึงนำไปป้องกัน เพื่อจะได้ไม่ตระหนกกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับวันนี้ เราจะมาคุยกันถึงเรื่อง “โรคฉี่หนู” กันก่อนครับ
@โรคฉี่หนู คืออะไร
โรคฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือ เลปโตสไปรา (Leptospira) เป็น “โรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน”(Zoonosis) ที่สามารถเกิดได้ในสัตว์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สุนัข หนู โคกระบือ สุกร แพะ แกะ และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ซึ่งมักจะมี “หนู” เป็นตัวนำโรค
สัตว์ที่ไวต่อการรับเชื้อ มักจะเป็นสัตว์อายุน้อยที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน หรือลูกสัตว์ที่ไม่เคยได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่มาก่อนช่วงเวลาของการระบาดมักจะพบในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน เนื่องจากเป็นฤดูฝนต่อหนาว โดยเฉพาะช่วงที่มีน้ำท่วมขังนานๆ
@สาเหตุ:
โรคฉี่หนูนี้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียรูปเกลียว (Spirochete) ชื่อเลปโตสไปรา ซึ่งเชื้อนี้อาศัยอยู่ในท่อหลอดไตของสัตว์ เชื้อสามารถมีชีวิตได้นานหลายเดือนหลังจากถูกขับออกทางปัสสาวะ โดยที่สัตว์ที่มีเชื้อนั้นอาจไม่มีอาการ ที่เรียกว่า “ตัวอมโรค” แต่สามารถปล่อยเชื้อได้เป็นเวลานาน หลายสัปดาห์ หรืออาจจะตลอดชีวิตสัตว์เลยทีเดียว
@ อาการ:
มีได้ตั้งแต่ เล็กน้อย จนถึงอาการรุนแรงถึงแก่ชีวิต โรคเลปโตสไปโรซิสแบ่งเป็น 2 กลุ่มตามระดับความรุนแรง คือ แบบไม่เหลือง (anicteric leptospirosis) และ ชนิดรุนแรง (severeleptospirosis)
อาการโดยทั่วไปจะคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ สัตว์จะซึม มีไข้อาเจียน และเจ็บตามลำตัว (ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้) มักพบอาการดีซ่าน (jaundice) คือจะสังเกตเห็นได้ว่า เยื่อเมือกที่เหงือกและเยื่อบุตาขาว รวมถึงผิวหนังเป็นสีเหลืองมากจนแทบจะเป็นสีส้มมักพบว่าตับและม้ามโตร่วมด้วย และอาจเสียชีวิตได้ จากภาวะตับและไตวายเฉียบพลัน
@ การติดต่อ:
*โดยการสัมผัสกับปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อของสัตว์ที่มีการติดเชื้อ โดยตรง
* สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ ซึ่งเชื้อสามารถมีชีวิตได้ในดินและน้ำเป็นเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
* โดยการกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป
* โดยการหายใจเอาไอละอองของปัสสาวะ หรือของเหลวที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป
* โดยการรับเชื้อผ่านทางเยื่อบุต่างๆ เช่น ตา และปาก หรือเข้าทางผิวหนังตามรอยแผลและรอยขีดข่วน หรือเข้าทางผิวหนังปกติที่เปียกชุ่มจากการแช่น้ำนานๆ
@ การป้องกัน:
* หลีกเลี่ยง หรือป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงสัมผัสกับน้ำหรือดินที่คาดว่ามีการปนเปื้อนเชื้อ
* ไม่ให้สัตว์ไปเล่นน้ำที่ท่วมขังและไม่มีการไหลเวียน
* หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่เป็นพาหะของโรค เช่น หนู
* หลีกเลี่ยงไม่ให้สัตว์กินอาหารที่ปล่อยทิ้งค้างคืน โดยไม่มีภาชนะปกปิด
* รีบอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง เพื่อทำความสะอาดร่างกายโดยเร็วหากแช่ หรือ เล่นน้ำที่สงสัยว่าอาจปนเปื้อนเชื้อ
* การฉีดวัคซีน เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่รุนแรงได้ แม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างสมบูรณ์ก็ตาม
@ การรักษา:
โรคเลปโตสไปโรซิส สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่ควรให้ยาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การวินิจฉัยให้ได้ว่าเป็นโรคนี้ตั้งแต่ระยะแรกๆ จึงมีความสำคัญต่อการรักษาเป็นอย่างมาก ดังนั้น ในช่วงที่มีน้ำท่วมขังเช่นนี้ เมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ เช่น เริ่มซึม เบื่ออาหาร อาเจียน และมีประวัติการสัมผัสน้ำท่วมขังแล้วล่ะก็ การพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อได้รับการตรวจร่างกายและการวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการตั้งแต่แรก รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สัตว์ จึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่เจ้าของอย่างเราๆ จะสามารถทำได้ครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี