หลายท่านที่เลี้ยงสุนัขคงประสบปัญหานี้ จากการที่สุนัขของท่านมีก้อนสีแดงๆ บวมๆ อยู่ที่หัวตา ซึ่งหลายคนก็จะสงสัยว่ามันเป็นก้อนเนื้องอกหรือมะเร็งหรือไม่ จะอันตรายหรือไม่ วันนี้เรามาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันครับ
โรค Cherry eye คืออะไร?
Cherry eye เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของต่อมน้ำตาที่อยู่ใต้ “หนังตาที่สาม” หรือ “third eyelid” เกิดการอักเสบและขยายใหญ่ขึ้น จนโผล่ยื่นออกมาจากดวงตาของสุนัข จึงเห็นเป็นก้อนสีแดงๆ คล้ายลูกเชอร์รี่
หนังตาที่สาม คืออะไร?
หนังตาที่สาม หรือ third eyelid หรือ nictitating membrane เป็นโครงสร้างที่เป็นแผ่นอยู่ด้านในของหนังตาล่าง ใกล้บริเวณหัวตาทำหน้าที่เพิ่มการปกป้องกระจกตาของสุนัขและแมว โดยที่บริเวณหนังตาที่สามนี้ จะมีเนื้อเยื่อน้ำเหลือง (lymphoid tissue) ที่คอยเก็บกินเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม และมีต่อมที่สร้างน้ำตา (tear) เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา เแต่เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้น ก็จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณรอบของหนังตาที่สามบวม แดง และโผล่ยื่นขึ้นมาจนเห็นได้ชัดเจน
โดยปกติ เราจะสังเกตไม่เห็นหนังตาที่สามได้ เพราะจะหดตัวอยู่บริเวณหัวตา มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อสีขาวอมชมพูที่บริเวณหัวตา แต่ในสุนัขป่วยหรือในกรณีที่มีภาวะแห้งน้ำ (dehydration) อาจมองเห็นหนังตาที่สามโผล่มาปิดลูกตาที่บริเวณหัวตาได้
สาเหตุของโรคนี้คืออะไร?
สาเหตุแท้จริงของโรคนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าเกิดจากการหย่อนตัวของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ทำหน้าที่ยึดต่อมของหนังตาที่สามเอาไว้นั้นไม่แข็งแรง หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโตขึ้นของเนื้อเยื่อน้ำเหลืองบริเวณหนังตาที่สามที่เกิดการอักเสบ หลังจากสัมผัสเชื้อโรค สิ่งสกปรก หรือสารก่อภูมิแพ้ จึงทำให้ตัวต่อมดังกล่าวขยายตัวและบวมนูนมากยิ่งขึ้น
อาการที่พบเป็นอย่างไร?
อาการของโรคนี้ สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ จะพบก้อนสีแดงปูดออกมาอยู่ที่บริเวณหัวตาของสุนัข อาจพบเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้างเลยก็ได้ มักจะพบว่ามีน้ำตาไหลออกมามากผิดปกติ เนื่องจากสุนัขจะเกิดอาการคันและระคายเคืองตา มักจะเกาหรือขยี้ตา รวมถึงมักเอาใบหน้าไปถูกับผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเพื่อลดอาการคัน ซึ่งมักทำให้เกิดปัญหาการเสียหายที่กระจกตา เช่น กระจกตาขุ่น กระจกตาอักเสบ หรือเกิดแผลถลอกที่กระจกตาตามมาได้
สุนัขกลุ่มใดที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้?
สายพันธุ์ของสุนัขที่พบได้ค่อนข้างบ่อยได้แก่ ลาซ่าแอปโซ่ ชิสุห์ บูลด็อก มัสตีฟ บีเกิ้ล ชาเป่ย ปักกิ่ง ค็อกเกอร์สแปเนียลบอสตันเทอร์เรียร์ เฟรนช์บุลด็อก และเซนต์เบอร์นาร์ด เป็นต้น
นอกจากนี้ มักพบบ่อย ในสุนัขเด็กที่อายุไม่เกิน 2 ปี ซึ่งอาจพบเพียงข้างเดียว หรือเป็นทั้งสองข้างพร้อมกันก็ได้ โรคนี้เป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ดังนั้นต้องอาจพิจารณาการเลือกใช้เป็นพ่อและแม่พันธุ์ด้วย เพราะอาจถ่ายทอดความผิดปกติสู่ลูกได้
การรักษาทำได้อย่างไร?
การรักษาปัญหาเชอรี่อายในสุนัขนั้น อาจทำได้โดยเริ่มจากการรักษาทางอายุรกรรมก่อน หากไม่ได้ผลจึงค่อยใช้การรักษาทางศัลยกรรม
1.การรักษาทางอายุรกรรม
ในขั้นแรก เมื่อสุนัขได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเชอรี่อายนั้น สัตวแพทย์อาจให้ยาหยอดตาเพื่อลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ และลดการบวมของหนังตาที่สาม รวมถึงอาจใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะเพื่อลดการติดเชื้อร่วมด้วย
2.การรักษาทางศัลยกรรม
หากการรักษาทางยาไม่ได้ผล ตัวเลือกที่ได้ผลที่สุด คือวิธีทางศัลยกรรมหรือการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ การตัดต่อมและเนื้อเยื่อออกไปเลย และ การผ่าตัดเพื่อขยับต่อมกลับเข้าไปที่ตำแหน่งเดิม
ทั้งสองวิธีนี้ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป วิธีแรกนั้นจะตัดต่อมและเนื้อเยื่อโดยรอบออกไปเลย ซึ่งจะสามารถรักษาโรคเชอร์รี่อายได้อย่างถาวร แต่มีข้อเสียคือ สุนัขก็อาจจะเกิดอาการตาแห้ง และต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อย เพื่อลดปัญหาการระคายเคือง เนื่องจากน้ำตาที่ช่วยหล่อลื่นดวงตามีปริมาณลดลง เนื่องจากแหล่งสร้างน้ำตาจากหนังตาสามถูกตัดออกไป
ส่วนวิธีที่สองหรือการผ่าตัดเพื่อขยับรั้งต่อมและหนังตาที่สามกลับเข้าไปที่ตำแหน่งเดิมนั้น (ในกรณีที่เกิดจากการหย่อนตัวของหนังตาที่สาม) ซึ่งวิธีนี้นั้นหลังการผ่าตัดอาจจะไม่ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ แต่ปัญหาเชอร์รี่อายก็อาจจะกลับมาเป็นได้อีก หากเกิดการอักเสบและการบวมของหนังตาที่สามขึ้นอีก
แม้โรคเชอร์รี่อายไม่ใช่โรคอันตรายร้ายแรง แต่ก็ควรได้รับการรักษาโดยเร็ว และที่สำคัญไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง เพราะการรักษาผิดวิธี อาจจะเกิดอันตรายต่อกระจกตา และการมองเห็นได้ ดังนั้นทุกครั้งควรหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายและดูแลสุขภาพสุนัขของเราอย่างใกล้ชิดกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่โตลุกลามขึ้นจนแก้ไขได้ยากนะครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี