วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ผู้หญิง / ทันโลกทันเหตุการณ์
ทันโลกทันเหตุการณ์

ทันโลกทันเหตุการณ์

แพทยสภา
วันเสาร์ ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ และยาแก้อักเสบ ต่างกันอย่างไร

ดูทั้งหมด

  •  

คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักยาฆ่าเชื้อ และมักเรียกยาปฏิชีวนะว่าเป็น “ยาแก้อักเสบ” ซึ่งไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าการใช้ยาปฏิชีวนะจะทำให้โรคที่เป็นอยู่หายเร็วขึ้นเพราะเข้าใจว่ายาจะรักษาหรือต้านการอักเสบได้

ยาปฏิชีวนะ หมายถึง ยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ตัวอย่างเช่น เพนนิซิลิน อะม็อกซีซิลิน ลีโวฟลอกซาซินไม่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ส่วนยาฆ่าเชื้อโรคกลุ่มอื่นๆ มักจะเรียกว่า“ยาฆ่าเชื้อหรือยาต้าน” แล้วต่อด้วยกลุ่มของเชื้อโรค เช่น ยาฆ่าเชื้อราหรือยาต้านเชื้อรา ยาฆ่าเชื้อไวรัสหรือยาต้านไวรัส ซึ่งมีชนิดของยาที่ใช้น้อยกว่ายาปฏิชีวนะและแพทย์มักใช้ในทางคลินิกน้อยกว่า ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทานที่ใช้บ่อยๆ เช่น ฟลูโคนาโซล ส่วนยาต้านเชื้อไวรัสที่ใช้บ่อยๆ เช่น ยารักษาเริม ยาต้านเอชไอวี สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ยาต้านไวรัสสำหรับรักษาไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ซึ่งใช้สำหรับผู้ติดเชื้อบางรายที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ที่รุนแรง ไม่ได้ใช้สำหรับผู้ติดเชื้อทุกรายโดยทุกครั้งที่กินยาฆ่าเชื้อ ซึ่งรวมถึงยาปฏิชีวนะด้วย ต้องรับประทานให้ครบตามที่แพทย์สั่งหรือที่เภสัชกรแนะนำ เพราะการหยุดใช้ยาเมื่ออาการดีขึ้น การหยุดยาก่อนกำหนด จะมีผลเสียอาจทำให้โรคกลับเป็นซ้ำหรือเกิดผลแทรกซ้อนที่รุนแรงจากการติดเชื้อที่ยังรักษาไม่หายดี รวมไปถึงเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดเชื้อดื้อยาในอนาคต โดยเฉพาะกรณีการรับประทานยาปฏิชีวนะไม่ครบในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่อยาได้ถูกฆ่าไปบางส่วน แต่เชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยายังอยู่ในร่างกาย และมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การใช้ยาปฏิชีวนะชนิดเดิม ขนาด (โดส) เดิมรักษาไม่ได้ ถ้ากินยาปฏิชีวนะเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นยาแก้อักเสบ ทั้งที่ความจริงเป็นยาที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อหรือยับยั้งแบคทีเรียอย่างเดียว ไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัสหรือเชื้ออื่นๆ และไม่ได้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ นอกจากไม่เกิดประโยชน์ในการรักษาการอักเสบที่เกิดขึ้นแล้ว ยังจะทำให้เชื้อโรคดื้อยามากขึ้นด้วย เมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียครั้งต่อไป ทำให้ต้องเปลี่ยนไปใช้ยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ที่แรงและแพงขึ้น ซึ่งเหลือให้ใช้อยู่ไม่กี่ชนิด สุดท้ายก็จะไม่มียารักษา และเสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้ ควรใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผล ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ยาแรงหรือกว้างเกินไป เพื่อมุ่งให้หายจากอาการป่วยโดยเร็ว หากใช้ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์แรงในการรักษาเริ่มแรกทันทีบ่อยๆ จะส่งผลให้เกิดการดื้อยา และเมื่อเกิดการดื้อยาแล้ว จะทำให้ไม่มียาปฏิชีวนะชนิดต่อไปในการรักษา


มี 3 กลุ่มโรคที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ คือ โรคหวัด โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และแผลสด เนื่องจากเป็นโรคที่หายได้เองและส่วนใหญ่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ยกเว้น ในกรณีที่มีอุจจาระร่วงที่มีอาการรุนแรง เช่น ถ่ายเป็นมูกเลือดและมีไข้ ควรไปพบแพทย์

ส่วนยาแก้อักเสบหรือยาต้านการอักเสบ เป็นยาที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ บรรเทาปวด หรือลดบวม รวมถึงลดไข้ได้ด้วย ตัวอย่างเช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคฟรีแนค ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือฆ่าเชื้อโรคอื่นๆ ใช้สำหรับกรณีที่เกิดอาการดังกล่าวจากการบาดเจ็บจากการทำงาน เล่นกีฬา หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งไม่ได้เป็นการติดเชื้อ ดังนั้นเราไม่ควรเรียกยาปฏิชีวนะว่า “ยาแก้อักเสบ” เพราะเมื่อใช้ยาไม่ถูกต้องจะก่อให้เกิดโทษ โดยมีผลข้างเคียงของยา โรคไม่หาย แพ้ยา หากแพ้ไม่มากอาจมีแค่ผื่นคัน ถ้ารุนแรงมากขึ้น ผิวหนังจะเป็นรอยไหม้ หลุดลอก หรืออาจเสียชีวิต และเสียเงิน นอกจากนี้ ยาแก้อักเสบหลายชนิดอาจทำให้มีอาการปวดท้อง การระคายเคืองกระเพาะอาหาร มีเลือดออกในทางเดินอาหาร ภาวะบวมน้ำ ความดันเลือดสูงและเกิดพิษต่อไต (ที่เรียกว่า “ไตวาย”) ได้ ซึ่งการรับประทานยาแก้อักเสบนี้ ให้กินและหยุดตามอาการ กล่าวคือ ถ้าอาการดีขึ้นแล้ว ก็สามารถหยุดกินได้ และไม่ควรกินต่อเนื่องระยะยาว

วิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุดในการใช้ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบ คือ การใช้ยาภายใต้การดูแลหรือคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพื่อการใช้ยาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด และเกิดประโยชน์สูงสุด

ศ.พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย

สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์

โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:00 น. 'ชาวบ้านชายแดน'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ไม่ไว้ใจเขมร หวั่นตลบหลัง
21:59 น. 'ครม.หนู 1'ดันทายาท'โกหงวน' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​'รมต.'
21:38 น. อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก
21:31 น. สุดมันส์!!! 'ตร.พะเยา'ใส่เต็มยศ แข่งวิ่งผลัด 4x100
21:30 น. (คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง'ไทย' ส่งออกทองไปยัง'เขมร'
ดูทั้งหมด
โพสต์เด็ด! 'อาร์ต พศุตม์'พูดถึง'ทักษิณ'หลังศาลสั่งจำคุก 1 ปี
(คลิป) 'ทักษิณ' ติดคุก! อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
เกิดอะไรขึ้น? 'เปิ้ล นาคร'ออกประกาศร่อนจดหมายปลดพนักงาน
'ตู่ นันทิดา'คัมแบ็กวงการบันเทิง! เปิดใจครั้งแรกสาเหตุยุติเส้นทางการเมือง
'ต๊ะ นารากร'ส่ายหัว! ติงพิธีกรร่วม ปล่อย'แขก คำผกา'บูลลี่ สส.ปชน.ป่วยซึมเศร้า
ดูทั้งหมด
‘ทวี สอดส่อง’ติดร่างแห‘ทักษิณ’ป่วยทิพย์ชั้น 14
บันทึกข้อตกลงการเมือง MOU MOA บังคับได้หรือ?
ผู้ยอมจำนนหรือวีรบุรุษ?
คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14 คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน
บุคคลแนวหน้า : 12 กันยายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ครม.หนู 1'ดันทายาท'โกหงวน' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​'รมต.'

อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก

(คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง'ไทย' ส่งออกทองไปยัง'เขมร'

แฟนคลับสุดเศร้า! 'อวี๋เมิ่งหลง'ดาราจีนชื่อดังพลัดตกตึกเสียชีวิต

GC ประสบความสำเร็จออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯเป็นครั้งแรกมูลค่า 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

(คลิป) ซัดคนละหมัด! ศึกภายในมหาดไทย ถึงเวลา'น้ำเงิน' ล้างบาง 'แดง'

  • Breaking News
  • \'ชาวบ้านชายแดน\'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ไม่ไว้ใจเขมร หวั่นตลบหลัง 'ชาวบ้านชายแดน'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ไม่ไว้ใจเขมร หวั่นตลบหลัง
  • \'ครม.หนู 1\'ดันทายาท\'โกหงวน\' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​\'รมต.\' 'ครม.หนู 1'ดันทายาท'โกหงวน' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​'รมต.'
  • อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก
  • สุดมันส์!!! \'ตร.พะเยา\'ใส่เต็มยศ แข่งวิ่งผลัด 4x100 สุดมันส์!!! 'ตร.พะเยา'ใส่เต็มยศ แข่งวิ่งผลัด 4x100
  • (คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง\'ไทย\' ส่งออกทองไปยัง\'เขมร\' (คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง'ไทย' ส่งออกทองไปยัง'เขมร'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ปวดอุ้งเท้าและเท้าแบน

ปวดอุ้งเท้าและเท้าแบน

6 ก.ย. 2568

เมื่อเด็กสำลักสิ่งแปลกปลอม

เมื่อเด็กสำลักสิ่งแปลกปลอม

30 ส.ค. 2568

‘การจัดการความเครียด’ โรคเครียด คือ อะไร? และ แนวทางการดูแลตัวเองเมื่อเครียด

‘การจัดการความเครียด’ โรคเครียด คือ อะไร? และ แนวทางการดูแลตัวเองเมื่อเครียด

23 ส.ค. 2568

Upper Airway Stimulation (UAS) ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ CPAP ได้ \'UAS เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่มเท่านั้น และต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ\'

Upper Airway Stimulation (UAS) ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ CPAP ได้ 'UAS เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่มเท่านั้น และต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ'

16 ส.ค. 2568

\

"แสงสว่างแห่งความหวัง: ความสำคัญของการบริจาคดวงตาและการปลูกถ่ายกระจกตา"

9 ส.ค. 2568

การปฐมพยาบาล (ซีพีอาร์) ในเด็กเบื้องต้น

การปฐมพยาบาล (ซีพีอาร์) ในเด็กเบื้องต้น

31 ก.ค. 2568

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

26 ก.ค. 2568

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis)

19 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved