วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ผู้หญิง / ทันโลกทันเหตุการณ์
ทันโลกทันเหตุการณ์

ทันโลกทันเหตุการณ์

แพทยสภา
วันเสาร์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
โรคไขมันพอกตับ ใกล้ตัวกว่าที่คิด

ดูทั้งหมด

  •  

โรคไขมันพอกตับ ถือเป็นโรคที่มีความสำคัญ และใกล้ตัวมาก เพราะพบได้บ่อย และมีแนวโน้มจะพบมากขึ้นเรื่อยๆ ตามวิถีชีวิตปัจจุบันที่มีแนวโน้มจะออกกำลังลดลง และทานอาหารประเภทที่ก่อให้เกิดความอ้วนมากขึ้นโดยมีงานวิจัยประมาณการว่าในปัจจุบันมีคนไทยเป็นโรคนี้มากกว่า 10 ล้านคน โดยในระยะแรก ผู้มีไขมันพอกตับมักไม่มีอาการ บางรายอาจมีอาการจุกแน่นชายโครงด้านขวา การตรวจเลือดอาจพบหรือไม่พบการอักเสบของตับก็ได้ และเมื่อระยะเวลาผ่านไป การดำเนินโรคอาจรุนแรงขึ้น เกิดการอักเสบอย่างเรื้อรังของเซลล์ตับ ทำให้เซลล์ตับเสียหาย ตับทำงานได้น้อยลง เกิดพังผืดมาแทน จนเป็นโรคตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งตับตามมาได้

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคไขมันพอกตับ คือ ความอ้วนหรือลงพุง และโรคทางเมตาบอลิกต่างๆ เช่น เบาหวานไขมันในเลือดผิดปกติ และความดันโลหิตสูง ซึ่งภาวะเหล่านี้มักจะมีความผิดปกติของระบบเผาผลาญของร่างกายร่วมด้วย และจะทำให้พลังงานส่วนเกินของร่างกาย ไม่ว่าจะในรูปแบบของไขมัน แป้ง หรือน้ำตาล เปลี่ยนแปลงเป็นไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ขนาดเล็ก และมาสะสมของไขมันในเซลล์ตับได้ ซึ่งในผู้ป่วยบางรายก็จะเกิดตับอักเสบเรื้อรังตามมา การวินิจฉัยโรคไขมันพอกตับโดยทั่วไป สามารถทำได้โดยการตรวจอัลตราซาวด์ตับ กรณีที่มีไขมันพอกจะพบว่าตับมีสีขาวมากขึ้นกว่าปกติ


นอกจากการตรวจอัลตราซาวด์แล้ว เราอาจสามารถวัดปริมาณไขมันในตับได้โดยเครื่องไฟโบรสแกน หรือเครื่องเอกซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไม่เจ็บปวด และจะบอกปริมาณของไขมันในตับได้ละเอียดขึ้นเป็นตัวเลขที่ชัดเจน และยังสามารถวัดความยืดหยุ่น หรือปริมาณพังพืดในตับได้อีกด้วยตัวอย่างเช่นการวัดค่า การตรวจวัดปริมาณพังพืดจากไฟโบรสแกนได้มากกว่า 8 kPa คือเริ่มมีพังผืดในตับแล้ว หรือมากกว่า 12 kPa คืออาจเริ่มมีตับแข็งแล้ว เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง และติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันยังไม่มียาในการรักษาโรคไขมันพอกตับให้หายขาด การรักษาที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยลดไขมัน และลดการอักเสบในตับคือการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะในผู้ที่มี
น้ำหนักเกินหรืออ้วน โดยแนะนำลดน้ำหนักลงอย่างน้อยร้อยละ 7-10 จากน้ำหนักเดิม หรือทำให้ดัชนีมวลกาย (BMI) ลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติน้อยกว่า 25 โดยการ
ลดอาหาร ร่วมกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์) โดยหลักการควบคุมอาหาร คือ ควรลดการทานอาหารมันและแป้งให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงอาหารทอดหรือผัด (พยายามทำอาหารโดยการต้ม ลวก หรือนึ่ง) หลีกเลี่ยงการทานอาหารผลไม้และเครื่องดื่มรสหวาน เช่น น้ำอัดลม ชาหรือกาแฟเย็น(ที่เติมน้ำตาลหรือนม) หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ทานอาหารช่วงดึก โดยคนอายุน้อยอาจใช้วิธี intermittentfasting (IF) 16/8 เพื่อช่วยลดน้ำหนักในช่วงแรกก็ได้ ทั้งนี้การลดน้ำหนักนอกจากจะช่วยให้ตับดีขึ้นแล้ว ยังจะช่วยทำให้โรคทางเมตาบอลิกอื่นๆ ที่พบร่วมดีขึ้นด้วย เช่น การควบคุมระดับน้ำตาล ระดับไขมัน และความดันโลหิต

ยาที่มีผลการวิจัยพบว่าสามารถลดการสะสมของไขมันและการอักเสบของตับ ได้แก่ วิตามินอี ซึ่งออกฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และยารักษาโรคเบาหวาน ได้แก่ ไพโอกลิทาโซน และ เซมากลูไทด์ อย่างไรก็ตาม ยารักษาโรคไขมันพอกตับ มีทั้งประโยชน์และโทษ ควรเลือกใช้เฉพาะรายที่เหมาะสมภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันจากงานวิจัยคุณภาพสูงในมนุษย์ว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอื่นๆ จะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคไขมันพอกตับ

รศ.(พิเศษ) นพ.เฉลิมรัฐ บัญชรเทวกุล

หน่วยโรคทางเดินอาหารและตับ กลุ่มงานอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:52 น. 'ลีซอ ธีรเทพ' - 'เฟี๊ยต อภิสรารัชต์'ประกาศข่าวดีมีทายาทแล้ว
12:50 น. ‘สว.อังคณา’ชี้เคส‘ภราดร’ สิ่งที่พลาดอย่างมากคือ‘ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ’
12:47 น. 'ตั๊ก มยุรา'เผยคนยุคนี้เข่าเสื่อมไวจริงหรือ? หยุดพฤติกรรมนี้ก่อนพังระยะยาว!
12:43 น. บุรีรัมย์หนาวจัด! ปชช.แห่ซื้อ ‘เสื้อกันหนาวมือสอง’ ยอดขายพุ่งแตะหลักหมื่นต่อวัน
12:38 น. ลุยหาดใหญ่รอบที่ 4 นายกฯเผยสถานการณ์ดีขึ้น-เขต 8 ยังท่วม/ไม่ตอบปม'มาเฟีย'
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 26 พ.ย.-2 ธ.ค.68
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ระหว่างวันที่ 23 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงคว้าเหรียญทองศิลปะบังคับม้า ประเภททีม ประเดิมการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย
กรมอุตุฯประกาศเตือนฉบับ 1 พายุ'โคโตะ' ไทยอุณหภูมิลดลง-อากาศเย็นถึงหนาว
เริ่มพรุ่งนี้!!! เตรียมรับความหนาว พีคสุด 28-30 พ.ย. กทม.ลุ้น 16-17 องศา
ดูทั้งหมด
อันวาร์ สมคบ ฮุน มาเนต ทำเรื่องเลวร้ายเพื่อผลประโยชน์นายทุนมาเลเซีย
‘การเมืองที่ป่าเถื่อน’
ทุกข์ใหญ่หลวงหลังน้ำลด
วัฒนธรรม AI Slop ในการเมืองไทย
หาดใหญ่จะไม่เหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่งกำลังใจ 'เบลล่า ราณี'โอนเงินช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

น้ำใจFCแนวหน้าสู้น้ำท่วม ส่งตรงถึงศูนย์พักพิงมอ.หาดใหญ่

คลิปถนน4เลนสายจะนะ-บ้านสลุด จ.สงขลา หลังน้ำลด ชาวเน็ตแห่แซว'บางกรอบ'

อินโดนีเซียวิกฤต น้ำท่วมดินถล่ม คร่าชีวิตอย่างน้อย 84 ราย

เชียงรายหนาวจัด ยอดภูชี้ฟ้าเหลือ6องศาฯ นทท.แห่ชมทะเลหมอก

เข้าสู่วันที่ 3 แล้วยังไร้วี่แววคุณป้าเก็บเห็ดหลงป่ากาญจน์ ท่ามกลางอุณหภูมิ 14-15 องศา

  • Breaking News
  • \'ลีซอ ธีรเทพ\' - \'เฟี๊ยต อภิสรารัชต์\'ประกาศข่าวดีมีทายาทแล้ว 'ลีซอ ธีรเทพ' - 'เฟี๊ยต อภิสรารัชต์'ประกาศข่าวดีมีทายาทแล้ว
  • ‘สว.อังคณา’ชี้เคส‘ภราดร’ สิ่งที่พลาดอย่างมากคือ‘ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ’ ‘สว.อังคณา’ชี้เคส‘ภราดร’ สิ่งที่พลาดอย่างมากคือ‘ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ’
  • \'ตั๊ก มยุรา\'เผยคนยุคนี้เข่าเสื่อมไวจริงหรือ? หยุดพฤติกรรมนี้ก่อนพังระยะยาว! 'ตั๊ก มยุรา'เผยคนยุคนี้เข่าเสื่อมไวจริงหรือ? หยุดพฤติกรรมนี้ก่อนพังระยะยาว!
  • บุรีรัมย์หนาวจัด! ปชช.แห่ซื้อ ‘เสื้อกันหนาวมือสอง’ ยอดขายพุ่งแตะหลักหมื่นต่อวัน บุรีรัมย์หนาวจัด! ปชช.แห่ซื้อ ‘เสื้อกันหนาวมือสอง’ ยอดขายพุ่งแตะหลักหมื่นต่อวัน
  • ลุยหาดใหญ่รอบที่ 4 นายกฯเผยสถานการณ์ดีขึ้น-เขต 8 ยังท่วม/ไม่ตอบปม\'มาเฟีย\' ลุยหาดใหญ่รอบที่ 4 นายกฯเผยสถานการณ์ดีขึ้น-เขต 8 ยังท่วม/ไม่ตอบปม'มาเฟีย'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

แพทยสภา ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

แพทยสภา ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

22 พ.ย. 2568

ใช้สื่อหน้าจออย่างไรให้เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก

ใช้สื่อหน้าจออย่างไรให้เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก

14 พ.ย. 2568

เสียงแหบ (Hoarseness)

เสียงแหบ (Hoarseness)

8 พ.ย. 2568

โรคทางกายที่ทำให้ตาแห้ง

โรคทางกายที่ทำให้ตาแห้ง

1 พ.ย. 2568

อาการชักจากไข้

อาการชักจากไข้

25 ต.ค. 2568

โรคกระเพาะอาหารและเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร

โรคกระเพาะอาหารและเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร

18 ต.ค. 2568

“ต้อหินและการหยอดตา”

“ต้อหินและการหยอดตา”

11 ต.ค. 2568

ฝนตก คัดจมูก น้ำมูกไหล – หวัด จมูกอักเสบเรื้อรัง หรือไซนัสอักเสบ

ฝนตก คัดจมูก น้ำมูกไหล – หวัด จมูกอักเสบเรื้อรัง หรือไซนัสอักเสบ

4 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved