วันพฤหัสบดี ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ผู้หญิง / ทันโลกทันเหตุการณ์
ทันโลกทันเหตุการณ์

ทันโลกทันเหตุการณ์

แพทยสภา
วันเสาร์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
โรคไขมันพอกตับ ใกล้ตัวกว่าที่คิด

ดูทั้งหมด

  •  

โรคไขมันพอกตับ ถือเป็นโรคที่มีความสำคัญ และใกล้ตัวมาก เพราะพบได้บ่อย และมีแนวโน้มจะพบมากขึ้นเรื่อยๆ ตามวิถีชีวิตปัจจุบันที่มีแนวโน้มจะออกกำลังลดลง และทานอาหารประเภทที่ก่อให้เกิดความอ้วนมากขึ้นโดยมีงานวิจัยประมาณการว่าในปัจจุบันมีคนไทยเป็นโรคนี้มากกว่า 10 ล้านคน โดยในระยะแรก ผู้มีไขมันพอกตับมักไม่มีอาการ บางรายอาจมีอาการจุกแน่นชายโครงด้านขวา การตรวจเลือดอาจพบหรือไม่พบการอักเสบของตับก็ได้ และเมื่อระยะเวลาผ่านไป การดำเนินโรคอาจรุนแรงขึ้น เกิดการอักเสบอย่างเรื้อรังของเซลล์ตับ ทำให้เซลล์ตับเสียหาย ตับทำงานได้น้อยลง เกิดพังผืดมาแทน จนเป็นโรคตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งตับตามมาได้

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคไขมันพอกตับ คือ ความอ้วนหรือลงพุง และโรคทางเมตาบอลิกต่างๆ เช่น เบาหวานไขมันในเลือดผิดปกติ และความดันโลหิตสูง ซึ่งภาวะเหล่านี้มักจะมีความผิดปกติของระบบเผาผลาญของร่างกายร่วมด้วย และจะทำให้พลังงานส่วนเกินของร่างกาย ไม่ว่าจะในรูปแบบของไขมัน แป้ง หรือน้ำตาล เปลี่ยนแปลงเป็นไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ขนาดเล็ก และมาสะสมของไขมันในเซลล์ตับได้ ซึ่งในผู้ป่วยบางรายก็จะเกิดตับอักเสบเรื้อรังตามมา การวินิจฉัยโรคไขมันพอกตับโดยทั่วไป สามารถทำได้โดยการตรวจอัลตราซาวด์ตับ กรณีที่มีไขมันพอกจะพบว่าตับมีสีขาวมากขึ้นกว่าปกติ


นอกจากการตรวจอัลตราซาวด์แล้ว เราอาจสามารถวัดปริมาณไขมันในตับได้โดยเครื่องไฟโบรสแกน หรือเครื่องเอกซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไม่เจ็บปวด และจะบอกปริมาณของไขมันในตับได้ละเอียดขึ้นเป็นตัวเลขที่ชัดเจน และยังสามารถวัดความยืดหยุ่น หรือปริมาณพังพืดในตับได้อีกด้วยตัวอย่างเช่นการวัดค่า การตรวจวัดปริมาณพังพืดจากไฟโบรสแกนได้มากกว่า 8 kPa คือเริ่มมีพังผืดในตับแล้ว หรือมากกว่า 12 kPa คืออาจเริ่มมีตับแข็งแล้ว เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง และติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันยังไม่มียาในการรักษาโรคไขมันพอกตับให้หายขาด การรักษาที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยลดไขมัน และลดการอักเสบในตับคือการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะในผู้ที่มี
น้ำหนักเกินหรืออ้วน โดยแนะนำลดน้ำหนักลงอย่างน้อยร้อยละ 7-10 จากน้ำหนักเดิม หรือทำให้ดัชนีมวลกาย (BMI) ลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติน้อยกว่า 25 โดยการ
ลดอาหาร ร่วมกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์) โดยหลักการควบคุมอาหาร คือ ควรลดการทานอาหารมันและแป้งให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงอาหารทอดหรือผัด (พยายามทำอาหารโดยการต้ม ลวก หรือนึ่ง) หลีกเลี่ยงการทานอาหารผลไม้และเครื่องดื่มรสหวาน เช่น น้ำอัดลม ชาหรือกาแฟเย็น(ที่เติมน้ำตาลหรือนม) หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ทานอาหารช่วงดึก โดยคนอายุน้อยอาจใช้วิธี intermittentfasting (IF) 16/8 เพื่อช่วยลดน้ำหนักในช่วงแรกก็ได้ ทั้งนี้การลดน้ำหนักนอกจากจะช่วยให้ตับดีขึ้นแล้ว ยังจะช่วยทำให้โรคทางเมตาบอลิกอื่นๆ ที่พบร่วมดีขึ้นด้วย เช่น การควบคุมระดับน้ำตาล ระดับไขมัน และความดันโลหิต

ยาที่มีผลการวิจัยพบว่าสามารถลดการสะสมของไขมันและการอักเสบของตับ ได้แก่ วิตามินอี ซึ่งออกฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และยารักษาโรคเบาหวาน ได้แก่ ไพโอกลิทาโซน และ เซมากลูไทด์ อย่างไรก็ตาม ยารักษาโรคไขมันพอกตับ มีทั้งประโยชน์และโทษ ควรเลือกใช้เฉพาะรายที่เหมาะสมภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันจากงานวิจัยคุณภาพสูงในมนุษย์ว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอื่นๆ จะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคไขมันพอกตับ

รศ.(พิเศษ) นพ.เฉลิมรัฐ บัญชรเทวกุล

หน่วยโรคทางเดินอาหารและตับ กลุ่มงานอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:00 น. 'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
21:50 น. มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
21:49 น. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
21:38 น. สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
21:25 น. แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 27 ธ.ค.68 - 2 ม.ค.69
ฮุนเซน เล่นใหญ่ โพสต์เฉลิมฉลองวันหยุด วันสันติภาพกัมพูชา
ปิดด่านชายแดนพ่นพิษ กัมพูชาเผยยอดนำเข้าจากไทยวูบ ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว
ยิปซี 12 นักษัตร : พยากรณ์ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2568 – 3 มกราคม พ.ศ.2569
สื่อเขมร อ้าง ‘ไทยโกหก’ โจมตีทางอากาศเพราะประเทศมีอาชญากรรมทางไซเบอร์
ดูทั้งหมด
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
‘พรรคส้ม’อุ้มผู้กระทำผิด ข่มขู่อาฆาตมาดร้ายในหลวง ขึ้นบัญชี สส.ปาร์ตี้ลิสต์
KRAC Recap 2025: What We Built, What Changed and Why It Matters
บุคคลแนวหน้า : 31 ธันวาคม 2568
เส้นใต้บรรทัด : ‘โดม ปกรณ์ ลัม’ กับนิยาม ‘คุกคามทางเพศ’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62

มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน

สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา

แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน

เชิดชูเกียรติ หนุ่มวัย 21 ทำบุญใหญ่ครั้งสุดท้าย บริจาคอวัยวะช่วย 4 ชีวิต

  • Breaking News
  • \'ดร.ส้ม\' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62 'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
  • มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
  • สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
  • แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

การดูแลทารกแรกเกิดเมื่อกลับบ้าน

การดูแลทารกแรกเกิดเมื่อกลับบ้าน

20 ธ.ค. 2568

แพทยสภา ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

แพทยสภา ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

22 พ.ย. 2568

ใช้สื่อหน้าจออย่างไรให้เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก

ใช้สื่อหน้าจออย่างไรให้เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก

14 พ.ย. 2568

เสียงแหบ (Hoarseness)

เสียงแหบ (Hoarseness)

8 พ.ย. 2568

โรคทางกายที่ทำให้ตาแห้ง

โรคทางกายที่ทำให้ตาแห้ง

1 พ.ย. 2568

อาการชักจากไข้

อาการชักจากไข้

25 ต.ค. 2568

โรคกระเพาะอาหารและเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร

โรคกระเพาะอาหารและเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร

18 ต.ค. 2568

“ต้อหินและการหยอดตา”

“ต้อหินและการหยอดตา”

11 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved