(A). ภาพต้นฉบับของไวรัส โครงสร้างกลมขนาดเล็ก ซึ่ง Kapikian แสดงให้เห็นได้ในตัวอย่างอุจจาระจากกรณีโรคกระเพาะอักเสบเฉียบพลัน โดยการใช้จุลทรรศน์อิเล็กตรอนและติดฉลากด้วยเทคนิคภูมิคุ้มกัน [7].
(B). ภาพจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบ cryo มีความละเอียดสูงของอนุภาคโนโรไวรัส GII.4 [9].
เอกสารอ้างอิง Lucero Y, Matson DO, Ashkenazi S, George S, O’Ryan M. Norovirus : Facts and Reflections from Past, Present, and Future. Viruses 2021;13:2399. https://doi.org/ 10.3390/v13122399
คุณลักษณะของเชื้อโนโรไวรัส
เชื้อโนโรไวรัสเป็นไวรัส RNA สายเดียวแบบ positive sense ที่ไม่มีเปลือกหุ้ม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ27-35 นาโนเมตร และจัดอยู่ในสกุล โนโรไวรัส ในวงศ์Caliciviridae และประกอบด้วย 3 กลุ่มยีน (GI, GII, และ GIV) ที่ติดเชื้อในมนุษย์ หากจัดตามความหลากหลายของลำดับยีนที่กำกับการสร้างเปลือกหุ้มไวรัส โนโรไวรัสจะถูกจัดแบ่งออกได้เป็น 8 กลุ่มพันธุกรรมใน GI, 17 กลุ่มพันธุกรรมใน GII, และ 1 กลุ่มพันธุกรรมใน GIV
โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นไวรัสที่ติดต่อได้ง่ายเชื้อจำนวนเพียง 18 ตัว ก็ทำให้เกิดการติดเชื้อและก่อโรคได้ ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ จึงเรียกว่าโรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ (gastroenteritis)ประชาชนทั่วไปในต่างประเทศเรียกว่า “ไข้หวัดกระเพาะอาหาร” หรือ “เชื้อไวรัสในกระเพาะอาหาร” แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อไข้หวัดใหญ่
เชื้อโนโรไวรัสเป็นสาเหตุหลักของการระบาดของโรคที่เกิดจากอาหารปนเปื้อนในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ โรคอุจจาระร่วงที่ไม่ได้เกิดจากแบคทีเรีย เชื้อสามารถแพร่กระจายได้จากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อน การสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อน หรือจากบุคคลที่ติดเชื้อ การระบาดของเชื้อโนโรไวรัสมักเกิดขึ้นในสถานที่ที่ผู้คนมีการติดต่อสัมผัสอย่างใกล้ชิด เช่นโรงเรียน โรงพยาบาล เรือท่องเที่ยวสำราญ และสถานสงเคราะห์หรือศูนย์ดูแลเด็กเล็ก เป็นต้น
อาหารที่เคยพบว่าเป็นต้นเหตุของการระบาดของเชื้อโนโรไวรัส
1. อาหารทะเล
• หอยนางรม : มักเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อเนื่องจากการเก็บจากน้ำที่มีการปนเปื้อน
• ปลาดิบ : ที่ไม่ได้ปรุงสุก
2. ผักและผลไม้
• ผักสด : เช่น สลัดหรือผักที่ไม่ได้ล้างให้สะอาด
• ผลไม้ : โดยเฉพาะผลไม้ที่รับประทานสด เช่น เบอร์รี่
3. อาหารที่ปรุงไม่สุก
• อาหารที่ทำจากไข่ : เช่น ไข่ดาวหรือไข่คนที่ไม่สุก
• อาหารที่มีปรุงเสร็จล่วงหน้า : อาหารที่ถูกจัดเก็บในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม
4. ผลิตภัณฑ์จากนม
• นมหรือผลิตภัณฑ์นม : ที่ไม่ได้พาสเจอไรซ์
5. อาหารที่มีการปนเปื้อนจากผู้เตรียมอาหาร
• อาหารที่ถูกสัมผัสโดยผู้ที่มีเชื้อ : เช่น การเตรียมอาหารโดยผู้ที่มีอาการป่วย
ดังนั้น การป้องกันการติดเชื้อจากอาหารดังกล่าว สามารถทำได้โดยการปรุงอาหารให้สุก ล้างผลไม้ให้สะอาด ดื่มนมหรือน้ำสะอาดและล้างมือให้สะอาดก่อนเตรียมอาหารทุกครั้ง
อาการของโรคติดเชื้อโนโรไวรัส
การศึกษาพบว่าร้อยละ 20-33 ของผู้ที่ติดเชื้อโนโรไวรัสไม่แสดงอาการ อาการของผู้ติดเชื้อโนโรไวรัส ได้แก่ :
1. อาเจียน ร้อยละ 70
2. อุจจาระร่วง ร้อยละ 57
3. ไข้ต่ำหรือหนาวสั่น ร้อยละ 37-45
4. ปวดท้อง ร้อยละ 4.4
5. ปวดหัว พบน้อยนอกจากมีไข้
6. ปวดกล้ามเนื้อ พบน้อย
อาการส่วนใหญ่เริ่มแสดงใน 1-2 วัน หลังจากรับหรือสัมผัสเชื้อจากสิ่งปนเปื้อน แต่สามารถแสดงอาการได้ตั้งแต่ 12 ชั่วโมงเป็นต้นไป ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการทุเลาหรือหายใน 1-3 วัน แต่ยังสามารถแพร่เชื้อไวรัสในอุจจาระได้อีกถึง 7 วันหลังจากนั้น ผู้ติดเชื้อบางกลุ่มมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยรุนแรง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความเสี่ยงดังกล่าวจะเกิดจากอาการอาเจียนรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ไข้สูง จะทำให้ขาดน้ำเกลือแร่ในร่างกายและคุกคามจนถึงแก่ชีวิตได้สำหรับกลุ่มนี้
ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์อมร ลีลารัศมี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี