❝เครื่องจักรจะขับเคลื่อนได้ทุก “ฟันเฟือง” ล้วนมีความสำคัญ...การทำงานที่ประสบความสำเร็จได้ก็เช่นกัน❞

เครื่องจักรจะขับเคลื่อนได้ทุก “ฟันเฟือง” ล้วนมีความสำคัญ...การทำงานที่ประสบความสำเร็จได้ก็เช่นกัน ย่อมต้องอาศัยการระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน เมื่อเปรียบเทียบกับการปฏิบัติหน้าที่ของ“ตำรวจ” ที่มีเสียงเรียกร้องถึงการ “ปฏิรูปองค์กร” ในทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งอาจเพราะขาดการทำงานเป็นทีมที่ต้องอาศัยส่วนผสมที่ลงตัว มองภาพเล็กลงมาอีกหน่อยกับหน่วยงานแค่ระดับกองบังคับการแต่ภารกิจไม่ได้เล็กอย่าง “กองบังคับการปราบปราม” (บก.ป.) ที่มีอำนาจจับกุมทั่วราชอาณาจักรนายตำรวจในสังกัดทุกระดับชั้นล้วนมีบทบาทสำคัญ และ...

“พ.ต.ต.ภาณุมาศ แสงส่ง”!!!

สารวัตรกองกำกับการ 1 บก.ป. (สว.กก.1 บก.ป.) ถือเป็นอีกหนึ่ง “ฟันเฟือง” สำคัญนั้นเพราะเขาอยู่เบื้องหลังการปิดคดีสำคัญๆมากมายซึ่ง “บนถนนสีกากี” จะพาไปรู้จักกับนายตำรวจที่ทำงานแบบ “ปิดทองหลังพระ” ผู้นี้...

พ.ต.ต.ภาณุมาศ หรือ “บอล” พื้นเพเป็นชาวปราจีนบุรี ช่วงที่ศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ม.5) ที่โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เพราะเขาไม่ได้ใฝ่ฝันที่จะรับราชการตำรวจ หรือทหารเช่นเดียวกับบิดา แต่เหมือน “ชะตาชีวิต” ลิขิตไว้แล้ว เพราะหลังจากถูกส่งไปเรียนกวดวิชาเพื่อเข้า “เตรียมทหาร” และได้ลองไปสอบครั้งแรกไม่ได้ แต่เมื่อลองตั้งใจเตรียมตัวเพื่อสอบใหม่อีกครั้ง เขาก็ไม่พลาดสอบติดได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 42 ต่อด้วยเลือก “เหล่าตำรวจ” เข้าศึกษาจนสำเร็จเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 58 (นรต.58)

“ครั้งแรกที่ไปสอบไม่ค่อยตั้งใจ พอสอบไม่ติดพ่อแม่ผิดหวังมาก จนขับรถไปประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ พอครั้งที่ 2 จึงตั้งใจและเตรียมตัวมากขึ้น พอสอบได้ถือเป็นความภูมิใจเล็กๆ ที่ได้ทำเพื่อพ่อแม่ ที่เป็นแรงผลักดันให้เราได้เป็นตำรวจ”

พ.ต.ต.ภาณุมาศ เริ่มต้นชีวิต “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ครั้งแรกที่ สน.ท่าเรือ ในตำแหน่งพนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ปีครึ่งก็ถูกเรียกตัวให้ไปช่วยราชการงาน “สืบสวน” เมื่ออายุราชการครบหลักเกณฑ์จึงได้เข้าอบรมระดับสารวัตร ก่อนย้ายมาสังกัด “หน่วยคอมมานโด” กองปราบปราม เป็น รองสารวัตร แล้วได้เลื่อนยศเป็น “พ.ต.ต.” ตำแหน่งสารวัตรที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) จากนั้นจึงย้ายมา กก.1 บก.ป. จนกระทั่งปัจจุบัน

ณ ที่แห่งนี้...“พ.ต.ต.ภาณุมาศ” มีโอกาสร่วมสร้างผลงานหลายคดี เช่น คดี “จับสาวใหญ่โกงเงินดารานักแสดง” โดยได้นำกำลังเข้าจับกุมน.ส.จิดาภา หรือยุ้ย นามโชติหิรัญ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาคดี “ฉ้อโกง” ตามความผิด พ.ร.บ.เช็ค ซึ่งมีพฤติการณ์หลอกลวง น.ส.พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ หรือ “เมเปิ้ล แม็กซิม” ดาราและนางแบบสาวแนวเซ็กซี่ รวมถึงนายสวิช เพชรวิเศษศิริ ดารานักแสดง ผู้เสียหายอีกราย ที่รับแสดงภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง โดยตกลงค่าตัวกันที่ 2.5 แสนบาท ทางผู้ต้องหาออกเช็คให้ แต่ “เช็คเด้ง”

นอกจากนี้ ยังร่วมทีมงานจับกุม “แก๊งสกิมเมอร์” ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล รวมถึงคดีจับ “แก๊งปลอมตั๋วแลกเงิน”, จับผู้ต้องหา “แก๊งน้ำหวาน” ปล่อยเงินกู้นอกระบบเก็บ “ดอกเบี้ยโหด”มีพฤติการณ์ทวงหนี้ด้วยความรุนแรง ใช้ปืนยิงถล่มบ้านเหยื่อเพื่อข่มขู่ เป็นต้น

ในด้านชีวิตส่วนตัวเมื่อว่างจากภารกิจหน้าที่การงาน พ.ต.ต.ภาณุมาศ ถือเป็น “แฟมิลี่แมน” เพราะเขาจะให้เวลาทั้งหมดกับครอบครัว โดยกับแฟนสาวก็คบหากันมานานนับตั้งแต่ยังมียศ ร.ต.ท. ซึ่งเขาบอกว่าโชคดีที่มี “คนข้างหลัง” ที่เข้าใจ

“ผมโชคดีที่ภรรยา และครอบครัวของเขาเข้าใจชีวิตการเป็นตำรวจของเรา เรื่องครอบครัวหรือคนที่อยู่ข้างหลังล้วนเป็นกำลังใจที่ดี จึงไม่มีปัญหาอะไร เราก็อยู่ด้วยความรักและเข้าใจ ส่วนลูกชายวัย 5 ขวบ ถือเป็นของขวัญสำคัญในชีวิตก็ว่าได้” พ.ต.ต.ภาณุมาศ กล่าวทิ้งท้าย

ทีมข่าวอาชญากรรม