ในห้วงเวลาแห่งความโศกศัลย์ของคนไทยทั้งชาติ ที่สูญเสีย “พ่อแห่งแผ่นดิน” ไปด้วยกัน ยังพอมีสิ่งประโลมใจให้ลูกไทยหลานไทยได้เข้มแข็ง ฝ่าฟันความยากลำบากไปได้บ้าง เมื่อสื่อต่างประเทศเสนอข่าวผู้นำต่างๆ ทั่วโลก แสดงความอาลัย เสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดถึงสดุดีว่า พระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ท่าน จะสถิตอยู่ในดวงใจของชาวโลกชั่วนิรันดร์
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ตลอดถึงประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี เลขาธิการสหประชาชาติ และบุคคลสำคัญทั่วโลกได้ส่งพระราชสาส์นแสดงเสียพระทัย ความเสียใจ ทรงร่วมไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมสดุดีว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากไปแต่พระวรกาย แต่จิตวิญญาณแห่งความดีงามของพระองค์ท่านจะสถิตอยู่ในใจชาวโลกตลอดกาล
พระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ซึ่งเสด็จฯมาเคารพพระบรมศพ เป็นพระองค์แรก ทรงยกย่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นต้นแบบของกษัตริย์นักพัฒนา และทรงเขียนคำไว้อาลัย มีความหมายว่า “พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต คือการเข้าสู่พระนิพพาน เป็นการก้าวสู่ธรรมราชา”
สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน ดารุส ซาลาม ทรงมีพระราชสาส์น มายังสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียพระราชหฤทัย มีความตอนหนึ่งตรัสว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นแบบอย่างของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งทรงอุทิศตนเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนและการพัฒนาประเทศ การเสียสละและความรักอย่างไร้ขีดจำกัดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ต่อปวงชนชาวไทยไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ตราตรึงจิตใจของปวงชนชาวไทย แต่ยังได้รับการยกย่องไปทั่วโลก ตลอดช่วงเวลา 70 ปี ในรัชสมัยของพระองค์ ประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว พระบิดาของชาวไทยจะไม่เพียงแต่อยู่ในหัวใจของผู้ใกล้ชิดกับพระองค์เท่านั้น แต่ทรงอยู่ในใจของผู้คนที่พระองค์ได้เปลี่ยนแปลง..”
นอกเหนือจากคำสดุดีจากพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินีฯ และผู้นำทั่วโลกแล้ว สื่อมวลชน และชาวต่างชาติ ที่ได้ศึกษาเคยติดตามการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่างสดุดีว่า จิตวิญญาณแห่งความดีงามของพระองค์ท่าน จะสถิตอยู่ในใจชาวไทยและชาวโลกไปตราบชั่วนิรันดร์
ไมเคิล ยอน ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน เขียนบทความไว้อาลัยและสดุดี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
แสดงความอาลัยว่า “ข้าพเจ้าเขียนบทความนี้ด้วยจิตใจเศร้าหมอง เมื่อได้รับทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต...ข้าพเจ้าอยากบอก ว่า พระองค์คือพระมหากษัตริย์ที่เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่ทรงพระเมตตาต่อพวกเรามาเป็นเวลายาวนาน พระองค์เป็นพ่อของคนไทยทั้งชาติ พระองค์เป็นพระราชาแห่งสันติภาพ เสรีภาพ เป็นมิตรที่ดีของประเทศสหรัฐอเมริกา และชาวอเมริกัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นที่รักของชาวอเมริกันจำนวนมาก ปกติคนอเมริกันไม่นิยมชมชอบระบอบกษัตริย์ แต่มีข้อยกเว้นสำหรับกษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดช ผู้คนที่ได้ศึกษาติดตามการทำงานของพระองค์ท่าน จะรักศรัทธาพระองค์ท่าน และในที่สุดจะรักท่านในฐานะกษัตริย์ที่เหนือกษัตริย์ เพราะความรักความเมตตาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มากมายมหาศาลเหนือมหานทีแห่งอ่าวไทย...”
ไมเคิล ยอน กล่าวว่า ปกติคนอเมริกันไม่นิยมชมชอบระบอบกษัตริย์ แต่มีข้อยกเว้นสำหรับกษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดช
ผู้เขียนเคยทำงานกับสำนักข่าวต่างประเทศ นานหลายทศวรรษ ขอยืนยันว่าคนอเมริกัน ที่ได้ศึกษาและติดตามการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทุกคนรักศรัทธาและสดุดีพระองค์ท่าน
อาทิ นายเดนิส เกรย์ อดีตหัวหน้าสำนักข่าว AP ที่ทำงานในประเทศไทยนานกว่า 40 ปี เขาเคยได้รับพระราชทานสัมภาษณ์และติดตามการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในชนบทห่างไกลทั่วประเทศ เดนิส เกรย์ สดุดีสรรเสริญพระองค์ท่านว่า ทรงเป็นนักพัฒนาที่มียุทธศาสตร์ผู้ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เพื่อความอยู่ดีกินดี
ของประชาชนชาวไทย
เดนิส เกรย์ เคยติดตามทำข่าวตั้งแต่ยุคภัยคอมมิวนิสต์คุกคามประเทศไทย เขาได้ติดตามทำข่าว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จไปทรงงานในพื้นที่อันตราย ที่ทหารไทยยังสู้รบกับสหายป่า เดนิส เคยบอกผู้เขียนว่า “พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้ต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ แต่พระองค์ท่านทำสงครามกับความยากจน นับว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีมาก”
เดนิส เกรย์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ให้สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) จัดทำหนังสือ The King of Thailand in World Focus ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมบทความ ข้อเขียน รายงานข่าวเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย จากสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์ทั่วโลก
The King of Thailand in World Focus ได้รวบรวมบทความ ข้อเขียน รายงานข่าว จากสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์ทั่วโลกที่รายงานข่าว ภาพข่าวเกี่ยวกับ พระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่พระองค์ท่านเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี 2489 การเสด็จฯทรงเยือนประเทศต่างๆ สถานการณ์สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ตลอดถึงการทรงงานในโครงการพระราชดำริ การพัฒนาประเทศของพระองค์ท่านจนถึงปี 2549 ด้วยข้อเท็จจริงตรงไปตรงมา บทความของผู้เขียนชื่อ “Thai King Advises “Gentle approach” to southern violence” ได้รับการตีพิมพ์ไว้ในหน้า 104 หนังสือหนา 260 หน้า ขนาดจัมโบ้ไซส์
น.ส.ซิลวาน่า โฟล์ อดีตหัวหน้าสำนักข่าวยูพีไอ (United Press International) ทำงานในประเทศไทยในห้วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงงานในโครงการปลูกพืชทดแทนไร่ฝิ่นให้กับชาวเขา และโครงการพระราชดำริ เธอได้มีโอกาสติดตามขบวนเสด็จไปทรงงานหมู่บ้านชาวเขา น.ส.ซิลวาน่า สดุดีพระองค์ท่านที่ทุ่มเทกำลัง พระวรกายและกำลังทรัพย์พัฒนาหมู่บ้านในชนบท ซิลวาน่า เคยบอกผู้เขียนว่า “รู้ไหมพระเจ้าอยู่หัวของยู ทรงงานตลอดวันตลอดคืน จนไม่รู้ว่าได้บรรทมเวลาไหน”
เควิน คูนี่ย์ อดีตหัวหน้าสำนักข่าวรอยเตอร์ ทำงานในประเทศไทย ในห้วงเวลาที่ผู้อพยพจากสงครามอินโดจีน เข้ามาอยู่ในค่ายอพยพชายแดนไทยหลายล้านคน เควิน ซาบซึ้งในพระเมตตากรุณา ของราชวงศ์ไทยที่มีต่อผู้อพยพ เควิน ให้ความสำคัญต่อกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาก เขาสรรเสริญทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน และเสนอบทความเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงหลายตอน...
ขอต่อด้วยข้อเขียนของนายไมเคิล ยอน ว่า “...คนไทยนับได้ว่าเป็นชนชาติที่มีเสรีภาพมากที่สุดในโลก ต้องขอบคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้นำทางลูกไทยหลายสิบล้านคน มาไกลถึงเพียงนี้ คำสั่งสอนจากพระองค์ท่านยังเป็นแรงดลใจให้ชาวต่างชาติอย่างข้าพเจ้า ได้ซาบซึ้งในความรักสามัคคี มีเมตตากรุณา..
พระองค์ท่านเป็นนักดนตรีชั้นเยี่ยมและช่างภาพชั้นเลิศ...พระองค์เสด็จไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อพบพสกนิกรของท่าน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชประสงค์ทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง ถึงความทุกข์ยากของประชาชนก่อนให้ความช่วยเหลือ..
บัดนี้พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตแล้ว แต่จิตวิญญาณของพระองค์ท่านยังดำรงอยู่ และเป็นวิญญาณอิสระเสรี ที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปในเมือง ในหมู่บ้านชนบททุกชานเรือน ไปสถิตอยู่ในดวงใจไทยทุกดวง แม้ในยามที่ท่านอยู่อย่างเดียวดาย ท่านจะรู้สึกได้ว่าพระองค์อยู่ใกล้เรา ทอดพระเนตรข้ามไหล่เรา พระองค์อยู่ที่นี่อยู่กับเรา...
ข้าพเจ้าจะแต่งดำร่วมไว้ทุกข์กับพระบรมวงศานุวงศ์และชาวไทยทั่วโลก ในเวลาเดียวกันข้าพเจ้าคลายความโศกเศร้าได้บ้าง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ้นจากความทุกข์ทรมาน บัดนี้พระองค์ได้ไปอยู่ทุกที่ วิญญาณอิสระเสรีนำสันติสุข ความรู้รักสามัคคีไปทุกแห่งหนที่พระองค์ได้สัมผัส”
ในขณะลูกไทยหลานไทยทั้งแผ่นดินกำลังโศกเศร้า ชาวโลกได้ให้สติเรา ว่าพ่อแห่งแผ่นดินอันประเสริฐ จากเราไปเพียงพระวรกาย แต่จิตวิญญาณแห่งความดี คำสั่งสอนให้รู้รักสามัคคีพระองค์ท่านยังอยู่กับเรา จึงเป็นหน้าที่ของลูกไทยต้องเดินตามรอยพระบาท เพื่อร่วมน้อมส่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่สวรรคาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี