1.คำว่า “มหาราช” มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๒๕ หมายถึง คำซึ่งมหาชนถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าแผ่นดินหรืออีกความหมายหนึ่งคือ ธงประจำพระองค์ พระเจ้าแผ่นดิน ที่เรียกว่า “ธงมหาราช”
การถวายพระราชสมัญญา “มหาราช” แด่พระมหากษัตริย์ของไทยในอดีตที่ผ่านมานั้น ไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
แต่เป็นมติของมหาชนในสมัยต่อมา ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้ถวายพระสมัญญาต่อท้ายพระนามว่ามหาราช หรือพระราชสมัญญาอื่นที่แสดงถึงพระเกียรติคุณเฉพาะพระองค์ และเป็นที่ยอมรับในการขานพระนามสืบมา*
2.สำหรับการเริ่มการถวายพระราชสมัญญา “มหาราช” ต่อท้ายพระนามพระมหากษัตริย์นั้น สันนิษฐานว่าเริ่มมีขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ประมาณรัชกาลที่ ๔ หรือ ๕ เนื่องจากเป็นสมัยที่เริ่มมีการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ของชาติและบรรพบุรุษมากขึ้น ทำให้ประจักษ์ถึงวีรกรรมและพระราชอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ในสมัยนั้นๆ จึงได้มีการยกย่องพระมหากษัตริย์บางพระองค์ที่ทรงมีพระเกียรติคุณเด่นกว่าพระองค์อื่นขึ้นเป็น มหาราช
3.หกกษัตริย์มหาราชแห่งชาติไทย
“มหาราช” เป็นคำที่ประชาชนถวายแด่ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงประกอบด้วยทศพิธราชธรรม และนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติ และประชาชนอย่างใหญ่หลวง*
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ครองราชย์ พ.ศ. 1822-1841
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครองราชย์ พ.ศ. 2133-2148
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครองราชย์ พ.ศ. 2199-2231
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ครองราชย์ พ.ศ. 2310-2325
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ครองราชย์ พ.ศ. 2325-2352
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(พระปิยมหาราช) รัชกาลที่ ๕ ครองราชย์ พ.ศ.2411-2453
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช (พระภัทรมหาราช) ครองราชย์ พ.ศ.2489-2559
4.พระอัจฉริยภาพ “มหาราชไทย”
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช : ประดิษฐ์อักษรไทย ทรงรับเอาพระพุทธศาสนาจากลังกาเข้ามาเป็นศาสนาประจำชาติไทย
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช : พระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช : พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาสามารถในการปกครองประเทศ, ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้ากับชาวต่างชาติ, ยุคทองของวรรณคดีไทย
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช : กอบกู้เอกราช หลังเสียกรุงครั้งที่ ๒, สร้างกรุงธนบุรีเป็นราชธานีใหม่, รวบรวมประเทศชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, ขยายอาณาเขตประเทศออกไปอย่างกว้างขวาง
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) :ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงสร้างกรุงเทพมหานครเป็นราชธานีของไทย, รวบรวมกฎหมายตราสามดวง
-สมเด็จพระปิยมหาราช (รัชกาลที่ ๕) : พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชา เป็นที่รักยิ่งของประชาชน ทรงนำประเทศชาติรอดพ้นจากการตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศมหาอำนาจเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, สร้างความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ, เลิกทาส, โปรดฯให้มีการรถไฟ การไปรษณีย์ การไฟฟ้าและการประปาขึ้นเป็นครั้งแรก
5. สำหรับในหลวง ผู้ทรงเปรียบเสมือน “พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย” ทรงพระปรีชาสามารถในทุกแขนงวิชา, ทรงรักและห่วงใยพสกนิกร, ทรงริเริ่มจัดตั้งมูลนิธิต่างๆ, ทรงค้นคว้าวิจัย การทำฝนเทียม ด้านการเกษตร การชลประทาน การสาธารณสุข ฯลฯ รวมทั้งการนำเสนอทฤษฎีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่โลกยอมรับ ทรงส่งเสริมความรักและสามัคคีให้เกิดในชาติ และได้ทรงมีส่วนร่วมในการแก้วิกฤติของบ้านเมืองทุกครั้ง ทรงได้สร้างความสัมพันธไมตรีกับนานาชาติ และการได้รับการยอมรับจากผู้นำรัฐบาลทั่วโลก ทรงดูแลทุกข์สุขประชาชน ซึ่งคือทุกข์และสุขของพระองค์ มาตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงงานหนักมากที่สุดในโลก ครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน ทรงเป็นพระมหา
กษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก (๗๐ ปี) และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีผู้คนแสดงความเคารพรักอยู่ทั่วทุกมุมโลก
@ พสกนิกรชาวไทยทั่วแผ่นดินมีความเห็นร่วมกันว่า “ควรจะได้ถวายพระราชสมัญญามหาราช” แด่พ่อหลวงโดยมีความเหมาะสมทั้งความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ได้ทำให้กับประชาชนและบ้านเมือง และกาลเวลาอันควร
6.ขั้นตอนและข้อเท็จจริงในการดำเนินการ
นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า
1.เรื่องการใช้คำว่า “มหาราช” เรื่องนี้เป็นกฎหมาย เป็นการดำเนินการของรัฐบาล
2.ที่ผ่านมารัฐบาลก่อนๆ เคยเสนอพระองค์ท่านไป แต่พระองค์ท่านทรงยังไม่เห็นชอบ ยังไม่ลงมาในเรื่องนี้ พระองค์ท่านรับสั่งว่า “เป็นเรื่องของประชาชน และรัฐบาลที่จะทำต่อไป” ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้
3.ทั้งนี้ เรื่องเป็นมหาราช เป็นเรื่องของรัฐบาลและประชาชนจะต้องทำถวายพระองค์ท่าน
7.เรื่อง พระราชสมัญญานาม “มหาราช” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
1.ก่อนปี 2530 มีผู้นำเสนอว่า “สมเด็จพระภัทรมหาราช”กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นที่รักของปวงชน
2.“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช” กษัตริย์ ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งทรงเป็นกำลังของแผ่นดิน สมัยนายกฯพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้เสนอคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี และถวายชัยมงคล เมื่องานสโมสรสันนิบาต เนื่องในวโรกาสวันฉัตรมงคล
วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๓๐ ณ ทำเนียบรัฐบาล (คณะกรรมการจัดงาน ๕ ธันวามหาราช ได้นำเสนอฯ ผ่านมา)
3.“พระภูมิพลมหาราช”
4.อื่นๆ ที่มีผู้เสนอ และมีความเหมาะสม
l แล้วประชาชนไทยประเทศไทย ก็จะมีความสุขความภาคภูมิใจยิ่งที่มี กษัตริย์มหาราช อีกพระองค์หนึ่ง จากการทูลเกล้าฯ
ถวายพระราชสมัญญามหาราช ของปวงชนชาวไทยและรัฐบาลไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี