ในบรรดา “นักร้องทางการเมือง” ทั้งหลาย ผู้ที่สมควรจะได้รับรางวัล “แผ่นเสียงทองคำ” มีหลายท่าน

ครั้งหนึ่ง คณะกรรมการได้ตัดสินมอบรางวัลให้แก่ “เด็จพี่ฟอร์มาลีน” ซึ่งเป็นสุดยอดนักร้องป๊อปร็อก “ค่ายเพลงนายใหญ่”

“เด็จพี่” มีผลงานเป็นรายวัน ดีดกีตาร์และร้องเพลงให้ป.ป.ช. กกต. สตง. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองฟังทุกวัน ด้วย เนื้อเพลงกล่าวโทษขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม

โดยเฉพาะ “ยุคเดอะมาร์คเป็นรัฐบาล” ตัวเดอะมาร์คและลุงกำนันได้ฟังเพลงป๊อปร็อกของเด็จพี่ซ้ำๆ ซากๆ จนหูชาต้องพึ่งหมอ

แต่แล้วเกิดอะไรขึ้นก็เหลือเดา “เด็จพี่” ไปสะดุดขาตนเองจนล้มทับสายไฟบนเวทีคอนเสิร์ตแห่งหนึ่ง แล้วถูก “ไฟช็อต” จนสลบ ฟื้นขึ้นมายังถูก “ท่านเปา” สั่งให้เด็จพี่ไปเป็น “นักศึกษากินนอนอยู่ในมหา’ลัยเรือนจำกำแพงสูง”

ครั้นจบหลักสูตร “เรือนจำบัณฑิต” มาแล้ว ปรากฏว่า “เด็จพี่ได้เลิกอาชีพนักร้อง กลายเป็นพระฤาษีปลีกวิเวกอยู่ในถ้ำ”

ครั้งหนึ่งเช่นกัน “นักร้องเสียงทอง” ชื่อ “ท่านเรืองไกร” ได้เจริญรอยตามเด็จพี่ แต่ขยันร้องเพลงถี่กระชั้นกว่า โดยดีดกีตาร์ร้องเพลงให้องค์กรอิสระทุกแห่งฟังฟรีๆ ทุกวัน “จนกลายเป็นนักร้องชื่อดังกว่า แอ๊ด คาราบาว และตูน บอดี้สแลม”

เพลงที่ “ศิลปินเรืองไกร” ขับกล่อมในระยะแรกนั้น “มีเนื้อหากล่าวโทษนายใหญ่”

แต่ “ตะขิ่น” ฟังแล้วหาโกรธไม่ กลับเห็น “แวว” ความเป็นนักร้องดัง จึงชักชวนเข้าค่ายเพลงของตนเองทันที

เมื่อมาอยู่วงดนตรีคณะนายใหญ่ เนื้อเพลงที่นักร้องเสียงทอง ทำการขับกล่อมนั้น ก็เปลี่ยนไปเป็นการกล่าวโทษขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม

“ไล่ตั้งแต่เดอะมาร์คเป็นรัฐบาล จนถึงกะปิตันเป็นผู้บริหารประเทศ ท่านเรืองไกรมีอัลบั้มเพลงออกใหม่ตลอดเวลา ไม่มีการขาดระยะ และแต่ละเพลงดังจนท่านได้แผ่นเสียงทองคำเป็นเข่ง”

ล่าสุด อัลบั้มเพลงป๊อปร็อกออกใหม่ของท่านเรืองไกรมีเนื้อหากล่าวโทษเจ้าหน้าที่และรัฐบาล “ไม่จับกุมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ไปชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน” ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์

“ทันทีที่อัลบั้มเพลงชุดนี้ออกมา กูรูทางการเมืองต่างออกมาฟันธงทันใดว่า นักร้องเสียงทองได้สะดุดขาตนเองจนถูกไฟฟ้าช็อตเข้าแล้ว”

ทั้งนี้เพราะอัลบั้มเพลงป๊อปร็อกดังกล่าว ทำให้นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสถาบันอื่นๆ ที่ “บางส่วน เคยเป็น กองหนุน” ให้วงดนตรีคณะนายใหญ่ต่าง “เสียความรู้สึกถึงขั้นจี๊ดขึ้นสมอง”

เมื่อนักร้องเสียงทองทำให้ “เสียกองหนุน” ไปเป็นจำนวนมากเช่นนี้ “ตะขิ่นดูไบ” เจ้าของวงดนตรี จะ “อู้อย่างไรจ๊ะเปิ้น”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม