วันที่ 1 ตุลาคม มีนายตำรวจเกษียณอายุราชการตั้งแต่ระดับ พลตำรวจเอก ลงไปถึงชั้นประทวนทุกท่านที่เกษียณอายุราชการต้องวางมือและมอบงานในหน้าที่ให้คนที่มานั่งในตำแหน่งแทนต่อไป แต่บางคนจะมีเพื่อนร่วมรุ่นช่วยกันให้มานั่งสานงานที่ค้างต่อไปอีก มีนายตำรวจรุ่นใหม่ถามกันมามากว่านายตำรวจที่เคยเป็นอธิบดีกรมตำรวจและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะต้องจบจาก “โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน” ทั้งหมดใช่หรือไม่ .....ในอดีต “อธิบดีกรมตำรวจ” ไม่ได้จบมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ส่วนใหญ่จะจบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ ท่านเป็น “อธิบดีกรมตำรวจ” มีนายตำรวจที่จบจาก “โรงเรียนนายร้อยตำรวจ” ปรึกษากันว่า “กรมตำรวจ” ควรมี “อธิบดีกรมตำรวจ” ที่จบมาจาก “โรงเรียนนายร้อยตำรวจ” (นรต.) กลุ่ม นรต.กลุ่มนี้ไปปรึกษาหมอท่านหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนและมีความสนิทสนมกับ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ด้วยการวางแผนโค่นท่านอธิบดีแสวงด้วยการหาเหตุสร้างปัญหาเกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์เนื่องจากขณะนั้น“กองทะเบียน” ขึ้นอยู่กับ “กรมตำรวจ” คุณหมอท่านมาขอเลขทะเบียนรถสวย” ตอง 1 กับท่านอธิบดีแสวง ท่านอธิบดีสั่งการให้กองทะเบียนรีบดำเนินการให้ทันที คุณหมอได้รับ ทะเบียนรถมาแล้วได้วางแผนต่อด้วยการขอหมายเลขทะเบียนรถยนต์มาใหม่อีกครั้งหนึ่งคือ “ตอง 5” แต่คราวนี้นายตำรวจคนสนิทของท่านอธิบดีแสวงแจ้งว่าไม่มี ให้คนอื่นไปแล้ว เมื่อคุณหมอได้รับการปฏิเสธเข้าล็อกทันทีคุณหมอเชิญท่านนายกฯในยุคนั้นไปตีกอล์ฟที่ต่างประเทศและเพ็ดทูลเรื่องที่เกิดขึ้นมาด้วยการนำเรื่องเงินมาประกอบฉาก และเสนอตัวนายตำรวจที่จบจาก นรต. ให้มาแทน พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ ท่านนายกฯ ตกลง ทันทีที่กลับจากการตีกอล์ฟที่ต่างประเทศ มีคำสั่งให้เปลี่ยนตัว “อธิบดีกรมตำรวจ” ทันที .....แต่อธิบดีกรมตำรวจคนใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งนั่งไม่ครบวาระถูกปลดกลางอากาศเช่นเดียวกัน.... “กรมตำรวจ” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ผู้บริหารสูงสุดไม่เคยเป็นตัวของตัวเอง การแต่งตั้งโยกย้ายจะมาจากผู้มีอำนาจสั่งการของประเทศทั้งนั้น นายตำรวจแต่ละคนเป็นนักวิ่งและมีศิลปะในการส่งส่วย ที่สำคัญมักจะนำหลวงพ่อเงินเดินนำหน้ามาเกทับกัน เป็นวัฒนธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย ขณะนี้เดือนกันยายนแล้วมีนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกษียณอายุแต่ยังไม่มีการประชุมลงมาแต่งตั้งโยกย้ายต้องคอยดูว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจปีนี้ จะรุนแรงมากขนาดไหนโดยเฉพาะบรรดาสื่อที่รับงานมาจากนายตำรวจที่ต้องการนั่งในตำแหน่งที่ต้องการแล้วไม่ได้สมความปรารถนา จะออกมาต่อต้านในรูปแบบต่างๆ ขณะนี้เริ่มเสนอตัว เสนอผลงานทางสื่อกันแล้ว ระวังตัวกันบ้างก็แล้วกันอย่าลืม “ฟ้าได้เปลี่ยนสี” นายตำรวจที่ก้มหน้าก้มตาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างจริงจังอาจจะได้รับรางวัลอย่างคาดไม่ถึง...ส่วนใครที่ชอบนั่งหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ระวังให้ดีประวัติพวกคุณอยู่ในแฟ้มหมดแล้ว.....ความลับไม่มีใน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”........สวัสดีครับ
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี