“เจ้าพ่อมาเฟีย” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในอดีต “แคล้ว ธนิกุล” ที่มีลูกน้องรุ่นใหญ่รุ่นเล็กเดินตามเขาตลอดเวลา โดยที่เขาคาดไม่ถึงว่าจะถูกลูกน้องปลายแถวหักหลัง พ.ศ. 2534 สถานบันเทิงย่านประตูน้ำชื่อ อาฟเตอร์ดั๊ก มีชื่อเสียงมาก ภายในมีสแตนด์หมุนได้ เพื่อให้นักท่องราตรี ที่ต้องการอวดความสามารถขึ้นไปเต้นโชว์ คืนวันหนึ่งมีนายทหารยศพันเอก พาลูกน้องไปเที่ยวที่สถานบริการแห่งนี้ บังเอิญวันนั้นหมวด “ทุม” ขาใหญ่ในวงการมาเฟียรู้จักเขาดีเข้าไปเที่ยวด้วย ขณะที่ ดีเจกำลังจะเปิดเพลงใหม่ หมวดทุมขอขึ้นไปเต้น ทหารนอกเครื่องแบบที่มากับนายทหารยศพันเอกซึ่งไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นทหาร ขอขึ้นไปเต้นบนสแตนด์อีกตัวที่อยู่ใกล้กัน เมื่อดีเจเปิดเพลงทั้งสองคนเริ่มเต้นกองเชียร์ดังกระหึ่มสักพักเดียวกองเชียร์ที่เชียร์หมวดทุมเริ่มหันมาเชียร์ทหารนอกเครื่องแบบเพราะเขาเต้นได้เร้าใจกว่าทำให้หมวดทุมไม่พอใจมาก เพลงจบทหารไปเข้าห้องน้ำ หมวดทุมตามไปทำร้ายทหารมีคนมาห้ามไว้ หมวดทุมยังเก็บความแค้นไว้ในใจ หลังจากสถานบริการจะปิดผู้คนเริ่มกลับออกมา นายทหารพาลูกน้องกลับมาที่รถ ทันทีที่เดินออกมายังไม่ถึงรถหมวดทุมกับพวกเดินมาติดๆควักปืนยิงเข้าใส่กลุ่มทหาร พวกทหารพากันหลบ พันเอกวิ่งไปหลบข้างรถที่จอดอยู่ด้วยการนั่งยองๆข้างรถ การยิงของหมวดทุมทำให้กระสุนทะลุไปโดนที่สำคัญของพันเอก ลูกน้องช่วยกันพาพันเอกไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดแต่เขาเสียชีวิตก่อน....
ทหารเหล่านั้นรีบรายงานให้นายพลเอกทหารซึ่งเป็นบิดาของพันเอกทราบ ท่านนายพลจึงติดต่อกับผู้บังคับการนครบาลใต้ ท่านผู้การสอบถามไปยังสถานบริการที่เกิดเหตุรายงานให้ท่านพลเอกทราบว่าใครเป็นคนยิงลูกท่านและขณะนี้คนยิงหลบอยู่ในค่ายทหารแถวถนนโยธี นายพลเอกกับผู้การพากันไปที่ค่ายทหารแต่เสธ.โยธีไม่ให้เข้าและไม่ส่งตัวหมวดทุมให้ ท่านนายพลจึงไปพบท่าน ผบ.ทบ. ทันที ขณะเดียวกัน เสธ.โยธีเรียกนายแคล้วมาพบและสั่งให้แคล้วไปพบท่าน ผบ.ทบ. เพื่อเรียนให้ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ทหารระดับล่างทะเลาะกันเกิดการยิงผิดพลาดขึ้น....
เมื่อแคล้วไปขอพบท่านนายพลไม่ให้พบและให้ทหารหน้าห้องมาบอกนายแคล้วว่า “ท่านไม่ให้กุ๊ยอย่างมึงเข้าพบกลับออกไป” แคล้วได้ยินแล้วรู้ทันทีว่าชีวิตเขาไม่ปลอดภัยแน่ เขาระวังตัวถึงขั้นไปไหนมาไหนต้องเปลี่ยนรถกลางทางอยู่เรื่อยและมีรถตามอีกด้วย ในรถตามจะมีมือปืนและปืนสงครามพร้อมระเบิดที่สามารถใช้งานได้ทันที แต่แคล้วไม่สามารถรู้ได้ว่าบรรดาคนหนุ่มที่คอยติดตามเขาทรยศต่อเขา เมื่อกลุ่มคนสีเข้มเรียกนายราเชล ซึ่งเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดให้ไปพบในที่ลับด้วยการให้นายราเชลเป็นสายให้กับกลุ่มคนสีเข้มคอยชี้เป้าที่เหมาะสมให้พวกเขาสังหารแคล้ว ประมาณกลางปี 34 แคล้วจะต้องไปหาเสียงที่บ้านเกิดที่ จ.สมุทรสงคราม ก่อนที่จะออกเดินทางเขาได้เปลี่ยนรถคันใหม่ด้วยการให้นายตี๋ ดำเนิน เป็นคนขับ นายราเชลนั่งรับใช้เขาด้านหลัง และมีรถขนอาวุธตามติด กลุ่มคนสีเข้มจึงวางแผนให้นายราเชลนำใบปลิวที่จะแจกในการหาเสียงและแจกันดอกไม้ไว้หลังโดยการให้นายราเชลนอนราบกับพื้นรถเพื่อไม่ให้ถูกลูกหลง ซึ่งนายราเชลทำตามเขานอนราบไปกับพื้นรถแต่ต้องนำขาข้างหนึ่งยันแจกันดอกไม้เพื่อไม่ให้หล่นลงมา นายราเชลให้สัญญาณกับกลุ่มคนสีเข้มว่าแคล้วเปลี่ยนรถสีอะไรชนิดไหนและมีคนไปกี่คน และรถติดตามสีอะไรเป็นรถชนิดใด เมื่อรถวิ่งไปยังถนนที่จะไปนครปฐมซึ่งแคล้วจะต้องแวะบ้านเกิดเสียก่อน ขณะนั้นมีรถเข้ามาขวางรถที่ติดตามแคล้วให้ตามไม่ทัน แต่มีรถปิกอัพสีดำ 2 คันวิ่งประกบรถที่แคล้วนั่งทั้งด้านซ้ายและขวาและมีรถเบนซ์สีดำขับตามมาติดๆ เมื่อรถกระบะประกบรถที่แคล้วนั่งมือปืนอยู่ด้านหลังรถกระบะประทับปืนสงครามยิงไปที่คนขับอีกคันยิงไปที่แคล้วนั่ง เมื่อแน่ใจว่าตายแน่คนในรถเบนซ์มารับราเชลขึ้นรถไปซึ่งราเชลถูกกระสุนปืนยิงที่ข้อเท้า 1 นัด ไม่นานข่าวแคล้วถูกถล่มด้วยอาวุธสงครามดังสนั่น ตำรวจน้อยใหญ่เข้ามาคลี่คลายคดีแต่พูดไม่ออก ทุกคนปิดปากสนิท ตำรวจนำตัวนายราเชลมาสอบปากคำ นายราเชลปฏิเสธจึงถูกปล่อยตัวไป คดีนี้ไม่คืบหน้าต้องปล่อยให้คดีหมดอายุความ....อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนใกล้ตัว จะทำให้ตนเองตายอย่างไม่รู้ตัว.....สวัสดีครับ
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี