พระราชพิธีสำคัญของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ในปีนี้ได้แก่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกซึ่งจะมีกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคในวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 เป็นการเสด็จพระราชดำเนินของพระมหากษัตริย์ไทยเสด็จพระราชดำเนินไปในการต่างๆ ทางบกทั้งเป็นการส่วนพระองค์และที่เป็นการพระราชพิธีซึ่งได้ประกอบการมาแต่โบราณ ตั้งแต่สมัยสุโขทัยสืบทอดต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์และได้มีมาจนสมัยปัจจุบัน
แต่เดิม กระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อประกอบการพระราชพิธีต่างๆ ที่สำคัญ เช่น พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จฯไปนมัสการรอยพระพุทธบาทสระบุรี การอัญเชิญพระพุทธรูปที่สำคัญ จากหัวเมืองเข้ามาประดิษฐานในพระนครหลวงตลอดจนการต้อนรับคณะราชทูตจากต่างประเทศและการพระบรมศพเป็นการจัดกระบวนมีเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศเป็นแถวงดงาม
กระบวนพยุหยาตราพระกฐินสถลมารคเป็นกระบวนพระราชพิธีสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา กระบวนดังกล่าวจัดขึ้นทุกปี ในพระราชพิธี 12 เดือน โดยพระมหากษัตริย์จะเสด็จสถลมารค เพื่อถวายผ้าพระกฐินแก่พระอารามหลวง กระบวนพยุหยาตราพระกฐินสถลมารคที่ยิ่งใหญ่ถูกจัดขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระบิดาของประวัติศาสตร์ไทย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าประเพณีเดิมในการเสด็จเลียบเมืองนั้นคงจะเสด็จฯถึงเมืองที่รายล้อมรอบมณฑลราชธานีพระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินทั้งทางชลมารคและสถลมารครอนแรมไปจนกว่าจะรอบมณฑลราชธานี
ทั้งนี้ เพื่อบำรุงความสวามิภักดิ์และให้ประจักษ์ในพระเดชานุภาพแก่ประชาชนทั้งหลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป คงจะทรงเห็นว่าเป็นการลำบากโดยไม่จำเป็น จึงย่นระยะทางเหลือเพียงเลียบพระนครราชธานี และต่อมาก็ย่อลงมาอีกเหลือเพียงเสด็จเลียบพระนครทางเรือ ส่วนทางบกนั้น แห่เสด็จฯเพียงรอบพระบรมมหาราชวัง สมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีการเสด็จเลียบพระนคร โดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค2 ครั้ง คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้จัดกระบวนแห่เลียบพระนครโดยเสด็จ ออกทางประตูวิเศษไชยศรีทำประทักษิณพระบรมมหาราชวัง เลี้ยวที่ป้อมเผด็จดัสกร แล้วตรงไปจนถึงสะพานข้ามคลองตลาดเลี้ยวกลับขึ้นทางกำแพงพระนคร
เข้าถนนหน้าวังที่ท่าพระเลี้ยวกลับเข้าพระบรมมหาราชวังทางประตูเดิมไม่หยุดที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามในกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคนี้ พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาท และเสนาบดีที่ตามเสด็จในกระบวน ล้วนทรงฉลองพระองค์และแต่งกายอย่างงดงามพระมหากษัตริย์ทรงเครื่องสนับเพลาเชิงงอน พระภูษาเขียนทองฉลองพระองค์ตาดจีบ คาดเจียระบาด สายรัดพระองค์เพชรทรงพระสังวาล พระธำมรงค์ ทรงพระมาลาเพชร
ในสมัยรัชกาลที่ 9 เมื่อมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ มีแต่เพียงการเสด็จฯ โดยกระบวนราบใหญ่จากพระมหามณเฑียรไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดารามเท่านั้น จนมาถึงการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบพระนักษัตร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคเพื่อทรงนมัสการพระพุทธรูปสำคัญที่วัดบวรนิเวศวิหารพระบรมฉายาลักษณ์ลงสี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะประทับพระราชยานพุดตานถมในกระบวนราบหน้าเกยวัดราชบพิธ
กระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคในงานพระราชพิธีที่ควรกล่าวถึงคือกระบวนแห่พระกฐินพยุหยาตราใหญ่ทางสถลมารคและกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคเสด็จเลียบพระนครในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กระบวนแห่พระกฐินพยุหยาตราใหญ่สถลมารคนั้นสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายไว้ว่า มีด้วยกัน 2 กระบวนคือกระบวนเสนาทั้ง 4 เหล่าแห่ผ้าไตรพระกฐินหนึ่งกระบวนและกระบวนเสด็จพระราชดำเนินแห่ 4 สายอีกกระบวนหนึ่ง หากจัดกระบวนแห่พระกฐินพยุหยาตราน้อยจะไม่มีกระบวนจตุรงคเสนาแห่ผ้าไตรพระกฐิน แต่จะนำผ้าไตรไปคอยรับเสด็จฯที่วัด การแห่พระกฐินพยุหยาตราใหญ่ทางสถลมารคนั้นแม้ในสมัยอยุธยาก็จัดเพียงไม่กี่ครั้งในหนึ่งรัชกาล
ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ หลักฐานในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวระบุว่าวัดที่เสด็จฯพระราชทานพระกฐินด้วยกระบวนพยุหยาตราใหญ่ทางสถลมารคมีอยู่ 3 วัดคือ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และวัดราชบูรณะ ส่วนกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคในงานพระราชพิธีที่สำคัญอีกพระราชพิธีหนึ่งก็คือการเสด็จเลียบพระนครในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยทางสถลมารคเป็นพระราชพิธีหนึ่งในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ปฏิบัติกันมาเป็นโบราณราชพิธี ความมุ่งหมายสำคัญของการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครก็คือ เพื่อให้พสกนิกรที่ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯในการพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวังได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯชมพระบารมีและมีโอกาสแสดงความจงรักภักดีแด่พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี