สถาบันพระมหากษัตริย์ของราชอาณาจักรไทยเป็นสัญลักษณ์ของการดำรงอยู่ของชาติไทยมาอย่างต่อเนื่อง สังคมไทยให้ความสำคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์มายาวนานเกือบ 1 พันปี นับตั้งแต่ก่อนสมัยราชอาณาจักรสุโขทัยตั้งแต่ยุคอาณาจักรโยนกเรื่อยมาจนถึงสมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นสถาบันทางสังคมที่เข้มแข็งยืนยงทำให้ประเทศสามารถรักษาความเป็นไทภายใต้พระบรมโพธิสมภารมาจนถึงปัจจุบัน
ไม่ว่าการปกครองประเทศจะเปลี่ยนแปลงจากระบอบราชาธิปไตยที่เป็นการปกครองแบบ “พ่อปกครองลูก” โดยใช้อำนาจอธิปไตยปกครองประชาชนบนพื้นฐานความรัก เมตตา ดุจบิดาพึงมีต่อบุตร มาเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เปรียบเสมือนสมมติเทพที่มีอำนาจเหนือปวงชนและมาสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้รับการเชิดชูให้อยู่เหนือการเมืองตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกๆฉบับ
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ตามประวัติศาสตร์ชาติไทยพระมหากษัตริย์ทำหน้าที่ปกครองประเทศด้วยความเป็นธรรม ปกป้องคุ้มครองราชอาณาจักรจากการรุกรานของข้าศึกทำให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขมีเสรีภาพในการทำมาหากินใช้ชีวิตตามวิถีเครือญาติผูกพันกับการทำเกษตรกรรมและมีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
ประชาชนจึงมีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างลึกซึ้ง มั่นคง มีความสามัคคีกลมเกลียวกันเกิดความเป็นปึกแผ่นและเป็นพลังสำคัญยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ของการดำรงอยู่ของชาติไทยมาต่อเนื่อง สังคมไทยให้ความสำคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์มายาวนานเป็นสถาบันทางสังคมที่เข้มแข็งยืนยง ทำให้ไทยสามารถรักษาความเป็นไทมาจนถึงปัจจุบันโดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์จักรี
เป็นที่ทราบกันดีว่าองค์พระมหากษัตริย์นับตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เป็นระยะเวลาประมาณ 100 ปี เป็นยุคที่มหาอำนาจตะวันตกได้มีนโยบายล่าเมืองขึ้นและขยายลัทธิอาณานิคมเข้ามาในเอเชีย-แปซิฟิก
จะเห็นได้ว่ามีเพียง 3 ประเทศ คือ จีน, ญี่ปุ่นและไทย เท่านั้นที่เป็นเอกราชไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก แต่ทุกๆ ประเทศก็จำใจต้องยินยอมให้สิทธิประโยชน์ไปให้ชาติตะวันตกยอมสละดินแดนไปให้ฝรั่ง เช่น จีนยอมยกดินแดนบางส่วนให้เช่าเป็นที่ค้าขายเช่นมาเก๊าและฮ่องกง ญี่ปุ่นยอมเปิดประเทศให้ชาติตะวันตก ไทยจำใจต้องยกดินแดนในอินโดจีนให้ฝรั่งเศสและรัฐในคาบสมุทรมลายูให้แก่อังกฤษ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถ้าหากองค์พระมหากษัตริย์ไทยไม่ดำเนินพระวิเทโศบายที่เหมาะสมไทยก็อาจจะเสียเอกราชไปให้ชาติตะวันตกแล้วโดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงมีพระราชไมตรีที่ดีกับพระราชาธิบดีแห่งรัสเซีย,เยอรมนี,ออสโต ฮังการี,เดนมาร์ก,สวีเดน,นอร์เวย์,เบลเยียม,เนเธอร์แลนด์,สเปน เพื่อไม่ให้ถูกรุกรานจากชาติมหาอำนาจนักล่าเมืองขึ้นในขณะนั้นซึ่งได้แก่ ฝรั่งเศสและอังกฤษ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี