วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
l เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
l วันนี้ “พ่อ” จะพูดถึง
เรื่องของคน : คนที่มีคุณค่าและความหมายแก่ตัวเรา คือ “เพื่อน” พ่อต้องยอมรับว่า พ่อคิดว่า : พ่อรู้จัก คำว่า : “เพื่อนดี” มาตั้งแต่ได้มี “เพื่อน” ที่ “บวร” บ้านวัดโรงเรียนแต่ความจริงในชีวิต ที่ทั้งสุข ทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง ผ่านการต่อสู้มาทุกรูปแบบ ทุกเหตุการณ์ของบ้านเมืองทำให้พ่อ : ได้เข้าใจความจริงว่า “พ่อรู้จักคำว่าเพื่อน” ยังไม่ครบถ้วน ถ้อยคำและความหมายที่เป็นจริงในชีวิตอ่านศึกษา “ความหมายของเพื่อน” ในตำรา “ธรรม และ โลก” และประสบการณ์จริงมาไม่น้อยก็ยังไม่ได้ ความหมาย ที่เป็นจริง ครบถ้วน สมบูรณ์ ของชีวิต “เพื่อน” ที่ดูว่า “ใช่ ” ก็เป็นเรื่องชั่วคราว เป็นครั้งคราว ในเหตุการณ์
หนึ่งๆ : มิใช่ ตลอดกาล หรือชั่วนิรันดร์
l “เพื่อน” ในยุคสมัยและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาของสังคมไทย
- ยามเรียน : ในโรงเรียนประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย ดู “เพื่อนๆ” มีแต่ความบริสุทธิ์ ในโลกของเยาวชน
- ในช่วงมหาวิทยาลัย ทั้งในการเรียนในคณะวิชา และกิจกรรมในและนอกมหาวิทยาลัย กิจกรรม เรื่องของชมรม ชุมนุมต่างๆ ก็ยังเป็นเรื่องของการร่วมไม้ร่วมมือ “รักสามัคคีกัน”แต่ เมื่อมาถึง “การแข่งขันในตำแหน่งนายกสโมสร อุปนายก” มีอะไรที่เริ่มมีความเห็นความขัดแย้งการชุมนุมขับไล่ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย (จุฬาฯ กรณีคอร์รัปชัน 2513) การรณรงค์ “ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น” คุ้มครองและส่งเสริมสินค้าไทย เสื้อผ้าดิบ ฯลฯ การแข่งขันชิงตำแหน่ง “เลขาธิการศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย”.........
- เมื่อจบการศึกษา เข้ารับราชการในตำแหน่งวิศวกรของ กทม. และทำกิจกรรมเรื่องบ้านเมืองควบคู่ไปและมาถึงจุดสูงสุด “การเรียกร้องรัฐธรรมนูญ” และเป็นหนึ่งในสิบสามกบฏเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ปี 2516 ความหมายของ “เพื่อน” มีการพัฒนาตาม “ความคิด” การจับกลุ่มการร่วมหัวจมท้ายที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
- เหตุการณ์และสถานการณ์ ช่วงระหว่าง “14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519” ที่มี 2 กระแส ปะทะกัน ระหว่าง “ขวาจัด และซ้ายจัด” คนกลางๆ เริ่มอยู่ยาก และถูกกระหน่ำไปด้วยเพื่อนๆ ที่อยู่ฝ่ายประชาชน ก็ยังไปด้วยกันได้ แต่เพื่อน
ที่ไปรับราชการและสู่การเมือง เริ่มคิดต่างกันและเหตุการณ์ ช่วงสำคัญของชีวิตนักศึกษาประชาชน ที่ “เข้าป่า” โดยมีความคิดใกล้เคียงกันสองฝักฝ่าย “รัฐและฝ่ายประชาชนนักศึกษา” จับปืนเข้าใส่กัน และมี “เพื่อน” อยู่ทั้งสองฝ่ายมาพูดกันในตอนหลังจากความขัดแย้งยุติลง : “หากเผชิญหน้ากัน จะทำอย่างไร” ต้องหลีกทางไม่ให้เจอกันแม้แต่คำว่า “สหาย” ที่ดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ : แต่เมื่อเกิดความคิดต่างกัน,“สหาย” ก็ต่างออกไป
l ยิ่งมาถึงช่วงเพื่อนพ้องน้องพี่ เข้าไปสังกัด “คอกการเมือง” ที่ต่างกัน หรือ คิดต่างกัน
ช่วงแรกๆ ในระบบการเมืองเก่า มีความขัดแย้งต่างกัน แต่ยังไม่มากเท่า แต่หลังจากยุค “ระบอบทุนสามานย์ครองเมือง”ปี 2544 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน มีแต่มากขึ้นเกิดกระแสลมพัดวนเวียนย้อนกลับ : เพื่อนกลายเป็นศัตรู และผู้อยู่คนละข้าง
“กลับมาร่วมงานกันได้” ความคิดที่ต่างกันสุดขั้ว มาผสมปนเปกับความคิดเรื่อง “การเมือง” แนวทางการไปสู่
ประชาธิปไตยและมาถึงเรื่องสถาบันหลักของประเทศ “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ รวมทั้งประชาชน” ที่คิดต่างกัน และยกมาเป็นข้ออ้างกัน ในบรรดาเพื่อน และสหายที่เคยร่วมรบร่วมรักกันแทบจะเป็นจะตาย
- อะไรคือ “เพื่อน” : เพื่อน ต้องคิดเหมือนกัน, ต่างกัน มิใช่เพื่อนแล้ว และแล้วก็กระหน่ำใส่กันส่วนใหญ่ การสังสรรค์คลุกคลีสามัคคีกัน ก็ต้องอยู่ฝ่ายสีเดียวกัน คิดเหมือนกัน (แต่มิใช่ธงสามสี) แรงต่อแรง สีต่อสี : ความคิด อุดมการณ์ ผลประโยชน์ พวกพ้อง : แยกกันยากมาก ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องง่าย เรื่อง “เพื่อน และอุดมคติ หรือผลประโยชน์ของใคร” คงจะใช้เวลาอีกนานแสนนาน ตามดูกัน.....
l ความคิดเชิงอุดมการณ์ กับ ความคิดคับแคบเห็นแก่ตัวของคน : มันทับซ้อนกัน และปิดบังกันไว้
ความคิดคับแคบ คิดไม่กว้าง ไม่ลึกไม่ไกล คิดสั้นๆ ไม่ยาว ไม่คิดถึงประวัติศาสตร์และอนาคตของกันและกันความจริงที่เกิดขึ้นในหมู่เพื่อน : มองให้ลึกซึ้ง มันอยู่ในเรื่องหลังมากกว่า : “เป็นเรื่องบุคคล มิใช่ส่วนรวม”
- คุณคิดว่า “เพื่อน” คืออะไร? คือใคร? มีความหมายคุณค่า มากน้อยแค่ไหน, แล้วคุณทำอะไร ?
- หลักการใหญ่ เป็นหลักการเดียวกันของมนุษย์-สังคม ทั้งเรื่องสร้างครอบครัว สร้างเพื่อน สร้างชาติ
- มนุษย์เป็นสัตว์สังคม อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมี ญาติพี่น้อง ครอบครัว และมี “เพื่อน” ร่วมอยู่ด้วย
- เพื่อน : ต้องสร้างขึ้น “ลงคิดลงแรงลงใจและลงทุกอย่าง” เพื่อให้มี “เพื่อนที่ดีคนหนึ่ง”
- ต้องเป็นฝ่ายให้มากกว่า จะเอาจากเพื่อน,ให้ “ด้วยความรัก ความสุข” อย่าหวังผลประโยชน์
- เพื่อน : มิใช่เป็นเรื่องฝ่ายเดียว “แต่เป็นเรื่องของเราสองคน” ที่คิดและปรับตัวเข้าหากันตลอดเวลา
- แต่ความจริงของชีวิต อย่าไปคิดว่า “เราคือเพื่อน” : ต้องให้เท่าๆ กัน ซึ่งหายากมากในโลกใบนี้
- ต้อง “ให้กันและกัน” มากเท่าที่ทำได้, อย่าเอาเปรียบกันมากเกินไป : ความเป็นเพื่อนจะห่างออกไป
- การให้ที่สำคัญที่สุด “คือการให้ความคิดที่ถูกต้อง” และ “ต้องกล้า” แก้ไขความผิดของเพื่อน (ตรงกับหลักของการทำบุญตามพุทธศาสนา : ช่วยคนให้คิดถูกต้อง เป็นการทำบุญที่ดีที่สุด)
- หัวใจ : ต้องเคารพนับถือ (Respect) ให้เกียรติ ให้ความไว้วางใจ และเชื่อใจกัน
- ต้องสรุปบทเรียน เรียนรู้นิสัยธาตุแท้ของกันและกัน และต้อง “พยายาม” ปรับตัวให้เข้าหากันต้องมีฝ่ายที่เริ่มต้นก่อน คือ “ฝ่ายที่เป็นหลัก เข้มแข็ง แข็งแรง และเข้าใจ” แล้วเขาจะปรับตาม
u ทางเดียวที่จะมีมิตร คือการทำตัวเป็นมิตรก่อน : ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน
- บทเรียนอย่างหนึ่ง “คนดีเด่นดัง” มักจะขาดความใส่ใจ ให้เกียรติเพื่อน เพราะเอาตัวเองเป็นใหญ่
- ต้องเข้าใจว่า “คำว่าเพื่อน” อยู่ที่ความรัก ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน “ช่วยกันตามสภาพของตน”
l การคิดถึงประวัติอันยาวนานของการพัฒนามาเป็นเพื่อนกัน “ร่วมสุขร่วมทุกข์” (ร่วมตาย) กันตอนเด็กๆ ที่บริสุทธิ์ “รักเพื่อนคนนี้มากที่สุดในโลก” จะให้จะช่วยเหลือทุกอย่าง แม้ชีวิต แต่ “เมื่อโตและใหญ่ขึ้นมา” มีฐานะ : กลับ เป็น “สำรวยลืมคำ” มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
l ในสภาพปัจจุบัน : ความเป็นเพื่อน มีความสำคัญมากขึ้น : ต้องเริ่มที่ตัวเรา เมื่อยังมีโอกาส
1. ความขัดแย้งทางความคิด ยังดำเนินต่อไป ไม่จบลงง่าย เพราะขาดรัฐบุรุษ และผู้นำเห็นแก่ตัว
2. ช่วงอายุที่มากขึ้น (ในวัย 70) ปัญหาสุขภาพ กายใจและ “จิต” เริ่มเสื่อม
2. เพื่อนที่ดี เหลือน้อยลง, การจะปรึกษาหารือช่วยเหลือกันลดลงไป
4. “เพื่อน-สหาย” ที่เกิดขึ้นในยามวิกฤติ : เมื่อถึงสภาพปัจจุบัน ก็เสื่อมและล่องลอยหายไป
5. เกิดมาทั้งที : มีเพื่อนแท้สักคนสองคน ก็คุ้มแล้วเพื่อนเอย!
6. ควรให้ความสำคัญ “เมื่อเพื่อนยังหายใจ มากกว่าไปรดน้ำในงานศพเพื่อน”

'นายกฯ'บอก'อ๋อ ครับ'หลังรู้'ศรีสุวรรณ'ยื่น'ป.ป.ช.'ร้องรัฐบาลล้มเหลวบริหารจัดการน้ำท่วมใต้
บุญรักษา! จนท.ช่วยทันเวลา 2 ลูกช้างพลัดหลง 'ตัวแรกถูกควายเผือกขวิด-อีกตัวติดบ่วง'
ไม้ อ.อ.ป.ช่วยชาวใต้! ทส.เตรียมทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้ ส่งให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
แอน อลิชา โพสต์สั้นๆแต่จุกอก หลัง นานา ถูกบุกจับคาบ้าน
เชาว์ บี้ สภาทนายความ เปิดชื่อทนายอินฟลูถูกลบชื่อ พักใบอนุญาต ชี้ ลงดาบแล้วปิดชื่อ ไม่ช่วยกู้ศรัทธา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี