l เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
l วันนี้ “พ่อ” จะพูดถึง
เรื่องของคน : คนที่มีคุณค่าและความหมายแก่ตัวเรา คือ “เพื่อน” พ่อต้องยอมรับว่า พ่อคิดว่า : พ่อรู้จัก คำว่า : “เพื่อนดี” มาตั้งแต่ได้มี “เพื่อน” ที่ “บวร” บ้านวัดโรงเรียนแต่ความจริงในชีวิต ที่ทั้งสุข ทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง ผ่านการต่อสู้มาทุกรูปแบบ ทุกเหตุการณ์ของบ้านเมืองทำให้พ่อ : ได้เข้าใจความจริงว่า “พ่อรู้จักคำว่าเพื่อน” ยังไม่ครบถ้วน ถ้อยคำและความหมายที่เป็นจริงในชีวิตอ่านศึกษา “ความหมายของเพื่อน” ในตำรา “ธรรม และ โลก” และประสบการณ์จริงมาไม่น้อยก็ยังไม่ได้ ความหมาย ที่เป็นจริง ครบถ้วน สมบูรณ์ ของชีวิต “เพื่อน” ที่ดูว่า “ใช่ ” ก็เป็นเรื่องชั่วคราว เป็นครั้งคราว ในเหตุการณ์
หนึ่งๆ : มิใช่ ตลอดกาล หรือชั่วนิรันดร์
l “เพื่อน” ในยุคสมัยและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาของสังคมไทย
- ยามเรียน : ในโรงเรียนประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย ดู “เพื่อนๆ” มีแต่ความบริสุทธิ์ ในโลกของเยาวชน
- ในช่วงมหาวิทยาลัย ทั้งในการเรียนในคณะวิชา และกิจกรรมในและนอกมหาวิทยาลัย กิจกรรม เรื่องของชมรม ชุมนุมต่างๆ ก็ยังเป็นเรื่องของการร่วมไม้ร่วมมือ “รักสามัคคีกัน”แต่ เมื่อมาถึง “การแข่งขันในตำแหน่งนายกสโมสร อุปนายก” มีอะไรที่เริ่มมีความเห็นความขัดแย้งการชุมนุมขับไล่ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย (จุฬาฯ กรณีคอร์รัปชัน 2513) การรณรงค์ “ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น” คุ้มครองและส่งเสริมสินค้าไทย เสื้อผ้าดิบ ฯลฯ การแข่งขันชิงตำแหน่ง “เลขาธิการศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย”.........
- เมื่อจบการศึกษา เข้ารับราชการในตำแหน่งวิศวกรของ กทม. และทำกิจกรรมเรื่องบ้านเมืองควบคู่ไปและมาถึงจุดสูงสุด “การเรียกร้องรัฐธรรมนูญ” และเป็นหนึ่งในสิบสามกบฏเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ปี 2516 ความหมายของ “เพื่อน” มีการพัฒนาตาม “ความคิด” การจับกลุ่มการร่วมหัวจมท้ายที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
- เหตุการณ์และสถานการณ์ ช่วงระหว่าง “14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519” ที่มี 2 กระแส ปะทะกัน ระหว่าง “ขวาจัด และซ้ายจัด” คนกลางๆ เริ่มอยู่ยาก และถูกกระหน่ำไปด้วยเพื่อนๆ ที่อยู่ฝ่ายประชาชน ก็ยังไปด้วยกันได้ แต่เพื่อน
ที่ไปรับราชการและสู่การเมือง เริ่มคิดต่างกันและเหตุการณ์ ช่วงสำคัญของชีวิตนักศึกษาประชาชน ที่ “เข้าป่า” โดยมีความคิดใกล้เคียงกันสองฝักฝ่าย “รัฐและฝ่ายประชาชนนักศึกษา” จับปืนเข้าใส่กัน และมี “เพื่อน” อยู่ทั้งสองฝ่ายมาพูดกันในตอนหลังจากความขัดแย้งยุติลง : “หากเผชิญหน้ากัน จะทำอย่างไร” ต้องหลีกทางไม่ให้เจอกันแม้แต่คำว่า “สหาย” ที่ดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ : แต่เมื่อเกิดความคิดต่างกัน,“สหาย” ก็ต่างออกไป
l ยิ่งมาถึงช่วงเพื่อนพ้องน้องพี่ เข้าไปสังกัด “คอกการเมือง” ที่ต่างกัน หรือ คิดต่างกัน
ช่วงแรกๆ ในระบบการเมืองเก่า มีความขัดแย้งต่างกัน แต่ยังไม่มากเท่า แต่หลังจากยุค “ระบอบทุนสามานย์ครองเมือง”ปี 2544 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน มีแต่มากขึ้นเกิดกระแสลมพัดวนเวียนย้อนกลับ : เพื่อนกลายเป็นศัตรู และผู้อยู่คนละข้าง
“กลับมาร่วมงานกันได้” ความคิดที่ต่างกันสุดขั้ว มาผสมปนเปกับความคิดเรื่อง “การเมือง” แนวทางการไปสู่
ประชาธิปไตยและมาถึงเรื่องสถาบันหลักของประเทศ “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ รวมทั้งประชาชน” ที่คิดต่างกัน และยกมาเป็นข้ออ้างกัน ในบรรดาเพื่อน และสหายที่เคยร่วมรบร่วมรักกันแทบจะเป็นจะตาย
- อะไรคือ “เพื่อน” : เพื่อน ต้องคิดเหมือนกัน, ต่างกัน มิใช่เพื่อนแล้ว และแล้วก็กระหน่ำใส่กันส่วนใหญ่ การสังสรรค์คลุกคลีสามัคคีกัน ก็ต้องอยู่ฝ่ายสีเดียวกัน คิดเหมือนกัน (แต่มิใช่ธงสามสี) แรงต่อแรง สีต่อสี : ความคิด อุดมการณ์ ผลประโยชน์ พวกพ้อง : แยกกันยากมาก ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องง่าย เรื่อง “เพื่อน และอุดมคติ หรือผลประโยชน์ของใคร” คงจะใช้เวลาอีกนานแสนนาน ตามดูกัน.....
l ความคิดเชิงอุดมการณ์ กับ ความคิดคับแคบเห็นแก่ตัวของคน : มันทับซ้อนกัน และปิดบังกันไว้
ความคิดคับแคบ คิดไม่กว้าง ไม่ลึกไม่ไกล คิดสั้นๆ ไม่ยาว ไม่คิดถึงประวัติศาสตร์และอนาคตของกันและกันความจริงที่เกิดขึ้นในหมู่เพื่อน : มองให้ลึกซึ้ง มันอยู่ในเรื่องหลังมากกว่า : “เป็นเรื่องบุคคล มิใช่ส่วนรวม”
- คุณคิดว่า “เพื่อน” คืออะไร? คือใคร? มีความหมายคุณค่า มากน้อยแค่ไหน, แล้วคุณทำอะไร ?
- หลักการใหญ่ เป็นหลักการเดียวกันของมนุษย์-สังคม ทั้งเรื่องสร้างครอบครัว สร้างเพื่อน สร้างชาติ
- มนุษย์เป็นสัตว์สังคม อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมี ญาติพี่น้อง ครอบครัว และมี “เพื่อน” ร่วมอยู่ด้วย
- เพื่อน : ต้องสร้างขึ้น “ลงคิดลงแรงลงใจและลงทุกอย่าง” เพื่อให้มี “เพื่อนที่ดีคนหนึ่ง”
- ต้องเป็นฝ่ายให้มากกว่า จะเอาจากเพื่อน,ให้ “ด้วยความรัก ความสุข” อย่าหวังผลประโยชน์
- เพื่อน : มิใช่เป็นเรื่องฝ่ายเดียว “แต่เป็นเรื่องของเราสองคน” ที่คิดและปรับตัวเข้าหากันตลอดเวลา
- แต่ความจริงของชีวิต อย่าไปคิดว่า “เราคือเพื่อน” : ต้องให้เท่าๆ กัน ซึ่งหายากมากในโลกใบนี้
- ต้อง “ให้กันและกัน” มากเท่าที่ทำได้, อย่าเอาเปรียบกันมากเกินไป : ความเป็นเพื่อนจะห่างออกไป
- การให้ที่สำคัญที่สุด “คือการให้ความคิดที่ถูกต้อง” และ “ต้องกล้า” แก้ไขความผิดของเพื่อน (ตรงกับหลักของการทำบุญตามพุทธศาสนา : ช่วยคนให้คิดถูกต้อง เป็นการทำบุญที่ดีที่สุด)
- หัวใจ : ต้องเคารพนับถือ (Respect) ให้เกียรติ ให้ความไว้วางใจ และเชื่อใจกัน
- ต้องสรุปบทเรียน เรียนรู้นิสัยธาตุแท้ของกันและกัน และต้อง “พยายาม” ปรับตัวให้เข้าหากันต้องมีฝ่ายที่เริ่มต้นก่อน คือ “ฝ่ายที่เป็นหลัก เข้มแข็ง แข็งแรง และเข้าใจ” แล้วเขาจะปรับตาม
u ทางเดียวที่จะมีมิตร คือการทำตัวเป็นมิตรก่อน : ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน
- บทเรียนอย่างหนึ่ง “คนดีเด่นดัง” มักจะขาดความใส่ใจ ให้เกียรติเพื่อน เพราะเอาตัวเองเป็นใหญ่
- ต้องเข้าใจว่า “คำว่าเพื่อน” อยู่ที่ความรัก ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน “ช่วยกันตามสภาพของตน”
l การคิดถึงประวัติอันยาวนานของการพัฒนามาเป็นเพื่อนกัน “ร่วมสุขร่วมทุกข์” (ร่วมตาย) กันตอนเด็กๆ ที่บริสุทธิ์ “รักเพื่อนคนนี้มากที่สุดในโลก” จะให้จะช่วยเหลือทุกอย่าง แม้ชีวิต แต่ “เมื่อโตและใหญ่ขึ้นมา” มีฐานะ : กลับ เป็น “สำรวยลืมคำ” มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
l ในสภาพปัจจุบัน : ความเป็นเพื่อน มีความสำคัญมากขึ้น : ต้องเริ่มที่ตัวเรา เมื่อยังมีโอกาส
1. ความขัดแย้งทางความคิด ยังดำเนินต่อไป ไม่จบลงง่าย เพราะขาดรัฐบุรุษ และผู้นำเห็นแก่ตัว
2. ช่วงอายุที่มากขึ้น (ในวัย 70) ปัญหาสุขภาพ กายใจและ “จิต” เริ่มเสื่อม
2. เพื่อนที่ดี เหลือน้อยลง, การจะปรึกษาหารือช่วยเหลือกันลดลงไป
4. “เพื่อน-สหาย” ที่เกิดขึ้นในยามวิกฤติ : เมื่อถึงสภาพปัจจุบัน ก็เสื่อมและล่องลอยหายไป
5. เกิดมาทั้งที : มีเพื่อนแท้สักคนสองคน ก็คุ้มแล้วเพื่อนเอย!
6. ควรให้ความสำคัญ “เมื่อเพื่อนยังหายใจ มากกว่าไปรดน้ำในงานศพเพื่อน”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี