แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn คนเราต้องเตรียมตัวเพื่อที่จะเผชิญปัญหาต่างๆ ในชีวิต แต่การเตรียมตัวนั้นก็ต้องมีความรู้ประกอบด้วย มีการฝึกนิสัยใจคอของตนให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ด้วย สิ่งที่สำคัญในการฟันฝ่าอุปสรรคในชีวิตคือต้องรู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวกำลังทำอะไร รู้ว่าตัวต้องการอะไร...(พระบรม
ราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่นักศึกษาวิทยาลัยเกษตรกรรมแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 3 มกราคม 2516) ...
nn ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าการเลือกตั้ง สส. ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 คือการเลือกตั้งที่ส่งผลให้ประเทศไทยจัดตั้งรัฐบาลได้เชื่องช้าที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แต่ความผิดมิใช่อยู่ที่การเลือกตั้ง แต่น่าจะอยู่ที่การวางหมากการเมืองไว้อย่างซับซ้อน เรียกได้ว่าซับซ้อนเสียจนทำให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องตามแก้ปัญหากันทุกๆ วินาที แต่คนร่างกฎหมายเจ้าเล่ห์ฉบับนี้หายหน้าหายตาไปแล้ว โดยอ้างว่าหมดหน้าที่...
nn แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า การที่ประเทศไทยมีคณะร่างกฎหมายเจ้าเล่ห์ได้นั้น ก็มาจากการยินยอมพร้อมใจของผู้มีอำนาจรัฐที่ยอมให้คนเจ้าเล่ห์เข้าไปทำหน้าที่ เพราะฉะนั้นเมื่อจะวิพากษ์กันให้ถึงแก่น ก็ต้องวิพากษ์ไปถึงตัวผู้แต่งตั้งคนเจ้าเล่ห์เข้าไปร่างกฎหมายด้วย แต่ก็นึกสมน้ำหน้าอยู่ลึกๆ ว่า ก็สมแล้วที่ใช้คนเจ้าเล่ห์ทำงานให้ แล้วสุดท้ายก็ต้องกลับมารับกรรมที่ได้สมรู้ร่วมคิดกันเอาไว้ สมน้ำหน้าจริงๆ แล้วก็ต้องรอดูต่อไปว่าทุกขลาภที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นลูกโซ่ในอนาคตจะมีอะไรอีกบ้าง แต่รับรองว่าไม่มีวันอยู่กันอย่างเป็นสุขอย่างแน่นอน...
nn วันนี้ขออนุญาตไม่แตะเรื่องโผคณะรัฐมนตรี เพราะผู้อ่านแนวหน้าบอกว่าเหม็นเบื่อมากเหลือประมาณแล้ว มีออกมานับร้อยโผแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นจะลงตัวสักที ขออนุญาตแย้มให้ฟังเล็กๆ ว่า ยากที่จะลงตัว เพราะ สส. แต่ละคนก็ต้องการชิ้นปลามันด้วยกันทั้งนั้น ไม่เคยเห็นชัดๆ ว่าจะมีสส.สักกี่คนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของสาธารณะมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว...
nn จับตาดูให้ดีก็แล้วกันว่า พรรคการเมืองของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ คือชาติพัฒนา จะออกมาโวยเสียงดังแค่ไหน หากพรรค ไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีเลยแม้แต่ขาเดียว จับตาดูให้ดีก็แล้วกันว่าคนที่ไม่ค่อยเคยโวยวายมาก่อน เมื่อถึงคราวออกมาโวย จะส่งเสียงดังขนาดไหน ส่วนเรื่องที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าแม้ สส. จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่ก็ยังมีงานอื่นๆ ให้ทำ มีตำแหน่งอื่นๆ ให้ทำก็มีเสียงสวนออกมาจากคนที่อยากเป็นรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็เพ้อไปแบบนี้แหละ เพราะตนเองได้ตำแหน่งสูงๆ ไว้ในกำมือแล้ว ก็จึงพูดอะไรไปเรื่อยๆ เขาเรียกว่าพูดไปแบบคนไม่เคยต่อสู้ในสนามเลือกตั้งมาก่อน...
nn มีคำถามจากผู้อ่านแนวหน้าว่า ทำไมตำรวจที่ลาออกจากราชการเพื่อไปสมัคร สส. หรือพูดง่ายๆ ว่าเล่นการเมือง แต่เมื่อปรากฏว่าสอบตกไม่ได้เป็น สส. ก็กลับเข้าไปรับราชการตำรวจได้เหมือนเดิม เรื่องแบบนี้เหมาะสมหรือ ทำไมกฎหมายอนุญาตให้ทำได้...
nn เมื่อถามมาเช่นนี้ ธรรมกร ก็ต้องไปค้นหาข้อกฎหมายมาตอบแบบคร่าวๆ คือ กฎหมายอนุญาต แต่ ธรรมกร มีข้อสังเกตส่วนตัวว่า บางทีคนบางจำพวกก็อ้างข้อกฎหมายเป็นสรณะ โดยไม่เคยคำนึงถึงว่าเหมาะและควรหรือไม่ คนที่อ้างกฎหมายตะพึดตะพือ แต่ไม่ดูความเหมาะความควรนั้น แม้จะเป็นคนถูกกฎหมาย แต่อาจไม่มีความเป็นคนที่สมบูรณ์แบบก็ได้ ส่วนตำรวจรายที่เข้าข่ายดังกล่าวนั้นชื่ออะไรบ้าง ก็สามารถหาดูได้ตามข่าวการเมือง แต่จะไปเอาอะไรกับตำรวจพรรค์อย่างว่านั้น เพราะตำรวจหลายคนเลวร้ายกว่านี้ก็ยังทำมาแล้ว เช่น ทั้งๆ ที่อยู่ในราชการแต่ก็ยังทำตัวไม่ต่างไปจากขี้ข้านักการเมือง เพราะวันๆ ไม่เคยทำหน้าที่เพื่อประชาชน แต่คอยเดินตามชายกระโปรงและเกาะขากางเกงนักการเมือง เห็นกันถมเถไป ทุเรศแสนทุเรศ แต่ก็ไม่เห็นว่าตำรวจเหล่านั้นจะมียางอาย...
nn มหาวิทยาลัยของรัฐหลายแห่งคือแหล่งที่ให้ทั้งความรู้ด้านวิชาการ แต่ขณะเดียวกันก็มีมหาวิทยาลัยของรัฐบางแห่งซึ่งภายในเต็มไปด้วยเรื่องราวแสนจะสกปรก ทั้งการเล่นพรรคเล่นพวก บางคนเกษียณอายุราชการมาชาติเศษแล้ว แต่ก็ยังนั่งกินตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงได้ต่อไปราวกับว่ามหาวิทยาลัยแห่งนั้นเป็นสมบัติส่วนตัว แถมยังเอาลูก-หลาน-ญาติพี่น้องเข้าไปทำงานในมหาวิทยาลัยราวกับเป็นมหาวิทยาลัยครอบครัว...
nn แต่ที่แสนจะเลวร้ายคือมีการโกงกินภายในมหาวิทยาลัยกันอย่างครึกโครม แต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงกินยังคงกินตำแหน่งในมหาวิทยาลัยได้อย่างสุขสบาย ไม่ต้องคดีความใดๆ เพราะผู้บริหารมหาวิทยาลัยดึงเอาตำรวจระดับสูง และข้าราชการระดับสูงมากๆ ของศาลยุติธรรม รวมถึงนักการเมืองจำพวกผู้มีอิทธิพลเถื่อนเข้าไปนั่งกินตำแหน่งต่างๆ นานาในคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย เมื่อเป็นเช่นนี้เสียแล้ว การโกงกินฉ้อฉลจึงเกิดขึ้นได้สะดวกโยธิน เพราะผู้บริหารมหาวิทยาลัยมีเกราะกำบังความผิดที่แข็งแกร่ง ขอยกตัวอย่างความฉ้อฉลของมหาวิทยาลัยที่มีผู้ศึกษามากมายมหาศาลแห่งหนึ่งเพื่อเป็นตัวอย่าง มีหลักฐานชัดเจนทนโท่ว่ามีการอนุมัติก่อสร้างอาคาร โดยใช้เงินหลายร้อยล้านบาท แต่สุดท้ายอาคารนั้นเปิดใช้ไม่ได้ กลายเป็นเสมือนสุสานรอบรรจุร่างที่ไร้วิญญาณของผู้อนุมัติ และเป็นเครื่องประจานความทุจริตฉ้อฉลของคนในมหาวิทยาลัย น่าสมเพชที่มหาวิทยาลัยนั้นมีคณะนิติศาสตร์ แต่กลับไม่ปรากฏคนสอนกฎหมายในมหาวิทยาลัยแห่งนั้นจะเดือดเนื้อร้อนใจกับการทุจริตคอร์รัปชั่นภายใน เมื่อเป็นเช่นนี้เสียแล้ว ก็จึงทำให้เกิดคำถามว่า แล้วบัณฑิตกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะรักความยุติธรรมแท้จริงหรือ เพราะผู้สอนกฎหมายในคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่น่าจะรักและศรัทธาในความยุติธรรม...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี