สืบเนื่องจากกรณีมีกลุ่มคนร้ายราดน้ำมันจุดไฟเผาย่างสดพระสมจิตขันติธโร เกิดทรัพย์ หรือ หลวงพ่อแตอายุ 53 ปี พระนักบุญที่ใช้ยาสมุนไพรช่วยชาวบ้านเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมใน จ.บึงกาฬ เบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่เรื่องกลุ่มคนจะจัดทำบุญทอดผ้าป่า ต่อมา ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 รายคือ พระบัญชา หรือนายบัญชาจันทร์คำ อายุ 37 ปี นายทนงศักดิ์ โสกแก้ว อายุ 43 ปี และนายสมุทร์ วันอุบล อายุ 67 ปี
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้นำกำลังคุมตัวนายบัญชาพร้อมพวกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สำนักปฏิบัติธรรม บ้านโพนทอง หมู่ 3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ท่ามกลางญาติโยมจำนวนมากที่มามุงดูเพราะไม่เชื่อว่า พระบัญชา จะกลายเป็นผู้ก่อเหตุเสียเอง เนื่องจากเป็นลูกศิษย์ที่หลวงพ่อแตสอนวิชามาตลอดนับสิบปี
นายบัญชาสารภาพว่าที่ต้องก่อเหตุฆ่าเผาหลวงพ่อแตที่เคยเรียกว่าอาจารย์ มีสาเหตุมาจากเรื่องที่ผิดใจกันเมื่อปี 2561 เกี่ยวกับทรัพย์สิน เงินที่ญาติโยมบริจาคให้กับสำนักหลวงพ่อแตไม่ยอมให้กองกลางไปดูแลเพราะเจ้าสำนักเอาไปใช้ส่วนตัว ซึ่งตนกำความลับหลวงพ่อแตหลายอย่าง ทั้งเรื่องมั่วสีกา เรื่องดื่มสุรา และเรื่องผิดศีลอีกมากมาย เส้นยาแดงมาขาดจนได้ในเรื่องทอดผ้าป่า เนื่องจากตนรับจำทอดผ้าป่าจากญาติโยมกลุ่มหนึ่งมาแล้ว
แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อแตกลับไม่สนใจ ไม่แยแสดันไปรับจำทอดผ้าป่ามาจากญาติโยมอีกกลุ่มหนึ่งทั้งๆที่มาทีหลังซึ่งผ้าป่าไม่สามารถจัดทับซ้อนกันได้หลวงพ่อแตเลยเขี่ยงานบุญผ้าป่าของผมทิ้งไป ทำให้เสียหน้าเสียความรู้สึกถึงขั้นแค้นใจต้องขอแยกย้ายออกไปจากสำนัก แต่ความแค้นไม่หายเลยไปหลอกชาวบ้าน 2 คน มาร่วมลงมือ อีกทั้งยังเชื่อว่าน่าจะไม่โดนตำรวจจับกุม เนื่องจากอำพรางศพทำลายหลักฐานทุกอย่างแล้วมั่นใจว่าต้องสาวมาไม่ถึงตัว และไม่น่าจะเป็นคนที่ตำรวจสงสัยได้
คดีนี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาในวงการสงฆ์และรูปแบบการปกครองคณะสงฆ์ไทยทั้ง 2 นิกายใหญ่ คือทั้งพระมหานิกายและพระธรรมยุติกนิกายที่มีจำนวนประมาณ 330,000 รูป ที่ยังคงมีความหละหลวมอยู่มาก ถึงแม้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรีจะเข้ามาแก้ไขร่วมกับคณะกรรมการมหาเถรสมาคมก็ตาม แต่ปัญหาต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่มากเพราะการบริหารจัดการและการดูแลต่างๆ มีความไม่ทั่วถึง
ตามข้อเท็จจริงนั้นพระภิกษุสงฆ์มีศีลที่กำกับตัวตนอยู่ทั้งหมด 227 ข้อ ถ้าพระภิกษุปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยทุกๆ ข้อก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ด้วยคำว่าลาภยศสรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระจึงทำให้พระภิกษุที่เห็นผิดเป็นชอบปฏิบัติตัวผิดแผกต่างไปจากพระธรรมวินัยทำให้เกิดความมัวหมองในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น
ปัญหาการกระทำผิดจริยธรรมของพระภิกษุสงฆ์ ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมหาเถรสมาคม และสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติต้องให้ความสนใจและเอาใจใส่ดูแลการบริหารงานอย่างใกล้ชิดมากเป็นพิเศษเพราะจะทำให้พุทธศาสนาแบบหินยานหรือแบบลัทธิลังกาวงศ์ของประเทศไทยเสื่อมเสียได้และอาจจะนำไปสู่ความเสื่อมสูญสลายได้ในอนาคตนั่นเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี