วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สืบเนื่องจากกรณีมีกลุ่มคนร้ายราดน้ำมันจุดไฟเผาย่างสดพระสมจิตขันติธโร เกิดทรัพย์ หรือ หลวงพ่อแตอายุ 53 ปี พระนักบุญที่ใช้ยาสมุนไพรช่วยชาวบ้านเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมใน จ.บึงกาฬ เบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่เรื่องกลุ่มคนจะจัดทำบุญทอดผ้าป่า ต่อมา ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 รายคือ พระบัญชา หรือนายบัญชาจันทร์คำ อายุ 37 ปี นายทนงศักดิ์ โสกแก้ว อายุ 43 ปี และนายสมุทร์ วันอุบล อายุ 67 ปี
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้นำกำลังคุมตัวนายบัญชาพร้อมพวกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สำนักปฏิบัติธรรม บ้านโพนทอง หมู่ 3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ท่ามกลางญาติโยมจำนวนมากที่มามุงดูเพราะไม่เชื่อว่า พระบัญชา จะกลายเป็นผู้ก่อเหตุเสียเอง เนื่องจากเป็นลูกศิษย์ที่หลวงพ่อแตสอนวิชามาตลอดนับสิบปี
นายบัญชาสารภาพว่าที่ต้องก่อเหตุฆ่าเผาหลวงพ่อแตที่เคยเรียกว่าอาจารย์ มีสาเหตุมาจากเรื่องที่ผิดใจกันเมื่อปี 2561 เกี่ยวกับทรัพย์สิน เงินที่ญาติโยมบริจาคให้กับสำนักหลวงพ่อแตไม่ยอมให้กองกลางไปดูแลเพราะเจ้าสำนักเอาไปใช้ส่วนตัว ซึ่งตนกำความลับหลวงพ่อแตหลายอย่าง ทั้งเรื่องมั่วสีกา เรื่องดื่มสุรา และเรื่องผิดศีลอีกมากมาย เส้นยาแดงมาขาดจนได้ในเรื่องทอดผ้าป่า เนื่องจากตนรับจำทอดผ้าป่าจากญาติโยมกลุ่มหนึ่งมาแล้ว
แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อแตกลับไม่สนใจ ไม่แยแสดันไปรับจำทอดผ้าป่ามาจากญาติโยมอีกกลุ่มหนึ่งทั้งๆที่มาทีหลังซึ่งผ้าป่าไม่สามารถจัดทับซ้อนกันได้หลวงพ่อแตเลยเขี่ยงานบุญผ้าป่าของผมทิ้งไป ทำให้เสียหน้าเสียความรู้สึกถึงขั้นแค้นใจต้องขอแยกย้ายออกไปจากสำนัก แต่ความแค้นไม่หายเลยไปหลอกชาวบ้าน 2 คน มาร่วมลงมือ อีกทั้งยังเชื่อว่าน่าจะไม่โดนตำรวจจับกุม เนื่องจากอำพรางศพทำลายหลักฐานทุกอย่างแล้วมั่นใจว่าต้องสาวมาไม่ถึงตัว และไม่น่าจะเป็นคนที่ตำรวจสงสัยได้
คดีนี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาในวงการสงฆ์และรูปแบบการปกครองคณะสงฆ์ไทยทั้ง 2 นิกายใหญ่ คือทั้งพระมหานิกายและพระธรรมยุติกนิกายที่มีจำนวนประมาณ 330,000 รูป ที่ยังคงมีความหละหลวมอยู่มาก ถึงแม้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรีจะเข้ามาแก้ไขร่วมกับคณะกรรมการมหาเถรสมาคมก็ตาม แต่ปัญหาต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่มากเพราะการบริหารจัดการและการดูแลต่างๆ มีความไม่ทั่วถึง
ตามข้อเท็จจริงนั้นพระภิกษุสงฆ์มีศีลที่กำกับตัวตนอยู่ทั้งหมด 227 ข้อ ถ้าพระภิกษุปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยทุกๆ ข้อก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ด้วยคำว่าลาภยศสรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระจึงทำให้พระภิกษุที่เห็นผิดเป็นชอบปฏิบัติตัวผิดแผกต่างไปจากพระธรรมวินัยทำให้เกิดความมัวหมองในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้น
ปัญหาการกระทำผิดจริยธรรมของพระภิกษุสงฆ์ ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมหาเถรสมาคม และสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติต้องให้ความสนใจและเอาใจใส่ดูแลการบริหารงานอย่างใกล้ชิดมากเป็นพิเศษเพราะจะทำให้พุทธศาสนาแบบหินยานหรือแบบลัทธิลังกาวงศ์ของประเทศไทยเสื่อมเสียได้และอาจจะนำไปสู่ความเสื่อมสูญสลายได้ในอนาคตนั่นเอง

ปชป. ร่อนแถลงการณ์ ซัด พรรคส้ม ออกลูกงอแงหวังประโยชน์แก้ รธน. ยอมเอา ‘อธิปไตยชาติ’ มาเสี่ยง
ยุบสภา อนุทิน ยันแล้ว คืนอำนาจให้ประชาชน
คอนเฟิร์ม! นายกฯอนุทิน ยื่นยุบสภาแล้ว เผยต่อรอง ปชน. ชี้ สั่ง สว.ไม่ได้ ไม่โหวตตัดอำนาจ
สะพัด อนุทิน ยื่นยุบสภาคาไว้แล้ว ตั้งแต่เย็นวันนี้ ตัดหน้า ‘ปชน.’ ล่าชื่อซักฟอกรัฐบาล
สื่อนอกตีข่าว เหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือน2ประเทศอพยพแล้วครึ่งล้านคน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี