แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม ประเพณีของประเทศ ค่านิยมที่ถูกต้องของประเทศ ไม่ใช่สิ่งที่ล้าสมัย เป็นสิ่งที่จะต้องดำรงรักษาต่อไป… (พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่นายทหารราชองครักษ์พิเศษ นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ นายทหารราชองครักษ์ นายตำรวจราชองครักษ์ และราชองครักษ์ในพระองค์ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันที่ 13 เมษายน 2562)...
nn สส. บัญชีรายชื่อ และ สส. เขตของพรรคพลังประชารัฐ 3 ราย โดยเฉพาะ สส. ที่คนในพื้นที่ภาคอีสานเรียกว่าเป็นผู้มีอิทธิพล กำลังเกิดอาการเสียวสันหลังจนเข้าขั้นทุรนทุรายหนัก หลังมีข่าวว่า ป.ป.ช. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ลงมติชี้มูลความผิดคดีก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน 56 แห่ง ในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ความผิดตำตาเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีผู้นำงบประมาณจากการแปรญัตติของ สส. ที่กำหนดให้ใช้สำหรับเป็นค่าก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียนที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ แต่กลับนำงบฯ ไปก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือก่อสร้างโดยไม่ได้มาตรฐาน อันน่าจะเข้าข่ายจงใจทุจริตงบฯ...
nn รับรองว่าเรื่องที่ส่อจงใจทุจริตงบฯ สร้างโรงเรียน จะถูกฝ่ายค้านนำไปเป็นประเด็นเล่นงานพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน แล้วก็เป็นไปได้ว่าจะมีความพยายามโยงเรื่องนี้ไปที่นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้เปรียบเสมือนเสาหลักต้นสำคัญของพรรค ด้วย ก็ถือว่าช่วยไม่ได้จริงๆ ที่พรรคแกนนำรัฐบาลจะถูกฝ่ายค้านโจมตี เพราะในเมื่อหัวหน้ารัฐบาลประกาศมาโดยตลอดว่ายึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้นเมื่อมีข้อมูลว่า สส. ในพรรคพลังประชารัฐเน่า แกนนำพรรคก็ต้องรับผิดชอบด้วย โดยไม่มีทางปฏิเสธ...
nn ไปดูเรื่องรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่ถูกฝ่ายค้านจ้องจองกฐินกระชากหน้ากากว่าถือหุ้นสื่อสารมวลชนกันบ้าง รายหนึ่งที่ ธรรมกร พอจะมีข้อมูลว่าฝ่ายค้านจะเล่นงานหนักแน่นอน คือ เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากพรรคชาติพัฒนา เรื่องที่เทวัญจะถูกเล่นงานกลางสภาคือ การถือหุ้นส่วน บริษัท เอส. ซี. เค. แลนด์ จำกัด แต่เทวัญย้ำนักย้ำหนาว่าบริษัทนี้ไม่ได้ทำธุรกิจด้านสื่อ แม้แต่น้อย เพียงแต่มีการระบุวัตถุประสงค์แบบครอบจักรวาลไว้ในเอกสารยื่นขอจดทะเบียนบริษัทเท่านั้น อันที่จริงหากย้อนหลังไปดูประวัติในทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้จะพบว่าเทวัญถือหุ้นอยู่ 6 พันหุ้น แต่ข้อมูลที่ ธรรมกร อ้างอิงประกอบเรื่องนี้จากสำนักข่าวอิศราคือ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 เทวัญโอนหุ้นให้แม่ คือจรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ ต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะเล่นงานเทวัญหนักหนาสาหัสสถานใด แล้วก็ต้องดูต่อไปว่าเทวัญจะเอาตัวรอดจากการอภิปรายของฝ่ายค้านได้ในสภาพไหน ระหว่างรอดตัวอย่างสวยและใสสะอาดกับรอดมาได้แต่ทว่ามีแผลเหวอะหวะเลือดท่วมตัว...
nn ไหนๆ ก็พูดเรื่องการถือหุ้นส่วนบริษัทโดยรัฐมนตรีกันแล้ว ก็ขอพาไปดูอีกรายคือ เสี่ยบี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากพรรคพลังประชารัฐ งานนี้ศรีภรรยาของเสี่ยบี คือ นุสบา ปุณณกันต์ ดาราชื่อดังในจอแก้ว นุสบาและเสี่ยบีน่าจะตื่นตัวและทันเกมการเมืองมาตั้งแต่แรก จึงไม่ต้องเผชิญปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นส่วนบริษัท โดยศรีภรรยาเสี่ยบีโอนหุ้นบริษัท บริลลี จำกัด ให้รัศมี (แม่ของนุสบา) โดยนุสบาถือหุ้นไว้เพียง 1 หุ้นเท่านั้น ถึงแม้เสี่ยบีจะไม่มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นส่วนบริษัทนี้ แต่เมียของเสี่ยบีเคยถือหุ้นใหญ่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ต้องมาปวดหัวเรื่องข้อกฎหมายประเด็นเมียรัฐมนตรีถือหุ้นใหญ่หรือแม้แต่เรื่องถือหุ้นเกินร้อยละ 5 มาดามนุสบาก็จึงตัดไฟเสียแต่ต้นลม แบบนี้เขาเรียกว่า มีเมียดี เป็นศรีแก่ผัว แต่สำหรับบางคนมีเมียชั่ว ผัวจึงหมองมัว จนต้องหนีคดีจากศาลไทย แต่สำหรับผัวเมียที่คุณคิดถึงนั้นอาจจะชั่วพอๆ กันทั้งผัวทั้งเมีย เข้าตำราขนมผสมน้ำยา...
nn ในขณะที่หลายต่อหลายคน (โดยเฉพาะพวกที่ไม่เคยติดตามดูข่าวสารการเมืองอย่างใกล้ชิดและจริงจัง) พากันวิตกจริตว่าวงการสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะด้านข่าวสารในสังคมไทยกำลังจะล้มตายล่มสลาย แต่หารู้ไม่ว่าคนเล่าข่าวบนหน้าจอทีวีของไทยหลายรายร่ำรวยอู้ฟู่ เพราะอาศัยการเล่าข่าวผสมใส่ไข่บวกกับละเลงสีสันจนมันหยด คนเล่าข่าวบางรายพล่ามจนคนฟังแยกไม่ออกว่าอะไรคือข่าวจริง และอะไรคือสิ่งที่คนเล่าข่าวมโนลงไป ล่าสุดมีการติดตามดูรายได้ของคนเล่าข่าวบางกลุ่มพบว่า ผู้มีรายได้จากการเล่าข่าวที่น่าจับตามองคือพุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี จากช่องอมรินทร์ทีวี ช่องที่ถูกกลุ่มธุรกิจเบียร์ช้างเข้าไปถือหุ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ เรียบร้อยแล้ว ที่น่าสนใจคือพุทธอภิวรรณ ตั้งบริษัทชื่อวีนิวส์มีเดีย เมื่อเดือนตุลาคม 2560 แต่ดูจากงบการเงินบริษัทพบว่า ในปี 2561 บริษัทของพุทธอภิวรรณฟันกำไรไปเกือบ 17 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมกว่า 74 ล้านบาท ถือว่าเป็นคนเล่าข่าวที่มาแรงมาก แรงจนคนเล่าข่าวหลายคนเกิดอาการตาร้อนผ่าวเมื่อทราบข่าวกำไร มีหลายคนบอกว่าในชั่วโมงนี้พุทธอภิวรรณมาแรงกว่าคนเล่าข่าวอย่าง กิตติ สิงหาปัด กนก รัตน์วงศ์สกุล หรืออัญชลี ไพรีรัก แต่ธรรมกร ว่าอีกคนที่น่าจับตามองมากในยามนี้คือ วีระ ธีระภัทรานนท์ นักจัดรายการวิทยุที่หลายคนรู้ดีว่าอู้ฟู่มากๆ ๆ ๆ จนหลายคนริษยา...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี