มีผู้เคยเปรียบเทียบไว้ว่า ประชาธิปไตยก็เหมือนศาลเจ้า จะศักดิ์สิทธิ์มากน้อยแค่ไหนให้ดูว่ามีคนแห่แหนไปกราบไหว้บูชามากน้อยเพียงใด
ถ้าศักดิ์สิทธิ์มากก็มีคนไปกราบไหว้มาก
ถ้าศักดิ์สิทธิ์น้อยคนก็ไปน้อย
ลำพังตัวศาลเจ้าอย่างเดียวคงจะศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ ถ้าไม่มีอะไรปรากฏให้ผู้คนทั้งหลายเห็นความศักดิ์สิทธิ์ที่ว่านี้ เพราะฉะนั้นถ้าประชาธิปไตยเป็นเหมือนศาลเจ้าอย่างว่าแล้ว ย่อมดูความศักดิ์สิทธิ์ของประชาธิปไตยได้จากผู้คนที่แห่แหนไปกราบไหว้บูชา เพราะเลื่อมใสยอมรับนับถือว่าประชาธิปไตยจะสามารถทำให้พวกเขามีความสุขที่เท่าเทียมกัน มีสิทธิเสรีภาพและมีส่วนได้ส่วนเสียในสังคมอย่างยุติธรรม
ความศักดิ์สิทธิ์ของประชาธิปไตยจึงอยู่ตรงนั้น
บ้านเมืองของเราได้ชื่อว่ามีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยบ้านเราขณะนี้ศักดิ์สิทธิ์จริงอย่างนั้นหรือเปล่าชักไม่แน่ใจ เพราะศาลเจ้าแห่งนี้ถูกกีดกันไม่ให้ผู้คนไปกราบไหว้บูชาได้เหมือนเก่าด้วยข้อห้ามสารพัด
จะยกขบวนกันมาเป็นหมู่ใหญ่ก็ระแวง
จะจัดงานฉลองศาลเจ้ากลางสนามหลวงก็ไม่ได้ เพราะคนดูแลศาลเจ้าออกกฎออกระเบียบหยุมหยิมมากมายก่ายกอง วันดีคืนดีประกาศกฎฉุกเฉินพร้อมที่จะเล่นงานผู้คนด้วยวิธีการต่างๆ
คนดูแลศาลเจ้าจึงเป็นคนที่กล่าวได้ว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อชาวบ้าน ถ้าได้คนดูแลดีศาลเจ้าก็ดี ถ้าได้คนดูแลไม่ดีศาลเจ้าก็ไม่ดีคือเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์
ศาลเจ้าจะสกปรกรกรุงรัง ข้าวของเครื่องใช้ไม่เป็นระเบียบ ไม่เป็นไปตามแบบแผนของศาลเจ้า หรือสิ่งของเงินทองที่ชาวบ้านบริจาคใส่ไว้ในตู้จะสูญหาย หรือถูกยักยอกเอาไปเป็นของส่วนตัว ก็อยู่ที่คนดูแลศาลเจ้านี่แหละ
การจ้างคนดูแลศาลเจ้าจึงต้องรู้จักพิถีพิถันในการคัดเลือก ศาลเจ้าจึงจะไม่สกปรกหรือไม่ศักดิ์สิทธิ์
การเมืองในระบอบประชาธิปไตยก็เช่นเดียวกับถนนสายการเมืองจะเป็นถนนที่ไม่สกปรก ถ้าคนที่เข้ามาเดินอยู่ในถนนสายนี้ไม่สกปรก
ถ้าจ้างคนสกปรกไปเฝ้าศาลเจ้าประชาธิปไตย ศาลเจ้านั้นย่อมต้องสกปรกตามไปด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่บังเกิด
ผู้เข้าสู่ถนนการเมืองนั้น มีบุคคลส่วนหนึ่งที่เชื่อมั่นว่าตนจะสามารถเข้ามาทำการเมืองให้ดีขึ้น เปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น บุคคลประเภทดังกล่าวต้องจัดได้ว่าเป็นคนเสียสละ ต้องการรับใช้สังคมเพื่อประโยชน์ของคนในสังคม ต่อสู้กับความไม่ถูกต้องแม้จะได้รับความเจ็บปวดจากการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจเงิน อำนาจเถื่อน หรือกับคนที่บ้าอำนาจ
แต่ก็มีบุคคลอีกส่วนหนึ่งเช่นเดียวกันที่ต้องการเข้ามาเดินในถนนการเมืองเพราะเหตุจูงใจบางอย่าง เช่น
รักษาผลประโยชน์ของตนที่มีอยู่
เป็นต้นว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนที่กำลังดำเนินกิจการอยู่ โดยหวังผลจากอำนาจทางการเมืองที่ตนจะได้รับมาใช้เป็นเครื่องมือในการปกป้องหรือแสวงหาให้ได้มากขึ้นไปอีกจากที่เคยมีอยู่แล้ว
ต้องการอำนาจและอิทธิพลทางการเมือง
ความต้องการดังกล่าวเป็นไปทั้งเอาไว้ใช้ป้องกันตนเองหรือสมัครพรรคพวก รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆอันพึงจะได้รับจากตำแหน่งหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานในฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ
มีความเก็บกดอยู่ในใจ
ประเภทนี้มักเป็นคนที่เคยถูกกระทำมาก่อน เคยถูกรังแกจากผู้บังคับบัญชา ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา ก็เลยลาออกจากราชการหรือเมื่อครบเกษียณอายุมาสมัครรับเลือกตั้ง โดยหวังว่าถ้าได้รับเลือกตั้งก็จะได้มีโอกาสตอบโต้หรือแก้แค้นเป็นการตอบแทน
อีกประการหนึ่งเคยเป็นคนมีอำนาจหรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โตมาก่อน เมื่อต้องพ้นจากอำนาจหรือตำแหน่งหน้าที่การงานเหล่านั้น ก็ยังอยากมีอำนาจอยู่ต่อไป เป็นความอยากที่ไม่เคยรู้จักคำว่าปล่อยวาง
นอกจากมูลเหตุจูงใจ ดังกล่าวแล้ว ยังมีบุคคลอีกบางประเภทที่ต้องการเข้ามาเดินบนถนนการเมืองอีกด้วย เช่น พวกที่ถือเอาเรื่องการเมืองเป็นเรื่องสนุกสนาน เห็นการเมืองเป็นของเล่น เป็นตัวตลกทางการเมืองไปก็มี และยังมีพวกที่การเมืองขึ้นสมอง ได้ยินเสียงปี่กลองเมื่อไรก็อยากจะรำทุกที มีการเลือกตั้งเมื่อไรสมัครทุกครั้ง ตกแล้วตกเล่าก็สมัครต่อไปอีก
บนถนนการเมืองบ้านเราขณะนี้มีคนประเภทต่างๆดังกล่าวเข้ามาเดินให้เห็นจำนวนไม่น้อย การทำการเมืองให้สะอาด ไม่สกปรก ไม่ต่ำช้าตามต้องการจึงยังเป็นไปได้ยาก เหมือนขว้างก้อนหินลงไปในสระน้ำ วัชพืชและจอกแหนกระจายออกไปเพียงชั่วครู่ ไม่นานก็กลับมารวมกันใหม่
ยิ่งสมัยนี้เป็นสมัยธุรกิจนำการเมืองด้วยแล้ว ทุกอย่างมีเงินเป็นตัวนำ ใครไม่มีเงินหรือมีเงินน้อยย่อมเสียเปรียบคู่ต่อสู้ เพราะทุกอย่างสกปรกไปหมด
เอาไปเฝ้าศาลเจ้าหรือดูแลศาลเจ้า ก็ทำให้ศาลเจ้าสกปรกตามไปด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าก็จะไม่บังเกิด
ถ้าประชาธิปไตยเปรียบเหมือนศาลเจ้าอย่างที่ว่า ประชาธิปไตยก็สกปรกถ้ามีคนอย่างนี้เข้าไปดูแล
เสียเงินจ้างแล้วยังทำสกปรกก็ต้องเลิกจ้าง หรือไล่ออกจากงานไปเลย ความสกปรกทั้งหลายคงจะหายไปได้ แล้วมาช่วยกันทำความสะอาดกันใหม่คนละไม้คนละมือ บางทีบ้านเมืองจะดีกว่านี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี