7 พรรค ฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปแล้ว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ระบุว่า “สมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จะเข้าชื่อกันเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติก็ได้”...
เป้าหมายหลักของฝ่ายค้าน ก็เพื่อให้สิ้นความสงสัยเกี่ยวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องรอง เป็นของแถม
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ระบุว่าขณะนี้ญัตติดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนของการพิจารณากลั่นกรองของเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า เป็นญัตติที่มีองค์ประกอบครบถ้วนตามระเบียบของบังคับการประชุม อาทิ มีจำนวนครบถูกต้อง ลายเซ็นชื่อท้ายญัตติของสมาชิกแต่ละคนถูกต้อง รวมถึงชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ??? ก่อนที่จะทำความเห็นเสนอมาถึงตน ในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องกระทู้และญัตติ โดยในสัปดาห์หน้า อย่างช้าที่สุด วันที่ 20-21 สิงหาคมนี้ ญัตติก็จะถึงมือตน เพื่อวินิจฉัยบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไป
แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ปมถวายสัตย์ฯ ในสายตาประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,102 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง 10-17 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา
พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.3 ระบุเป็นการไม่บังควร ถึงไม่บังควรอย่างยิ่งที่ฝ่ายการเมืองนำปมถวายสัตย์ฯ มาโจมตีกันในเวลานี้ ในขณะที่ร้อยละ 24.7 ระบุเป็นเรื่องที่นำมาโจมตีกันได้
ที่น่าสนใจ คือ เมื่อถามถึงความเห็นของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีสร้างผลงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน มีความเหมาะสมอย่างไร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.7 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสร้างผลงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ ในขณะที่ร้อยละ 35.3 ระบุมีคนอื่นเหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความสุขของประชาชนที่เห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่าคนไทยมีความสุขอยู่ที่ 9.12 เมื่อเห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ นอกจากนี้ เมื่อถามถึงความภูมิใจในความเป็นคนไทย สำนึกรู้คุณแผ่นดินไทยของประชาชน พบว่า คนไทยมีความภูมิใจในความเป็นคนไทย สำนึกรู้คุณแผ่นดินไทย อยู่ที่ร้อยละ 9.78 คะแนน
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า โพลล์นี้ชี้ว่าประชาชนทั่วไปแยกแยะออกได้ว่าอะไรเป็นเรื่องการเมือง อะไรเป็นความสุขต่อความจงรักภักดีความภูมิใจในความเป็นคนไทยสำนึกรู้คุณแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม โพลล์นี้สะท้อนให้เห็นด้วยว่า ฝ่ายการเมืองกำลังทำในเรื่องที่ไม่บังควรถึงไม่บังควรอย่างยิ่งและไม่ตอบโจทย์ของประชาชนเพราะสิ่งสำคัญสุดในเวลานี้คือความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ รายจ่ายที่มากกว่ารายได้
“ผู้นำพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคเคยกล่าวหารัฐบาลทหารในช่วงก่อนการเลือกตั้งว่ารัฐบาลทหารไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจึงละเลยปัญหาประชาชนไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของประชาชน แต่วันนี้ประเทศของเรามีนักการเมืองที่ผ่านการเลือกตั้งเข้าสู่อำนาจในสภาฯ ตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว กลับพบแต่ข่าวเรื่องไกลตัวประชาชนที่ผู้นำพรรคการเมืองเหล่านั้นทำอยู่ เช่น การแต่งกายในสภา ความพยายามแก้รัฐธรรมนูญ และล่าสุดปมถวายสัตย์ฯ ของนายกรัฐมนตรี คำถามคือ ผู้นำพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งใส่ใจประชาชนมากกว่ารัฐบาลทหารจริงหรือ” ผศ.ดร.นพดล ระบุ
ผมมองว่า ผลโพลล์นี้เอ่ยแค่ฝ่ายการเมือง ไม่ได้เอ่ยถึงฝ่ายค้าน แต่ก็พอเข้าใจกันได้ว่าเป็นฝ่ายไหน และพอจะสรุปได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยืนอยู่ข้างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
ผมเชื่อในปรัญชาว่า ถ้าฝ่ายค้านเข้มแข็งประชาชนได้ประโยชน์
และผลโพลล์ชิ้นนี้ เป็นข้อมูลสำคัญที่ฝ่ายค้านควรพิจารณาถอนญัตติการขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามม.152 โดยที่ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม
มีบันไดให้ลงแล้ว ต้องรับลงถ้าขืนยังปีนต่อไปอีก จะหาทางลงลำบากนะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี