วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562, 02.00 น.
ชะตากรรมของชาวฮ่องกง

ดูทั้งหมด

  •  

ยังคงต้องติดตามกันต่อไปสำหรับ “การชุมนุมประท้วงบนเกาะฮ่องกง” ที่คนภายนอกต่างก็แบ่งข้างเชียร์กันไประหว่างฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ โดยยกเหตุผลเรื่องความรักชาติพร้อมกับมองโลกตะวันตกเป็นผู้ร้าย กับฝ่ายสนับสนุนผู้ประท้วงชาวฮ่องกงที่รู้สึกเห็นใจไม่อยากให้ถูกจีนที่เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จครอบงำ ด้วยเห็นว่าฮ่องกงสมัยอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ แม้ไม่ได้เลือกตั้งผู้บริหาร แต่ผู้คนยังมีสิทธิและเสรีภาพด้านอื่นๆ เต็มที่

เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ก่อน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเสวนา “มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้” ซึ่งหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศจีน ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่ที่เริ่มตั้งแต่ปี 1839 (พ.ศ.2382) ที่จีนสมัยราชวงศ์ชิงรบแพ้อังกฤษในสงครามฝิ่น ต้องเสียเกาะฮ่องกงให้กับอังกฤษ


“พรรคคอมมิวนิสต์จีนถือเอาเหตุการณ์สงครามฝิ่นเป็นปีแรกในช่วงเวลาแห่งความอัปยศ” เพราะหลังจากนั้นชาติตะวันตกอื่นๆ รวมถึงเพื่อนบ้านทางตะวันออกอย่างญี่ปุ่น ต่างเข้ามาแบ่งผลประโยชน์บนแผ่นดินจีนอย่างสนุกมือ ขณะที่คนจีนมีแต่ความทุกข์ยากเกิดกบฏขึ้นต่อเนื่อง แม้จะมีการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิงในปี 1911 (พ.ศ.2454) โดยพรรคก๊กมินตั๋ง สิ้นสุดยุคจักรพรรดิเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ ความวุ่นวายก็ยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่ง “วันที่ 1 ตุลาคม 1949 (พ.ศ.2492)” เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เข้าสู่อำนาจ แผ่นดินจีนจึงได้กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

ถึงกระนั้นรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์และชาวจีนก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูก เช่น ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีนยุคที่ 1 เหมา เจ๋อ ตุง อยากเห็นเศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงส่งเสริมให้นำโลหะทุกชนิดมาหลอมรวมกันหวังว่าจะกลายเป็นเหล็กกล้านำไปสร้างอุตสาหกรรม แต่กลายเป็นเอาไปใช้อะไรไม่ได้ หรือส่งเสริมให้กำจัดนกกระจอกด้วยเข้าใจว่าเป็นศัตรูพืช หวังว่าถ้าไม่มีนกกระจอกเกษตรกรจะเพาะปลูกได้ผลผลิตมากขึ้น แต่ผลที่ได้คือระบบนิเวศเสียหาย และเกิดภัยพิบัติจนชาวจีนเสียชีวิตไปนับล้านคน

ส่วนผู้นำจีนยุคที่ 2 เติ้ง เสี่ยว ผิง คิดต่างออกไปดังคำคมที่คุ้นหู “แมวสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้มันจับหนูได้ก็พอ” นำไปสู่การริเริ่มนำกลไกตลาดในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมมาใช้ ต่อมาในยุคที่ 3 เจียง เจ๋อ หมินผู้เคยทำงานในเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ของจีนที่ทันสมัยและคุ้นเคยกับระบบเศรษฐกิจแบบตะวันตก จีนเริ่มปรากฏบทบาทในเวทีโลก เช่น เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO)

ผู้นำจีนยุคที่ 4 หู จิ่น เทา ทายาททางการเมืองที่เติ้ง เสี่ยว ผิง วางตัวไว้หลังเจียงหมดวาระ โดยให้เหตุผลว่าในวัยหนุ่ม หูเคยอาสาไปทำงานในพื้นที่ยากจน ซึ่งเติ้ง คาดการณ์ไว้แล้วว่าหากเศรษฐกิจจีนเจริญก้าวหน้าไปมาก ย่อมเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การกระจายรายได้ของคนรวย-คนจน การที่จีนมีผู้นำที่เข้าใจความยากจนน่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โดยในยุคของ หู จิ่น เทา จีนได้แซงญี่ปุ่นขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก

แต่แล้วเมื่อถึงผู้นำจีนยุคที่ 5 สี จิ้น ผิง จีนได้รับผลกระทบจากวิกฤติซับไพรม์ (Subprime) ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ช่วงปี พ.ศ.2550-2551 ก่อนจะลามไปทั่วโลก และมาถึงจีนช่วงปี 2555-2556 เมื่อจีนส่งออกสินค้าได้น้อยลงเพราะตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ และยุโรปไม่มีกำลังซื้อ สี จิ้น ผิง ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เห็นว่าการที่จีนผูกกับเศรษฐกิจโลกมากเกินไปไม่เป็นผลดี จึงปฏิรูปใหญ่อีกครั้งด้วย 2 นโยบาย

1.Made in China 2025 ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากเน้นส่งออกถึงร้อยละ 80 มาเป็นเน้นการบริโภคในประเทศให้มากกว่าร้อยละ 60 ด้วยการทำให้
คนจีนมีรายได้สูงขึ้นเพื่อให้เพิ่มกำลังซื้อ พร้อมกับปรับปรุงสินค้าจีนให้เป็นสินค้าคุณภาพ ซึ่งอย่างหลังนี้รัฐบาลแดนมังกรทำโดยออกเงื่อนไขว่าบริษัทด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หากจะมาลงทุนในจีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้จีน อันเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่พอใจอย่างมาก มองว่าไม่เป็นธรรม จึงตอบโต้ด้วยสงครามการค้า (Trade War)

กับ 2.Belt and Road จีนออกไปหาแหล่งทรัพยากรและตลาดภายนอก ในช่วงแรกใช้คำว่า “One Belt One Road” ขยายเส้นทางทั้งทางรถไฟ ถนน ท่าเรือ ไปกว่าครึ่งโลก จนหลายประเทศรู้สึกไม่สบายใจเพราะอาจกระทบต่ออธิปไตยในดินแดนของตน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “Belt and Road Initiative” และอธิบายว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละประเทศต้องคิดโครงการพัฒนาขึ้นเอง จีนจะทำเพียงดูว่าจะเพิ่มเติมอะไรเข้าไปได้บ้างอีกทั้งไม่ได้พูดแต่เรื่องเศรษฐกิจ ยังรวมไปถึงความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม แบ่งปันเทคโนโลยี ฯลฯ พูดง่ายๆ คือลดภาพแข็งกร้าวลง

นักวิชาการผู้นี้ ยังกล่าวถึง “ความฝันของจีน”ที่พูดกันมาตั้งแต่สมัย เจียง เจ๋อ หมิน และสมัย สี จิ้น ผิง ก็ยิ่งขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นขึ้น ว่าต้องบรรลุเป้าหมาย 3 ประการ1.คนจีนต้องมีรายได้เฉลี่ย 1 หมื่นหยวนต่อคนต่อปีภายในปี 2021 (พ.ศ.2564) หรือครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งปัจจุบันบรรลุเป้าหมายนี้แล้ว 2.ต้องสร้างสังคมเข้มแข็งและทันสมัยในปี 2049 (พ.ศ.2592) หรือครบรอบ 100 ปีสาธารณรัฐประชาชนจีน

และ 3.ต้องมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการได้เกาะฮ่องกงคืนจากอังกฤษถือเป็นการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายมานาน อย่างไรก็ตาม ตอนที่อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีน มีข้อตกลงว่าจีนต้องคงระบบกฎหมาย เศรษฐกิจและสังคมของฮ่องกงแบบเดิมไว้เป็นเวลา 50 ปี หรือในปี 2047 (พ.ศ.2590) อนึ่ง “ในตอนที่จีนปิดประเทศ ฮ่องกงเป็นนายหน้าระหว่างจีนกับโลกภายนอก ฮ่องกงจึงร่ำรวยจากการส่งออก แต่เมื่อจีนเปิดประเทศ การส่งออกผ่านฮ่องกงมีแต่จะลดน้อยลงเรื่อยๆ” เศรษฐกิจของฮ่องกงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจีนอย่างมีนัยสำคัญอีกต่อไป

อาทิ ปัจจุบันเศรษฐกิจฮ่องกงโตร้อยละ 2-3 ต่อปี ในขณะที่ เสินเจิ้น โตร้อยละ 7 ต่อปี สำนักงานใหญ่ของกิจการด้านเทคโนโลยีชั้นนำของจีนอย่าง Huawei, DJI,
Tencent ล้วนตั้งอยู่เสินเจิ้น มีเพียงตลาดเงิน-ตลาดทุนเท่านั้นที่ยังพึ่งพาฮ่องกงเพราะคล่องตัวกว่าและเป็นระบบตะวันตกที่นานาชาติให้การยอมรับมากกว่า ในทางกลับกันน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค ร้อยละ 70 และกระแสไฟฟ้า 1 ใน 4 ที่ใช้บนฮ่องกงนั้นซื้อจากจีนแผ่นดินใหญ่

การวิเคราะห์ของอาจารย์ปิติ ดูจะสอดคล้องกับรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ที่อ้างถึง“คลิปเสียง” ของผู้ปกครองเกาะฮ่องกง แครี แลม ซึ่งกล่าวกับคณะนักธุรกิจ โดยตอนหนึ่งระบุว่า “จีนจะไม่ปราบปรามผู้ชุมนุมในฮ่องกง แต่จะปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อจนเศรษฐกิจฮ่องกงไปต่อไม่ไหว” แล้วผู้ชุมนุมก็จะต้องสลายไปเองในที่สุด “แต่จะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?” เพราะล่าสุดแม้ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แครี แลม จะประกาศถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเป็นชนวนเหตุแรกของการประท้วงไปแล้วก็ตาม

แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังยืนยันจะประท้วงต่อไป..ซึ่งก็ไม่รู้จะจบลงอย่างไร!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:48 น. ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
22:21 น. 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
22:18 น. 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
22:08 น. (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
22:05 น. 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
วินาที'ในหลวง'ส่งสัญญาณพระหัตถ์ถึง'พระราชินี' ทรงรีบเข้าประคองพระองค์อย่างว่องไว
'สีกากอล์ฟ'ฟาดเรียบ ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งคนขับรถ สารภาพถูกชวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน
สลดวันพระ! ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดัง ย่านเพชรเกษม
ดูทั้งหมด
‘ฮุน เซน’เล่นใหญ่‘ทักษิณขายชาติ’
ซูเปอร์ฮีโร่
สองพ่อลูก
ศึกเขากระโดง ใครจะโดน 157 ? ปรับ ครม. เพื่อชำระแค้นการเมือง
คนไทยส่วนใหญ่เสียอะไร/ได้อะไรจากเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

(คลิป) 'ฮุนเซน' พร้อมสวนกลับ ขอเวลา 3 ชม. ซัด 'ทักษิณ'

'มหาเธร์'อดีตนายกฯมาเลเซียออกจากรพ.แล้ว โพสต์คลิปเดินปร๋อขึ้นรถยนต์ส่วนตัว

คู่รักสูงวัยถูกหลอกใน‘มาเลเซีย’ เดินทางไกลไปขึ้นกระเช้าที่ไม่มีอยู่จริง-พบแค่คลิปโปรโมทด้วย‘AI’

  • Breaking News
  • ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
  • \'ปราชญ์ สามสี\' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ\'ศิโรราบ\'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
  • \'กินเนสส์ฯ\'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น\'ชีสที่แพงที่สุดในโลก\'ด้วยราคา1.35ล้าน 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
  • (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก\'ทรัมป์\' อย่าเสีย \'ฐานทัพเรือพังงา\' เป็นพอ (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
  • \'สุทิน\' จวก \'โฆษกเพื่อไทย\' ย้ำรัฐบาล\'ชวน หลีกภัย\'ไม่เคยปรึกษา\'ทักษิณ\' 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว

ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว

12 ก.ค. 2568

ใช้‘เอไอ’อย่างพึงระวัง ‘สมองมนุษย์’ถูกลดทอน

ใช้‘เอไอ’อย่างพึงระวัง ‘สมองมนุษย์’ถูกลดทอน

5 ก.ค. 2568

พิพาท‘ไทย-กัมพูชา’ ในมุมกลไกระหว่างประเทศ

พิพาท‘ไทย-กัมพูชา’ ในมุมกลไกระหว่างประเทศ

28 มิ.ย. 2568

ครูถูกพรากเวลาสอน แถมกลายเป็นอาชีพเสี่ยง

ครูถูกพรากเวลาสอน แถมกลายเป็นอาชีพเสี่ยง

21 มิ.ย. 2568

‘Caregiver’ขาดแคลน ‘สูงวัย’ยอดพุ่งใครดูแล?

‘Caregiver’ขาดแคลน ‘สูงวัย’ยอดพุ่งใครดูแล?

14 มิ.ย. 2568

‘เข้าใจวิธีคิดผู้เห็นต่าง’ ทักษะยุคสังคมแบ่งพวก

‘เข้าใจวิธีคิดผู้เห็นต่าง’ ทักษะยุคสังคมแบ่งพวก

7 มิ.ย. 2568

‘ภาคีอาสา’ดัน‘เชียงราย’ เดินหน้าสู่เมืองแห่งความสุข

‘ภาคีอาสา’ดัน‘เชียงราย’ เดินหน้าสู่เมืองแห่งความสุข

31 พ.ค. 2568

ถ่ายโอน‘รพ.สต.’สู่‘อบจ.’ ต้นแบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ

ถ่ายโอน‘รพ.สต.’สู่‘อบจ.’ ต้นแบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ

24 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved