วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562, 02.00 น.
ชะตากรรมของชาวฮ่องกง

ดูทั้งหมด

  •  

ยังคงต้องติดตามกันต่อไปสำหรับ “การชุมนุมประท้วงบนเกาะฮ่องกง” ที่คนภายนอกต่างก็แบ่งข้างเชียร์กันไประหว่างฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ โดยยกเหตุผลเรื่องความรักชาติพร้อมกับมองโลกตะวันตกเป็นผู้ร้าย กับฝ่ายสนับสนุนผู้ประท้วงชาวฮ่องกงที่รู้สึกเห็นใจไม่อยากให้ถูกจีนที่เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จครอบงำ ด้วยเห็นว่าฮ่องกงสมัยอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ แม้ไม่ได้เลือกตั้งผู้บริหาร แต่ผู้คนยังมีสิทธิและเสรีภาพด้านอื่นๆ เต็มที่

เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ก่อน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเสวนา “มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้” ซึ่งหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศจีน ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่ที่เริ่มตั้งแต่ปี 1839 (พ.ศ.2382) ที่จีนสมัยราชวงศ์ชิงรบแพ้อังกฤษในสงครามฝิ่น ต้องเสียเกาะฮ่องกงให้กับอังกฤษ


“พรรคคอมมิวนิสต์จีนถือเอาเหตุการณ์สงครามฝิ่นเป็นปีแรกในช่วงเวลาแห่งความอัปยศ” เพราะหลังจากนั้นชาติตะวันตกอื่นๆ รวมถึงเพื่อนบ้านทางตะวันออกอย่างญี่ปุ่น ต่างเข้ามาแบ่งผลประโยชน์บนแผ่นดินจีนอย่างสนุกมือ ขณะที่คนจีนมีแต่ความทุกข์ยากเกิดกบฏขึ้นต่อเนื่อง แม้จะมีการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิงในปี 1911 (พ.ศ.2454) โดยพรรคก๊กมินตั๋ง สิ้นสุดยุคจักรพรรดิเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ ความวุ่นวายก็ยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่ง “วันที่ 1 ตุลาคม 1949 (พ.ศ.2492)” เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เข้าสู่อำนาจ แผ่นดินจีนจึงได้กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

ถึงกระนั้นรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์และชาวจีนก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูก เช่น ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีนยุคที่ 1 เหมา เจ๋อ ตุง อยากเห็นเศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงส่งเสริมให้นำโลหะทุกชนิดมาหลอมรวมกันหวังว่าจะกลายเป็นเหล็กกล้านำไปสร้างอุตสาหกรรม แต่กลายเป็นเอาไปใช้อะไรไม่ได้ หรือส่งเสริมให้กำจัดนกกระจอกด้วยเข้าใจว่าเป็นศัตรูพืช หวังว่าถ้าไม่มีนกกระจอกเกษตรกรจะเพาะปลูกได้ผลผลิตมากขึ้น แต่ผลที่ได้คือระบบนิเวศเสียหาย และเกิดภัยพิบัติจนชาวจีนเสียชีวิตไปนับล้านคน

ส่วนผู้นำจีนยุคที่ 2 เติ้ง เสี่ยว ผิง คิดต่างออกไปดังคำคมที่คุ้นหู “แมวสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้มันจับหนูได้ก็พอ” นำไปสู่การริเริ่มนำกลไกตลาดในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมมาใช้ ต่อมาในยุคที่ 3 เจียง เจ๋อ หมินผู้เคยทำงานในเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ของจีนที่ทันสมัยและคุ้นเคยกับระบบเศรษฐกิจแบบตะวันตก จีนเริ่มปรากฏบทบาทในเวทีโลก เช่น เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO)

ผู้นำจีนยุคที่ 4 หู จิ่น เทา ทายาททางการเมืองที่เติ้ง เสี่ยว ผิง วางตัวไว้หลังเจียงหมดวาระ โดยให้เหตุผลว่าในวัยหนุ่ม หูเคยอาสาไปทำงานในพื้นที่ยากจน ซึ่งเติ้ง คาดการณ์ไว้แล้วว่าหากเศรษฐกิจจีนเจริญก้าวหน้าไปมาก ย่อมเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การกระจายรายได้ของคนรวย-คนจน การที่จีนมีผู้นำที่เข้าใจความยากจนน่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โดยในยุคของ หู จิ่น เทา จีนได้แซงญี่ปุ่นขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก

แต่แล้วเมื่อถึงผู้นำจีนยุคที่ 5 สี จิ้น ผิง จีนได้รับผลกระทบจากวิกฤติซับไพรม์ (Subprime) ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ช่วงปี พ.ศ.2550-2551 ก่อนจะลามไปทั่วโลก และมาถึงจีนช่วงปี 2555-2556 เมื่อจีนส่งออกสินค้าได้น้อยลงเพราะตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ และยุโรปไม่มีกำลังซื้อ สี จิ้น ผิง ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เห็นว่าการที่จีนผูกกับเศรษฐกิจโลกมากเกินไปไม่เป็นผลดี จึงปฏิรูปใหญ่อีกครั้งด้วย 2 นโยบาย

1.Made in China 2025 ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากเน้นส่งออกถึงร้อยละ 80 มาเป็นเน้นการบริโภคในประเทศให้มากกว่าร้อยละ 60 ด้วยการทำให้
คนจีนมีรายได้สูงขึ้นเพื่อให้เพิ่มกำลังซื้อ พร้อมกับปรับปรุงสินค้าจีนให้เป็นสินค้าคุณภาพ ซึ่งอย่างหลังนี้รัฐบาลแดนมังกรทำโดยออกเงื่อนไขว่าบริษัทด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หากจะมาลงทุนในจีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้จีน อันเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่พอใจอย่างมาก มองว่าไม่เป็นธรรม จึงตอบโต้ด้วยสงครามการค้า (Trade War)

กับ 2.Belt and Road จีนออกไปหาแหล่งทรัพยากรและตลาดภายนอก ในช่วงแรกใช้คำว่า “One Belt One Road” ขยายเส้นทางทั้งทางรถไฟ ถนน ท่าเรือ ไปกว่าครึ่งโลก จนหลายประเทศรู้สึกไม่สบายใจเพราะอาจกระทบต่ออธิปไตยในดินแดนของตน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “Belt and Road Initiative” และอธิบายว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละประเทศต้องคิดโครงการพัฒนาขึ้นเอง จีนจะทำเพียงดูว่าจะเพิ่มเติมอะไรเข้าไปได้บ้างอีกทั้งไม่ได้พูดแต่เรื่องเศรษฐกิจ ยังรวมไปถึงความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม แบ่งปันเทคโนโลยี ฯลฯ พูดง่ายๆ คือลดภาพแข็งกร้าวลง

นักวิชาการผู้นี้ ยังกล่าวถึง “ความฝันของจีน”ที่พูดกันมาตั้งแต่สมัย เจียง เจ๋อ หมิน และสมัย สี จิ้น ผิง ก็ยิ่งขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นขึ้น ว่าต้องบรรลุเป้าหมาย 3 ประการ1.คนจีนต้องมีรายได้เฉลี่ย 1 หมื่นหยวนต่อคนต่อปีภายในปี 2021 (พ.ศ.2564) หรือครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งปัจจุบันบรรลุเป้าหมายนี้แล้ว 2.ต้องสร้างสังคมเข้มแข็งและทันสมัยในปี 2049 (พ.ศ.2592) หรือครบรอบ 100 ปีสาธารณรัฐประชาชนจีน

และ 3.ต้องมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการได้เกาะฮ่องกงคืนจากอังกฤษถือเป็นการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายมานาน อย่างไรก็ตาม ตอนที่อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีน มีข้อตกลงว่าจีนต้องคงระบบกฎหมาย เศรษฐกิจและสังคมของฮ่องกงแบบเดิมไว้เป็นเวลา 50 ปี หรือในปี 2047 (พ.ศ.2590) อนึ่ง “ในตอนที่จีนปิดประเทศ ฮ่องกงเป็นนายหน้าระหว่างจีนกับโลกภายนอก ฮ่องกงจึงร่ำรวยจากการส่งออก แต่เมื่อจีนเปิดประเทศ การส่งออกผ่านฮ่องกงมีแต่จะลดน้อยลงเรื่อยๆ” เศรษฐกิจของฮ่องกงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจีนอย่างมีนัยสำคัญอีกต่อไป

อาทิ ปัจจุบันเศรษฐกิจฮ่องกงโตร้อยละ 2-3 ต่อปี ในขณะที่ เสินเจิ้น โตร้อยละ 7 ต่อปี สำนักงานใหญ่ของกิจการด้านเทคโนโลยีชั้นนำของจีนอย่าง Huawei, DJI,
Tencent ล้วนตั้งอยู่เสินเจิ้น มีเพียงตลาดเงิน-ตลาดทุนเท่านั้นที่ยังพึ่งพาฮ่องกงเพราะคล่องตัวกว่าและเป็นระบบตะวันตกที่นานาชาติให้การยอมรับมากกว่า ในทางกลับกันน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค ร้อยละ 70 และกระแสไฟฟ้า 1 ใน 4 ที่ใช้บนฮ่องกงนั้นซื้อจากจีนแผ่นดินใหญ่

การวิเคราะห์ของอาจารย์ปิติ ดูจะสอดคล้องกับรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ที่อ้างถึง“คลิปเสียง” ของผู้ปกครองเกาะฮ่องกง แครี แลม ซึ่งกล่าวกับคณะนักธุรกิจ โดยตอนหนึ่งระบุว่า “จีนจะไม่ปราบปรามผู้ชุมนุมในฮ่องกง แต่จะปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อจนเศรษฐกิจฮ่องกงไปต่อไม่ไหว” แล้วผู้ชุมนุมก็จะต้องสลายไปเองในที่สุด “แต่จะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?” เพราะล่าสุดแม้ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แครี แลม จะประกาศถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเป็นชนวนเหตุแรกของการประท้วงไปแล้วก็ตาม

แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังยืนยันจะประท้วงต่อไป..ซึ่งก็ไม่รู้จะจบลงอย่างไร!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:31 น. ส.อ.ท.ผนึกกำลังพาณิชย์ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
07:15 น. รีเซ็ตกฎเกณฑ์ภาครัฐ เปลี่ยนเบรกเป็นคันเร่งช่วยธุรกิจไทย
07:12 น. ‘ต๊ะ นารากร’มองปมดรามา‘นมไทย ไม่ใช่นมวัวแท้’ แนะ‘วู้ดดี้’รับผิดชอบมากว่าลบคลิป
07:00 น. บทความพิเศษ : ‘รู้จักเรารู้จักจีน’ 700 ปีแห่งความสัมพันธ์ไทยจีน จากก่อนสมัยสุโขทัยถึงยุคคอมพิวเตอร์
06:47 น. ‘ไทยตอนบน’ฝนลด เช้าอากาศเย็น ‘ใต้’มีฝนฟ้าคะนอง ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง 1 เมตร
ดูทั้งหมด
ปภ.เตือน 10 จังหวัดภาคกลาง-กทม. เฝ้าระวังเจ้าพระยาเพิ่มสูง เตรียมพร้อมขนของขึ้นที่สูง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 8-14 พ.ย.68
'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์
ปิดตำนาน! ประกาศเลิกกิจการ 2 โรงเรียนดังย่านลาดพร้าว
'นาย ณภัทร'เล่าความเจ็บปวด! 2ปีจิตใจเแตกสลายไม่มีชิ้นดี ทำเพื่อคนอื่นจนลืมความสุขตัวเอง
ดูทั้งหมด
จากอั้งยี่ มาสู่แก๊งสแกมเมอร์
ต้องบั่นหัว‘ไอ้โม่ง’สั่งให้ทหารไทยหยุดยิงกับเขมร
ความทรงจำถึงพระองค์ท่าน จากหอประชุมจุฬาฯ สู่สวนจิตรลดา (2)
จอมขู่บันลือโลก
ล้มประชุมอาเซียน ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดวงชะตา โดย ศ.บัณฑิตกุล : 10 พฤศจิกายน - 16 พฤศจิกายน 2568

‘ไทยตอนบน’ฝนลด เช้าอากาศเย็น ‘ใต้’มีฝนฟ้าคะนอง ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง 1 เมตร

'สิริพงศ์'ฟาด'จอม-ทวี'ทำการบ้านน้อย กล่าวหา MotoGP เอื้อธุรกิจใคร

'สมชาย'ชวนจับตา! ปฏิบัติการจับ'ไทยเทา'เร็วๆนี้

สุดโรแมนติก! 'ใหม่-เต๋อ'จูงมือเข้าพิธีวิวาห์หวานราวเทพนิยาย

บุกเดี่ยวปล้นทอง! คนร้ายควงปืนกวาดทอง 55 บาท สุดท้ายหนีไม่รอด

  • Breaking News
  • ส.อ.ท.ผนึกกำลังพาณิชย์ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ส.อ.ท.ผนึกกำลังพาณิชย์ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
  • รีเซ็ตกฎเกณฑ์ภาครัฐ เปลี่ยนเบรกเป็นคันเร่งช่วยธุรกิจไทย รีเซ็ตกฎเกณฑ์ภาครัฐ เปลี่ยนเบรกเป็นคันเร่งช่วยธุรกิจไทย
  • ‘ต๊ะ นารากร’มองปมดรามา‘นมไทย ไม่ใช่นมวัวแท้’ แนะ‘วู้ดดี้’รับผิดชอบมากว่าลบคลิป ‘ต๊ะ นารากร’มองปมดรามา‘นมไทย ไม่ใช่นมวัวแท้’ แนะ‘วู้ดดี้’รับผิดชอบมากว่าลบคลิป
  • บทความพิเศษ : ‘รู้จักเรารู้จักจีน’ 700 ปีแห่งความสัมพันธ์ไทยจีน จากก่อนสมัยสุโขทัยถึงยุคคอมพิวเตอร์ บทความพิเศษ : ‘รู้จักเรารู้จักจีน’ 700 ปีแห่งความสัมพันธ์ไทยจีน จากก่อนสมัยสุโขทัยถึงยุคคอมพิวเตอร์
  • ‘ไทยตอนบน’ฝนลด เช้าอากาศเย็น ‘ใต้’มีฝนฟ้าคะนอง ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง 1 เมตร ‘ไทยตอนบน’ฝนลด เช้าอากาศเย็น ‘ใต้’มีฝนฟ้าคะนอง ‘อ่าวไทย’คลื่นสูง 1 เมตร
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

8 พ.ย. 2568

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

1 พ.ย. 2568

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

25 ต.ค. 2568

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

18 ต.ค. 2568

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

20 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved