กรณีเฟซบุ๊ค ชมรม strong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพและคลิป ฉายภาพร้านอาหารรุกล้ำลำธาร เทคอนกรีตถมคลองท่าดีเพื่อบริการนักท่องเที่ยว ที่หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช
ข้อความที่โพสต์ระบุว่า “เทคอนกรีตลงไปในคลองท่าดี ตั้งโต๊ะกินอาหารชมวิวกันในคลอง บริเวณ #คีรีวง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อของจังหวัดนครศรีธรรมราช รุกล้ำลำน้ำสาธารณะ.. ไร้หน่วยงานใดเข้าจัดการ..”
หลังจากนั้น ก็มีสื่อมวลชนรายงานข่าวนี้แพร่หลาย
1. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักอำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พร้อมชุดพยัคฆ์ไพร เข้าตรวจสอบพื้นที่แล้ว
“จากการพูดคุยกับนายอำเภอแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีการเจรจาขอให้รื้อถอนร้านค้ารีสอร์ทที่รุกล้ำทุกแห่งภายในระยะเวลา 30-60 วัน แต่เห็นว่าไม่ควรปล่อยให้เป็นแบบนี้ และต้องไม่มีแบบนี้เพิ่มอีก จึงจะให้เวลาแค่ 5วันในการรื้อถอนทั้งหมด โดยจะร่วมกับฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าดำเนินการให้แล้วเสร็จ”
2. กรณีควรจะจัดการอย่างเด็ดขาด ไม่ควรปล่อยให้ตอดไต่ ต่อยอด
มิฉะนั้น จะเกิดการเลียนแบบ และกลายเป็น “มือใครยาวสาวได้สาวเอา”หรือ “ใครหน้าด้านก็ถมได้ถมเอา”
3. อย่าลืมว่า ชุมชนคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และดังไปถึงต่างประเทศ
จุดขาย คือ ภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์ ลำธารสะอาด อากาศดี โดยเป็นชุมชนเก่าแก่ ตั้งอยู่กลางหุบเขา
ลำน้ำท่าดี หรือ “คลองขุนน้ำ” ไหลผ่านหมู่บ้าน คือแลนด์มาร์คสำคัญของการท่องเที่ยว
4. อปท.ในพื้นที่ไม่ควรนิ่งเฉย เพราะคนที่ทำลายธรรมชาติอย่างอุกอาจและเห็นแก่ตัวเช่นนี้ คือคนที่ “ทุบหม้อข้าว” ชาวคีรีวงอย่างแท้จริง
หากเพิกเฉย หรือละเลย ย่อมต้องสงสัยว่า นักการเมือง ผู้มีอิทธิพลในท้องที่นั่นแหละ ที่มีส่วนรู้เห็น หรือมีผลประโยชน์ส่วนตัวร่วมกันมาตั้งแต่ต้น
5. ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ควรใช้โอกาสนี้ ทำความเข้าใจ และสร้างความตระหนักร่วมกัน เกี่ยวกับ “ทรัพยากรชุมชน” และแนวทางบริหารจัดการอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยมียุทธศาสตร์การพัฒนาในระดับจังหวัด และระดับท้องถิ่น ว่าจะเดินกันไปอย่างไรจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว
เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น สะท้อนมิติของการ “เบียดบังทรัพยากรชุมชน” ไปแสวงหากำไรสูงสุดส่วนตัวเฉพาะหน้า
ควรใช้โอกาสนี้เสริมสร้างสำนึกในความเป็นเจ้าของลำธารร่วมกันของชุมชน มิใช่ให้เจ้าของธุรกิจที่อยู่ติดลำธารฮุบไปเลย นึกจะทำอะไรก็ได้ ทั้งๆ ที่ผลกระทบมีร้ายแรงและมหาศาลต่อส่วนรวม ทั้งต่อระบบนิเวศ ทรัพยากรท่องเที่ยว รวมถึงชื่อเสียงการท่องเที่ยวของคีรีวงด้วย
6. จากการตรวจสอบ ทราบว่า ในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ปรากฏประเด็นการพัฒนาที่น่าสนใจ และขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางถมลำธารเพื่อบำเรอนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ดังที่ปรากฏปัญหาอยู่ในวันนี้
ยกตัวอย่าง
“ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ ๑ : การพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดความยั่งยืน
เป้าหมาย/วัตถุประสงค์ ๑. แหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับการพัฒนา คุณภาพบนพื้นฐานการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม และผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐาน ๒. ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ วัฒนธรรม และสืบสานงานประเพณีท้องถิ่นอัน เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดให้คงอยู่ตลอดไป และพัฒนารูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวระดับชุมชนให้สามารถ เชื่อมโยงกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดและกระจายรายได้สู่ชุมชน ๓. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวทั้งในตัวเมืองและชนบทอย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดได้วงกว้างมากขึ้น เพื่อส่งเสริมรายได้และกระจายรายได้ให้กับพื้นที่ต่างๆ ทั่วจังหวัด ๔. นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์ที่ดีทั้งในด้านความปลอดภัย สุขอนามัย รวมถึงคุณภาพโครงสร้าง พื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก…
ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ ๒ การส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวเชิงรุกเป้าหมาย/วัตถุประสงค์ ๑. ยกระดับตำแหน่งทางการตลาดจากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายสู่การเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ๒. นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจและเชื่อมั่นในการเดินทางสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช กลยุทธ์/แนวทางการพัฒนา ๑. ยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวสู่การเป็น Quality Destination ๒. ส่งเสริมความร่วมมือทางการตลาดกับภาคส่วนต่างๆ และการใช้เทคโนโลยีในการทำการตลาด...
ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ ๓ การพัฒนาการบริหารจัดการการท่องเที่ยว เป้าหมาย/วัตถุประสงค์ ๑. การวางแผนและดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวของทุกภาค
ส่วนอย่างมีการบูรณาการ มีความสอดคล้องและเป็นไปตามทิศทางเดียวกัน ๒. ทุกภาคส่วนมีความร่วมมือในการพัฒนาและบริหารการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ๓. บุคลากรด้านการท่องเที่ยวมีคุณภาพมาตรฐานและจรรยาบรรณ กลยุทธ์/แนวทางการพัฒนา ๑. พัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและยกระดับผู้ประกอบการ ๒. พัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการท่องเที่ยว ๓. ส่งเสริมมาตรการเกี่ยวกับการควบคุม/กฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว”
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะมองมุมไหน การถมลำธารก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เพราะมันคือการทุบหม้อข้าวตัวเองที่เห็นแก่ตัว-เห็นแก่ได้อย่างร้ายกาจ
ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น และคงจะไม่เกิดขึ้น หากมีการบูรณาการแนวทางการพัฒนาที่มียุทธศาสตร์ร่วม มีการขับเคลื่อนที่ชัดเจน ต่อเนื่อง เป็นรูปธรรม ภายใต้การมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี