ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยไม่สนใจการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 (ASEAN Summit 35th) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และอาจจะกล่าวได้ด้วยว่า ไม่ว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งไหนๆ ก็ตาม มีคนไทยจำนวนไม่มากนักที่ให้ความสนใจกับเรื่องสำคัญเช่นนี้
คุณเคยถามตัวเองบ้างไหมว่า ทำไมคนไทยจึงไม่สนใจการประชุมสุดยอดอาเซียน ทั้งๆ ที่ประเทศไทยถือว่าได้ว่ามีส่วนสำคัญในการร่วมก่อตั้งสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เพราะอาเซียนถือกำเนิดมาจาก Bangkok Declaration หรือปฏิญญากรุงเทพ
จุดประสงค์ของอาเซียนในยุคแรกเริ่มเมื่อ พ.ศ. 2510 กับจุดประสงค์ของอาเซียนในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เพราะแนวทางปฏิบัติของอาเซียนในยุคสงครามเย็นกับอาเซียนในยุคสงครามการค้า ย่อมต้องแตกต่างกันไปตามบริบทของสภาวการณ์และกระแสความเป็นไปของโลกที่แตกต่างกัน
อาเซียนในยุคนี้เน้นความสำคัญในประเด็นการร่วมแรงร่วมใจ และรวมพลังทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ เพื่อให้สามารถฝ่าข้ามมรสุมเศรษฐกิจที่ถาโถมอย่างรุนแรง และเพื่อให้อาเซียนสามารถเพิ่มอำนาจต่อรองในระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคำกล่าวว่า หากสมาชิกอาเซียนสามารถร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลังแล้ว ศักยภาพของอาเซียนจะทำให้ประเทศคู่เจรจาทั้งปวงไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของกลุ่มอาเซียนไปได้เลย
มีประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่งที่อาเซียนต้องการให้บังเกิดเป็นผลสำเร็จ ซึ่งความคิดดังกล่าวเป็นความริเริ่มของไทยนั่นคือ RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) เพราะถ้าหาก RCEP ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ ก็หมายถึงความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะบังเกิดขึ้นกับอาเซียนและประเทศผู้ร่วมเจรจา คือ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของทั้ง16 ประเทศบนเวทีเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเมื่อพิจารณาถึงจำนวนประชากรของ RCEP จะพบว่ามีมากถึง 45 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก แล้วเมื่อพิจารณาถึง GDP โดยรวมของ RCEP ก็มีมากถึง 1 ใน 3 ของโลก
ประเด็นสำคัญที่คนไทยต้องตั้งคำถามเพื่อถามตัวเอง และถามเพื่อนร่วมสังคมไทยคือ เราในฐานะสมาชิกอาเซียน เราจะได้ประโยชน์อะไรจาก RCEP อย่างเป็นรูปธรรมบ้าง แล้วเราเตรียมพร้อมกับการเข้าไปมีส่วนผลักดันให้ RCEP บรรลุเป้าประสงค์ได้อย่างไร
ในความเป็นจริงนั้น ไทยและสมาชิกอาเซียนสามารถแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกันได้ และสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้เป็นอย่างดี แต่นั้นหมายความว่าในอันดับแรกเราในฐานะสมาชิกอาเซียนจะต้องเลิกคิดถึงแค่เพียงผลประโยชน์เฉพาะตน หรือเฉพาะประเทศของตน แล้วมองให้ลึกว่าสมาชิกอาเซียนสามารถร่วมมือและแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกันได้ และหมดยุคแล้วที่จะมองความเป็นอาเซียนแบบแยกส่วน แยกเป็นประเทศ แล้วแบ่งเขาแบ่งเรา เมื่อสมาชิกอาเซียนสามารถผนึกกำลังกันได้เป็นอย่างดี รวมใจเป็นหนึ่งเดียว ตามแนวคิด One Vision, One Identity, One Community แล้ว อาเซียนจะสามารถก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและทรงพละกำลัง แล้วถ้ายิ่งอาเซียนสามารถผลักดันให้ RCEP บังเกิดผลได้จริงแล้ว ผลประโยชน์มหาศาลจะตกอยู่กับประชาชนอาเซียน
น่าประหลาดใจที่เวลาคนไทยพูดถึงอาเซียนแล้ว จะพบว่าหลายคนไม่เชื่อมั่นในอาเซียน แต่เมื่อตะวันตกพูดถึงอาเซียน เขากลับมองอาเซียนด้วยสายตาที่ชื่นชม และมองว่าเป็นขุมพลังที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้นหากคนไทยยังไม่เชื่อมั่นอาเซียน ก็คงยากที่จะทำให้อาเซียนมีพละกำลังแข็งแกร่งได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วที่สำคัญคือ สังคมไทยอาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากอาเซียนมากนัก เพราะสาเหตุเกิดมาจากคนไทยยังไม่เชื่อมั่นว่าอาเซียนสามารถให้ผลประโยชน์มหาศาลกับคนไทยได้อย่างแท้จริง หลายคนบอกอย่างน่าสมเพชว่า ไม่สนใจข่าวอาเซียน เพราะข่าวไม่มีเนื้อหาดุเด็ดเผ็ดร้อนเท่ากับข่าวดาราขับรถผิดกฎหมาย หรือข่าวนักการเมืองทะเลาะกัน หากคนไทยส่วนหนึ่งยังคิดได้เพียงแค่นี้ ก็ไม่ต้องหวังจะได้ประโยชน์จากอาเซียน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี