หนึ่งกรณีสินบนข้ามชาติ ที่ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนมานานข้ามปี ถูกชี้มูลความผิดแล้ว!
กรณีร่วมกันเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท จากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่รับว่าจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ใช้ท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้า ตลอดจนให้เรือลำเลียงเข้าเทียบท่าเพื่อขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยไม่ชอบ
เป็นข่าวฮือฮา... เพราะนอกจากชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ4 รายแล้ว ป.ป.ช.ยังได้ชี้มูลความผิด บริษัท ซิโน - ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ อีก 2 ราย ในฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้ง 4 รายในการกระทำความผิดด้วย
1. ทันทีทันใด บริษัท ซิโน-ไทยฯ ก็ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายภาคภูมิ ศรีชํานิ กรรมการผู้จัดการ (หนึ่งในผู้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดด้วย)
ชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนสนับสนุนในการกระทําความผิด
ระบุว่า “...บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ มีนโยบายดําเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบ และมีมาตรการป้องกันปราบปรามการทุจริตภายในองค์กรอย่างเข้มงวดตามหลักการกํากับดูแลกิจการที่ดี จึงขอให้ผู้ลงทุนทุกท่านมั่นใจการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯดังกล่าว และบริษัทฯ มั่นใจว่าสามารถชี้แจงแสดงหลักฐานโต้แย้งการถูกกล่าวหาข้างต้นได้ โดยบริษัทฯ ขอยืนยันที่จะต่อสู้จนถึงที่สุดในการนี้ ขอเรียนผู้รับข่าวสารทุกท่านให้ทราบว่า การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นเพียงการสืบสวนความในขั้นต้นเท่านั้น ยังไม่ถือเป็นที่สุด จึงไม่อาจถือได้ว่าบริษัทฯเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนในการกระทําผิดใดๆทั้งสิ้น และตราบเท่าที่ยังไม่มีคําพิพากษาของศาลจนถึงที่สุด บริษัทฯก็ยังคงมีสถานะเป็นผู้บริสุทธิ์ หากผู้ใดนําความไปบิดเบือนว่าบริษัทฯกระทําความผิด หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตใดๆ ก็ตาม บริษัทฯก็มีความจําเป็นที่จะต้องดําเนินการทางกฎหมายแก่บุคคลที่จงใจทําให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายในกรณีนี้”
2. หากย้อนกลับไปดูรายละเอียดที่นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลง จะพบว่ามีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
2.1 การไต่สวนคดีนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง และมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ และนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน
2.2 การไต่สวนข้อเท็จจริง มีการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ
2.3 โฆษก ป.ป.ช.แถลงผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ระบุว่า จากพยานหลักฐานข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2556 บริษัทค้าร่วม(Consortium) ประกอบด้วย บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับว่าจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
ต่อมา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เรือลำเลียง 3 ลำ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบท่าได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่เกินกว่าท่าเทียบเรือที่จะรองรับได้
เจ้าหน้าที่ของรัฐ 4 ราย ประกอบด้วย 1) นาวาโทสาธิตชินวรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช2) นายคณิน เมืองด้วง รองนายกเทศมนตรีตำบลท้องเนียน 3) นายอภิชาติสวัสดิรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 4) พันตำรวจโทสันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ ได้ร่วมกันเรียกรับเงินจำนวน 20,000,000 บาท จากผู้แทนของบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด (Mitsubishi Hitachi Power Systems Ltd. : “MHPS”) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่มาปฏิบัติงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อแลกกับการอนุญาตให้เรือลำเลียงชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศสามารถเข้าเทียบท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้าได้ แม้ว่าเรือจะมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะเข้าเทียบท่าเทียบเรือชั่วคราวตามที่ขออนุญาตก่อสร้างไว้
ผู้บริหารของบริษัท MHPS ตัดสินใจที่จะจ่ายเงินสินบนจำนวน 20,000,000 บาท เพราะหากการขนส่งชิ้นส่วนเครื่องจักรเกิดการหยุดชะงัก จะทำให้การก่อสร้างไม่ทันกำหนดเวลาการส่งมอบงาน และบริษัท MHPS จะต้องเสียค่าปรับตามสัญญาถึงวันละ 40 ล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 11,000,000 บาท)
“...ปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัท ซิโน-ไทยฯ และผู้บริหารระดับสูง 2 ราย ได้แก่ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ และนายราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการ ได้ให้ความช่วยเหลือ ในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในการเรียกรับสินบนจากบริษัทญี่ปุ่น โดยมีการจัดทำสัญญาที่ไม่มีการจ้างงานจริง เพื่อให้บริษัท ซิโน-ไทยฯ จัดเตรียมสินบนเป็นเงินสด 20,000,000 บาท ต่อมา มีการมอบเงินสินบนให้กับผู้แทนบริษัทญี่ปุ่นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทซิโน-ไทยฯ เพื่อให้ขนเงินไปยังพื้นที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้ง 4 ราย ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่าในช่วงเวลาเดียวกันเรือลำเลียงก็สามารถเทียบท่าและขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ณ ท่าเทียบเรือชั่วคราวโรงไฟฟ้าขนอมได้ แม้ว่าจะไม่มีการแก้ไขเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมเจ้าท่าแต่อย่างใด”
2.4 คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิด โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวน 4 รายนั้น มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเรียกรับสินบน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ส่วนบริษัท ซิโน-ไทยฯนายภาคภูมิ ศรีชำนิ และ นายราเกส กาเลีย มีมูลความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
2.5 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงานสํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สําเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคําวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดําเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 ราย
โดยที่การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.นั้น ยังมิใช่คำพิพากษาของศาลว่ามีความผิด ผู้ถูกชี้มูลทุกรายยังมีสิทธิต่อสู้คดีตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมต่อไป
3. ขอชื่นชม และเป็นกำลังใจแก่ ป.ป.ช. ที่ทำหน้าที่อย่างกล้าหาญ เด็ดขาด ไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจทุนและอำนาจอิทธิพลใดๆ
และขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเดินหน้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา ภายใต้ระบบและกระบวนการยุติธรรมต่อไป
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี