นโยบายสำคัญทางด้านการเมืองที่ถูกพรรคอนาคตใหม่ยกขึ้นมาเป็นนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ก็คือการขอแก้ไขและยกเลิกพระราชบัญญัติการเกณฑ์ทหารปีพุทธศักราช 2497 และการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกๆ ฉบับที่ระบุว่าชายไทยที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จะต้องเข้ารับการตรวจคัดเลือกเพื่อบรรจุเข้าเป็นทหารกองประจำการในกองทัพเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 1 ถึง 2 ปีตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้
นโยบายนี้สำนักวิจัยซูเปอร์โพลนำไปเป็นหัวข้อในการสำรวจความคิดเห็นเรื่องนักการเมืองกับการยกเลิกเกณฑ์ทหารโดยผลการสำรวจในวันที่ 15 ถึง 30 พฤศจิกายน 2562 จำนวน 1,250 ตัวอย่างผลการสำรวจ ได้แก่ การที่นักการเมืองที่รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารจะมีวิธีการที่ดีในการป้องกันประเทศหรือไม่ ในการประกันความมั่นคงของประเทศมาประกันการช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติและเหตุความไม่สงบในประเทศ
ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 81.9 เห็นว่า ความจำเป็นในการเกณฑ์ทหารจะต้องมีอยู่ การเกณฑ์ทหารนั้นสามารถสร้างลักษณะที่ดีแก่ชายหนุ่มไทย ได้แก่ ความอดทนร้อยละ 61.5 ความเข้มแข็ง ร้อยละ 60.3 ความรักชาติร้อยละ 58.1 ความกล้าหาญร้อยละ 54.8 ความมีวินัยร้อยละ 52.9 ความเสียสละร้อยละ 49.0 และสุขภาพแข็งแรงร้อยละ 43.2
เมื่อถามถึงมีความจำเป็นหรือไม่ที่ประเทศไทยต้องมีการเกณฑ์ทหาร ปรากฏว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 61.4 ตอบว่าจำเป็นต้องมีการเกณฑ์ทหารอยู่ ในขณะที่ร้อยละ 20.2 ไม่แน่ใจและร้อยละ 18.4 ระบุว่าไม่จำเป็น มีประชาชนที่ตอบว่ามีวิธีการอื่นที่ดีกว่าการเกณฑ์ทหาร เช่น ระบบสมัครใจเป็นทหาร การจ่ายเงินให้รัฐบาลและแนวทางยกเลิกการเกณฑ์ทหารของต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย เป็นต้น
ส่วนผลการสำรวจจากคนในโลกโซเชียลในระบบเนตซูเปอร์โพลรวม 22,259,166 คน ปรากฏว่ามีประชาชนในโลกโซเชียลที่สนใจเรื่องการเกณฑ์ทหารจำนวน 5,014,025 คน มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการเลิกการเกณฑ์ทหารร้อยละ 65.5 และเห็นด้วยเพียงร้อยละ 34.5
เรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ในการสำรวจครั้งนี้มีความวิตกก็คือหลักประกันในการป้องกันประเทศเพราะกองทัพไทยทั้ง 3 เหล่า ไม่มีระบบอาวุธที่ทันสมัยในการป้องกันประเทศ ไทยมีประชากรที่เป็นหนุ่มเป็นสาวไม่มากนักถ้าหากมีปัญหาในเรื่องความมั่นคงของประเทศแล้ว กองทัพจะมีกำลังมากพอในการใช้ปกป้องอธิปไตยได้หรือไม่ ไม่เหมือนประเทศอินเดียที่ไม่มีการเกณฑ์ทหารแต่มีทหารอาสาสมัครมากมาย
เมื่อกองทัพอินเดียเปิดรับสมัครทหารอาสาสมัครเข้ามาประจำการในกองทัพปีละประมาณ 400,000 ถึง 500,000 คนนั้น ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์ที่อายุไม่เกิน 28 ปี เข้ามาสมัครเป็นทหารประจำการครั้งละหลายล้านคน เพราะทหารอินเดียมีรายได้สูงพอสมควรทำให้ชายอินเดียนิยมสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพเพราะมีโอกาสที่จะก้าวหน้าเป็นข้าราชการประจำและมีชั้นยศที่สูงขึ้นในอนาคต ในขณะที่ไทยยังไม่มีงบประมาณที่สูงมากเพียงพอที่จะดำเนินการเช่นนั้นได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี