“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ยึดมั่น “จรรยาบรรณ-อุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” บรรจงถ้อยร้อยเรียงข้อเท็จจริงมาเสนอต่อผู้มีอุปการคุณที่บริโภคข่าวสารผ่าน “นสพ.แนวหน้า” ปลายสัปดาห์นี้...
nn “ไม้หน้าสาม”เริ่มต้นด้วยการอัญเชิญพระบรมราโชวาท “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ที่พระราชทานไว้เกี่ยวกับความสามัคคี ซึ่งพระองค์ทรงเล็งเห็นว่า เป็นรากฐานของความมั่นคงในประเทศ เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า นักการเมืองทุกค่ายทุกสี ความว่า“…ประเทศไทยถ้าสามัคคีกันดี ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางที่มีเหตุผล เราเองจะเป็นที่ตั้งของความมั่นคงผาสุกของราษฎรที่เป็นประชากรแห่งประเทศนี้ เป็นตัวอย่างแก่มวลมนุษย์ มวลมนุษย์ก็มนุษยชาตินี่เองและประเทศอื่นอาจเอาอย่างบ้าง เกิดความไม่เบียดเบียนขึ้น ความอยู่ในโลกนี้อย่างสบายพอสมควร คือไม่ใช่หรูหรา ประเทศไทยเราจะอยู่ไม่ใช่อย่างทุกคนอยู่มีบ้านหรูหรากันทุกคน และร่ำรวยกันทุกคน แต่ว่าทุกคนก็พอมีพอกิน”...
nn “ไม้หน้าสาม” สะกิดคอการเมืองร่วมตรวจสภาพ “เรือแป๊ะที่ลุงตู่เป็น ... ไต้ก๋ง” นำรัฐนาวาฝ่าวิกฤติการเมืองที่เชี่ยวกราก ฝ่าค่ายกล“ฝูงเดรัจฉานการเมืองที่ระดาษกลาดเกลื่อนทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน” ที่จ้องเดินหน้าฆ่ามันให้วายวอด แม้ว่า “เรือแป๊ะ”ดูจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลัง “สวนดุสิตโพล” แถลงผลการสำรวจ “ดัชนีการเมืองไทยเดือนพฤศจิกายน 2562” พบว่า “เสียงสวรรค์” ให้คะแนนความพอใจผลงาน “ลุงตู่” เพิ่มขึ้นกว่าเดือนก่อน โดยเฉพาะการทำตามนโยบายหาเสียง ขณะที่ปาร์ตี้ให้กล้วยกล่อมลิงก็ดูชื่นมื่น ทว่า “แม่ทัพใหญ่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา”ก็สะกดอารมณ์ไม่อยู่ออกลีลาโหด “แผดเสียงคำรามสนั่น!! งานพบแกนนำพรรครัฐบาลลั่นปรับครม.-ยุบสภา-ผมอยู่ไม่ได้คุณก็อยู่ไม่ได้” หลังเจอปัญหา “ประชุมสภาล่มซ้ำซาก” เล่นเอาฝ่ายค้านสะดุ้งจนเรือนไหวเพราะถัดมาวันรุ่งขึ้น ประชุมสภาก็ราบรื่น แถมญัตติตั้งคณะกรรมาธิการติดตามผลกระทบคำสั่ง คสช.และการใช้มาตรา 44 ก็คว่ำไม่เป็นท่า “ท่านผู้ทรงเกียรติ” บางท่านสะกิดสีข้าง “ไม้หน้าสาม” พร้อมให้ข้อมูลว่า เมื่อราว 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมามีดีลการเมืองเกิดขึ้นระหว่าง “พรรคเศรษฐกิจใหม่ของเจ๊มิ่ง-มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” กับ แกนนำรัฐบาลตกลงจะนำพลพรรคทั้งหมดย้ายมาอยู่ซีกรัฐบาล “เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติ” เรียกว่างานนี้ถือประโยชน์ของประชาชนคนไทยมากกว่าความเดือดร้อนของเสียงสวรรค์ปะฉะดะเป็นเกมการเมืองอย่างเดียว ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ดูการประชุมสภาเมื่อแมทช์วันพุธที่ผ่านมาได้ที่สส.พรรคเศรษฐกิจใหม่จำนวน 4 ราย เข้าร่วมเป็นองค์ประชุม พร้อมยกมือสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลด้วยหนึ่งเสียงจาก 4 เสียงที่เข้าประชุม ซึ่งก็คือ “ศุภดิษฐ์ อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่” นั่นเอง การเมืองในปัจจุบัน “ไม้หน้าสาม” เฝ้าดูพฤติกรรม “คนอยู่ไม่เป็น” หรือเรียกอีกแบบว่า “คนไม่อยากอยู่” เพราะไม่เคารพกฎกติกาสังคม จึงไม่แปลกที่กลุ่มคนเหล่านี้จะเพียรพยายามเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในแนวทางที่ตนเองชื่นชอบ...
nn “ไม้หน้าสาม” อ่านบทความในคอลัมน์ “สู่นิเวศรัฐ” ของ “กวีซีไรต์ปี 2543 จากเรื่อง อมตะ-วิมล ไทรนิ่มนวล”ใน “แนวหน้าออนไลน์www.Naewna.com” ที่วิเคราะห์ย่างก้าวของ “ตี๋ทอน-ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ” แล้วเห็นวิสัยทัศน์นักการเมืองอนุบาลรายนี้มากขึ้น “ท่านวิมล”ระบุในบทความของตนเองว่า นักการเมืองอนุบาล “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็น “แค่หัวหมู่ทะลวงฟัน” แค่ “ยาโด๊ป” ของเหล่า “ซ้ายอาวุโส-ซ้ายเก่าซ้ายแก่”ที่เคยร่วมต่อสู้มากับ “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” ที่ทิ้งป่ากลับบ้านกลับเมืองมาเป็น นักวิชาเกิน ครูบาอาจารย์ นักธุรกิจ ศิลปิน กรรมกร เพราะ “ตี๋ทอน-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”คลั่งไคล้ลุ่มหลงนิยมชมชอบ “ลัทธิมาร์กซ์” พวกเขาเหล่านั้นจึงเชียร์เชลียร์เป็นกองหนุน “ตี๋ทอน-ธนาธร” อยู่ข้างหลัง อย่างที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” บอกไว้ “การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อพี่น้องประชาชนลุกขึ้นยืนตรง ไม่ยอมก้มหัวให้กับระบอบเผด็จการ ไม่ยอมทนกับระบอบที่กดหัวประชาชนไว้อีกต่อไป-ในเมื่อพวกเขาไม่อยากให้ผมทำงานในสภา ผมก็จะออกไปอยู่กับประชาชน”...
nn “ไม้หน้าสาม” เห็นว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ระบบรัฐสภาย่อมเป็นที่สุดของอำนาจประชาชน” การต่อสู้ในยามที่เขาไม่ต้องการให้ผมทำงานในสภา หาก “ธนาธร”ได้รับชัยชนะในการนำการต่อสู้เปลี่ยนแปลงสังคมไทย ซ้ายอาวุโสก็จะได้รับอานิสงส์นี้ไปด้วย แต่หาก “ธนาธร” เพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้ ต้องเดินทางออกจากประเทศหรือโดนเนรเทศจากบ้านเกิด ซ้ายอาวุโสซ้ายเก่าแก่เหล่านั้นยังคงทำมาหากินได้ต่อไปโดยมิได้รับผลกระทบใดๆ...
nn การเปลี่ยนแปลงผ่านกลไกรัฐสภาที่เราตั้งมั่นมุ่งหมายไว้อย่างเดียวไม่พอ “ไม้หน้าสาม” ข้องใจ “สาวกอนาคตใหม่” มักอ้างตำราพ่อตำราแม่ตำราชาวยุโรป-มะกัน ก็ควรทบทวนเรื่องนี้เป็นสำคัญไม่ใช่ไปร่วมเสวนาแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดช่องให้ “ปกครองตนเอง”...
nn รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำกับฝ่ายค้านไร้ผู้นำ โหมโรงจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนแล้วจนรอดแกนนำพรรคฝ่ายค้านด้วยจำนวนสส.อย่าง พรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่สามารถกำหนด “วันซักฟอกรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” แม้จะอ้างอย่างไม่อายสัมภเวสีว่ามีข้อมูลพร้อมบดขยี้รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลแต่ด้วยความระหองระแหงภายใน ไม่มีผู้นำที่แท้จริงแม้ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” จะเป็น “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ” แต่ดูเหมือนว่าการสั่งการยังต้องรอฟังมุ้งเล็กมุ้งใหญ่โดยเฉพาะ “เจ๊หน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ที่เปิดศึกงัดข้อกับสส.อีสาน ตกลงกันไม่ได้จวบจนวินาทีนี้ ต้องบินไปถามเจ้าของพรรคตัวจริง “ทักษิณ ชินวัตร ลูกหลานอั้งยี่นายอากรบ่อนเบี้ย เส็ง แซ่คู” จะเอาอย่างไร จะให้เจ๊หน่อยบงการข้ามหัวผู้นำฝ่ายค้าน หรือหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเช่นนี้หรือ???
ล่าสุด จะเพราะอาการเผลอหรือจิตสำนึกบกพร่องก็ไม่แน่ใจนักนางหาญกล้าลั่นวาจาน้ำลายแตกฝอยเกลียดชังจัญไรใช้เงินซื้องูให้เลื้อยย้ายข้างเป็น “งูเห่า” ทั้งที่สมัยหนึ่ง นางก็ร่วมมือชื่นชมยกย่องปกป้องนักการเมืองหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์และเงินตราซื้อนักการเมืองย้ายข้างมาสนับสนุนพรรคการเมืองที่ตนสังกัดเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเบ็ดเสร็จพรรคเดียว จนพรรคความหวังใหม่ของ “พ่อใหญ่จิ๋ว-พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ” หมดสิ้นบุคลากรใต้ร่มเงาทานตะวัน และทำเยี่ยงนี้กับอีกหลายพรรคการเมือง จนเป็น“เผด็จการรัฐสภา” ลักหลับประชาชนออกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์พวกพ้อง ก่อนที่จะมาโดน “ลุงตู่” นำพลพรรคทำการรัฐประหาร...
nn ทิ้งท้าย “บุคคลแนวหน้า” ฉบับนี้“ไม้หน้าสาม” ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้บอกกล่าวเชิญชวนประดาศิษย์เก่าคร่ำครึจนถึงศิษย์ปัจจุบันรวมกว่า 90,000 คนของสถาบัน “จรรยาดี กีฬาเด่น-คณะเรา-อำนวยศิลป์”ที่ผลิตบุคลากรให้เป็น “นายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 6 นาย ผลิตผู้นำองค์กรสำคัญๆ ทั้งราชการและเอกชน อีกนับไม่ถ้วนในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2562 นี้ เชิญร่วมงาน “93 ปี ชมพู-ม่วงร่วมรวมใจ” ที่สมาคมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ ถนนประชาชื่นแขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เชิดชู 3 บรมครู “จิตร ทังสบุตร–ครูประพัฒน์ กฤษณะจันทร์ และ ครูพา ไชยเดช”...
nn ต่อท้ายด้วยประเด็นร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังกรมป่าไม้ลุยตรวจที่ดินฟาร์มไก่ “ปารีณา ไกรคุปต์” สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ “อรรถพล เจริญชันษา” อธิบดีกรมป่าไม้นั่งหัวโต๊ะแถลงข่าวยืนยันว่าฟาร์มไก่รุกที่ป่าสงวนแห่งชาติกว่า 80 ไร่ พร้อมเดินหน้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ร้อนถึงอดีตสส.-อดีตรมช.หลายสมัย อย่าง ทวี ไกรคุปต์ ผู้พ่อเดินทางมายังวงแถลงข่าวของอธิบดีอรรถพล พร้อมทวงถามอธิบดีชี้ให้ชัดตรงไหนรุกที่ป่า คดีเยี่ยงนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ถ้าไม่มีคำสั่งปาฏิหาริย์มาแสดงอิทธิฤทธิ์ เจ้าหน้าที่คงสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหายัดเข้าเรือนจำรับประทานข้าวแดงไปนานแล้ว แต่ทว่ารายนี้เป็นอดีตเสนาบดี มีบุตรสาวเป็นสส.ผู้ทรงเกียรติซีกรัฐบาลอีกต่างหาก เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็คงต้องปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่พอประมาณ แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย มิเช่นนั้นสังคมนี้ก็อยู่ยาก อยู่ให้เย็น เป็นสุขทุกคนต้องเคารพปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี