“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/ www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด,นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี ติ่งแดงด้อมส้ม อย่างเท่าเทียม” ด้วยเล่ห์นักการเมืองนักกิจกรรมขายชาติ “ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน”ของนักกิจกรรมการเมืองและนักการเมืองชังชาติบางกลุ่มก๊วนที่สำรอกสำรากแต่ “ประชาธิปไตย”อย่างผิดๆ จนลืมรากเหง้ากำพืดตนเอง…
nn จนเกิดเรื่องน่าอัปยศอดสูที่สุดในเวลานี้ที่ไม่ใช่คนไทยสังคมไทยดอก แต่เป็น ฝรั่งเผือกถ่อยสถุล“จักรวรรดินิยมอเมริกา – มหาอินทรีอันตราย” กับ “แอ๊กชั่นอหังกา”... “การเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของราชอาณาจักรไทย”กรณี “สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR)”ได้แพร่ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมไทย (ฝ่ายตุลาการ 1 ใน 3 เสาหลักของระบอบประชาธิปไตย“เรียกร้องให้มีการกลับคำพิพากษา และยุติการดำเนินคดีที่เหลือทั้งหมด” ของขบถ “อานนท์ นำภา และผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112”... รวมถึงการปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง เลยเถิดไปจนถึงเรียกร้องให้รัฐบาลไทย “ยกเลิกมาตรา 112 โดยการอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน”…
nn “ฝรั่งเผือกสู่รู้”การใช้กฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์เป็น “การสร้างความตื่นตระหนก”ให้ประชาชนเป็นระยะเวลาหลายปี, การลงโทษหนักต่อบุคคลที่ใช้เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบเป็น “การจำกัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน”และ “ทนายความมีสิทธิในการใช้เสรีภาพในการแสดงออกและจะต้องไม่ถูกลิดรอนสิทธิในการประกอบวิชาชีพ”… ขอโทษงานนี้ไม่ใช่ “ซอฟต์พาวเวอร์”ทว่า “ซอฟต์เบรน(ปัญญาอ่อน)” อย่างเห็นได้ชัด กฎหมายไม่มีมือมีเท้ามีปาก มันอยู่ของมันเฉยๆ แต่ “บุคคล” ต่างหากที่ไปละเมิดกับมัน อย่างกฎหมายยาเสพติด ถ้าไม่มีผู้ค้าผู้เสพย์กฎหมายก็เป็นเพียงตัวหนังสือในกระดาษที่เขาเรียกกันว่า “เสือกระดาษ” เท่านั้น
nn ปอ.มาตรา 112 ก็เช่นกันจะใช้กับบุคคลที่พาดพิงจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์, องค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการกล่าวอาฆาตเป็นการใส่ร้ายกล่าวความเท็จ และโทษหนักที่ว่าก็เนื่องจาก “บุคคล” นั้นๆ ไร้สามัญสำนึกเป็นการกระทำผิดหลายกระทอกเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระเป็นปกติตามหลักกฎหมายทั่วไปหาได้เป็นเผด็จการฟาสซิสต์แต่อย่างใด... บักฝรั่งเผือก…
nn ประเด็น “ยุบพรรคก้าวไกล” ยังไม่ทันบังเกิดใดๆ “เสียงคำรามกระโชกก็สนั่นผ่านสื่อปีศาจสื่อโซเชียล” ให้สังคมได้ปริวิตกว่า “สังคมไทย”จะเป็นอย่างไรต่อไปจะมี “ฝูงอุปกรณ์การเกษตร” ถูกลากจูงลงถนนสร้างความปั่นป่วนไม่มีความสงบในบ้านนี้เมืองนี้อีกหรือไม่ ยิ่งสำรอกสำรากอ้างว่า “...เสมือนตบหน้าคน 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกล” จะให้หมายความว่า ให้พรรคการเมืองพรรค์นี้อยู่ “นอกบทบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2566” อย่างนั้นหรือ ซึ่งข้อเท็จจริงก็ไม่ต่างพฤติกรรมของ “พรรคอนาคตใหม่”ที่ถูกยุบไป “รู้ว่าผิดกฎหมาย... แต่ก็ยังปฏิบัติพอถูกจับได้” ว่าทำผิดกฎหมายก็ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ พอถูกลงโทษก็ส่งเสียงคำราม กระโชกกันเยี่ยงนี้...“ตายสิบเกิดแสนเป็นเรื่องที่ดี แต่ถูกแก้ผ้าล่อนจ้อนเยี่ยงนี้ถ้าเป็นไปได้...นายก็แน่มาก” ที่สรรหาอุปกรณ์การเกษตรมาเพิ่มเติมได้…
nn ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีทั้งประเด็นร้อนจนเดือดพล่าน จนแสดงออกชัดเจน “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” จึงเกิดคลิปไวรัลบรรยากาศปะทะคารมระหว่าง “ผู้อาวุโส -วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร/ประธาoรัฐสภา”กับ “นักการเมืองเดียงสา - ใบพลู – รังสิมันต์ โรม สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล” ว่าที่เสนาบดีในรัฐบาลพรรคก้าวไกลจากการเลือกตั้งในอนาคตที่ดื้อด้านเอาชนะคะคานอย่างไร้เหตุไร้ผล กับกรณีการตั้ง “กระทู้” ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม “พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง” ประเด็นมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมายกับ “นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร อาชญากรผู้ต้องคดีทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมือง ฉ้อฉลเงินภาษีประชาชน” ที่ตัวเองเตรียมนั่นโน่นนี่มาประกอบการอภิปรายกระทู้ ซึ่ง “อาจารย์วันนอร์” ไม่อนุญาตให้ใช้นำประกอบการอภิปราย ซึ่งเป็นอำนาจตามข้อบังคับการประชุมสภาฯด้วยต่างหาก ที่สำคัญ “กระทู้” ไม่ใช่ “ญัตติ... กฎหมาย” ที่ต้องมีเอกสารมาโน้มน้าวให้คล้อยตาม…
nn “กระทู้”คือการตั้งคำถามในประเด็นข้อสงสัยไปยังนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบประเด็นนั้นๆ โดยรัฐมนตรีจะมาตอบกระทู้ด้วยตนเองในที่ประชุมสภาฯ หรือตอบในราชกิจจาฯก็ได้ สงสัยเรื่องใดก็ตั้งคำถามถ้าตอบไม่เคลียร์ก็ถามเพิ่มเติมรวมแล้ว 3 ครั้ง หรือประธานการประชุมอาจจะอนุญาตเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษก็ได้ ทว่า ปฏิกิริยาก้าวร้าวของท่านผู้ทรงเกียรติแสดงออกชัดเจนถึง “สุภาษิต คำพังเพย สำนวนไทย"ที่ว่าสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล หมายถึงการแสดงออกทางการพูด หรือกิริยามารยาทที่จะชี้ให้เห็นถึงพื้นฐานในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน ไม่เกี่ยวกับยศถาบรรดาศักดิ์ ความยากดีมีจน แต่ขึ้นกับการได้รับการอบรมสั่งสอนมาหรือไม่??” ... “ไม้หน้าสาม”ว่า “คลิปไวรัล”ที่เผยแพร่ในโลกโซเชียลเป็นคำตอบสุดท้ายให้สังคมไทยตระหนักได้ว่าพฤติกรรมในเหตุการณ์ที่เกิดตามคลิปที่เผยแพร่นั้น ใครเป็นอะไรอย่างไร…
nn เคยกระทำมาก่อน ถึงรู้ถึงแซะได้ตรงประเด็นตรงไปตรงมา “หนูน้อยถุงเท้าแดง – เศรษฐา ทวีสิน” ที่วันนี้ต้องบอกว่ามีหลายสถานภาพในสังคมไทย ทั้ง นายกรัฐมนตรี ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นอมินี/หุ่นเชิดระบอบทักษิณ ฯลฯ ออกอาการจะไม่ทนต่อเสียงเหน็บแนมประเด็นการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่(เซลส์)ในต่างประเทศมากกว่าบริหารราชการแผ่นดินในประเทศ ... โต้กลับเหตุ “ไปต่างประเทศบ่อยเป็นเรื่องจำเป็น ไปก็ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน แซะส่ำสัตว์ปากว่าง ... “พวกนั่งอยู่บนหอคอยทั้งหลาย ลงมามือเปื้อนดินตีนเปื้อนโคลนบ้างสิ” ... นายกฯทิพย์/นายกฯโซเชียล/นายกฯว่าวและครม.ฝันเฟื่อง ทั้งหลายงานนี้คงสะดุ้งโหยงสิน่ะ ... ทราบแล้วเปลี่ยน!?!?!…
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” เห็นด้วยกับแนวคิด “รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย”จึงอยากเผยแพร่ให้สังคมไทยได้ตระหนัก...“ต่อให้ก้าวไกลเลือกตั้งได้ สส.มา 500 คน ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องยุบ ถึงคน 70 ล้านคนเลือก เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปล้มล้าง “สถาบันหลัก”ของบ้านเมือง สุดท้ายถ้าคนไทยทั้งประเทศพากันทำ บ้านเมืองจะวิบัติ สิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน”…
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี