พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานกดปุ่มสตาร์ทจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 หลังจากประชาชนรอคอยมาหลายปี และจากนั้น เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ก็ไปดำเนินการจ่ายเงินให้กับประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี ขณะที่จังหวัดนนทบุรี ตามลำดับจนครบทุกราย
ผู้รับเงินค่าเวนคืนแฮปปี้ ภาครัฐได้ดำเนินโครงการต่อ
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96.41 กิโลเมตร(กม.) มูลค่าโครงการรวม 55,927 ล้านบาท ถือเป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจ เชื่อมโยงการขนส่ง พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน แต่พบว่า โครงการนี้มีปัญหามายาวนานร่วม 4 ปี โดยเฉพาเรื่อง ชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดิน เพื่อนำมาดำเนินการก่อสร้าง
ในส่วนของงบประมาณไม่เพียงพอที่จะนำมาจ่ายเป็นค่าเวนคืนที่ดิน ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในเส้นทางดังกล่าวมีราคาสูง บริษัทที่ปรึกษาได้เคยศึกษาไว้ตั้งแต่ปี 2552 มาอนุมัติโครงการในปี 2558 ทำให้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เป็นเหตุให้ผู้รับเหมาไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ลามกระทบโครงการที่คืบหน้าไปเพียง 25% เท่านั้น ซึ่งล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดประมาณ 56%
หลังจากที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในเดือนตุลาคม 2562 รีบลงมาแก้ไขปัญหา
โดยใช้เวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น !!! โดยในวันที่ 12พ.ย. 2562 ครม.นอกสถานที่ จ.กาญจนบุรี อนุมัติปรับกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากเดิม 5,420 ล้านบาท เป็น 17,452 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12,032 ล้านบาท จ่ายเงินครบถึงมือชาวบ้านทุกราย
โครงการ มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เป็นเส้นทางโลจิสติกส์สายสำคัญของไทย ที่จะกระจายความเจริญไปยังพื้นที่โซนภาคตะวันตก รองรับแผนการก่อสร้างเมกะโปรเจกท์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อระหว่างฐานการผลิตและส่งออกของประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันตก เชื่อมต่อโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ในสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา
ทุกคนเห็นความสำคัญของโครงการนี้ว่าจะส่งผลดีต่อการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาค และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ดังที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล กล่าวกับประชาชน
“ในอนาคต ต้องมองให้เป็น เพราะที่ดินจะราดด้วยทองไม่ใช่ด้วยคอนกรีต เพราะการ คมนาคมไม่ได้จบแค่ท่าม่วง ถ้าผ่านเข้าไปทวาย จะทำรายได้ มีการค้าขายข้ามพรมแดนทุกอย่างก็จะดีขึ้นด้วย”
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี มองเห็นความสำคัญของถนนมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี เช่นเดียวกัน จึงได้สั่งการ ให้กรมทางหลวง เร่งรัดการดำเนินโครงการ ให้แล้วเสร็จก่อนแผนเดิมที่กำหนดไว้ที่จะเสร็จสิ้นโครงการภายในเดือนเมษายน 2566 ซึ่งอธิบดีกรมทางหลวง ออกมารับลูกจะเร่งรัดให้ งานโยธาเสร็จสิ้นภายในปี 2565 โดยจะเร่งรัดในการทำงานระบบ ทั้งไฟส่องสว่าง ระบบเก็บเงิน ฯลฯ ต่อไป
โครงการนี้จะร่นระยะการเดินทางจากปกติจะไปกาญจนบุรี ระยะทาง 130 กม. เหลือเพียง 94 กม.โดยสามารถใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น ทำให้การเดินทางจากเดิม 3-4 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากร่นระยะทาง ระยะเวลา ในการเดินทางแล้ว ต้องถือว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยังย่นระยะเวลาแก้ไขปัญหา ได้อย่างว่องไว รวดเร็วยิ่งกว่าจรวด
จากปัญหาที่ค้างคามาร่วมจะ 4 ปีได้รับการแก้ไขภายใน 1 เดือน !!! ใช้เวลา 7 วัน ในการจ่ายค่าเวนคืนจนครบถ้วนทั้ง 4 จังหวัด นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี !!!
แจกครบ จบทุกเรื่อง !!! ทำงานรวดเร็วว่องไวแบบนี้ สมแล้วกับคำว่า “พรรคการเมืองปฏิบัติการ พรรคภูมิใจไทย”
จึงไม่แปลกที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลให้ฉายา ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ว่า “โอ๋ แซ่รื้อ” และทางศักดิ์สยามเอง ก็ชอบฉายาดังกล่าว ทั้งระบุว่า ว่าตนได้รื้อเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าประชาชนคนไทยได้รับประโยชน์ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องรื้อ และจะเดินหน้ารื้อต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษาและปรับปรุง แต่หากไม่เป็นประโยชน์ ตนก็พร้อมที่จะหยุดรื้อ
ทั้งนี้ ฉายา “โอ๋ แซ่รื้อ” มีที่มาจากการเข้ามากำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ผุดไอเดียหลายอย่าง เช่น ติดตั้งGPS ในรถยนต์ส่วนบุคคล เดินหน้ารื้อหลายโครงการที่เป็นปัญหา อาทิ รื้อมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า รื้อคดีค่าโง่ทางด่วน รื้อหลักสูตรสอบใบขับชี่ รื้อแผนท่าเรือปากบารา-สงขลา 2 รื้อแผนฟื้นฟู ขสมก. เป็นต้น
และถ้าจะรื้ออีกสักโครงการ ก็ขอเป็นถนนสายอ.ทุ่งใหญ่ ถึงแยกหนองดี จ่อกับถนนเอเชีย อ.นาบอนจ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 15 กิโลเมตร ชาวบ้านย่านนั้นเขาบอกกับผมว่า ทางการรับปากจะปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำเป็นถนน 4 เลน มาตั้งแต่ พ.ศ.2518 รอมานานแล้ว สส.ในพื้นที่ก็พูดในสภาหลายหน แต่ยังไปไม่ถึงไหน อุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นรายวัน ทั้งที่ถนนสายดังกล่าว เป็นเส้นทางเศรษฐกิจ ผ่านไปยัง จ.กระบี่, จ.พังงา, จ.ภูเก็ต และสามารถเชื่อมต่อไปยัง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ได้
ถ้ากระทรวงคมนาคม ตั้งงบประมาณปี 2563 ไว้แล้ว ก็ขออนุโมทนาด้วย
กระนั้นก็ตามช่วงที่รอ ก็ควรจะปะผุ ปรับปรุงไหล่ทางให้กว้างสักนิดก็ดีนะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี