มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ชี้แจงความจริง “กรณีแต่งตั้งรองอธิการบดี” หลังมีข่าวตามสื่อ เกี่ยวกับการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ประกอบด้วย ประเด็นต่างๆ ๓ ประเด็นได้แก่ การแต่งตั้งรองอธิการบดี การจัดซื้อ iPad และการไม่เข้าประชุมของอธิการบดี

มหาวิทยาลัยรามคำแหงใคร่ขอชี้แจงรายละเอียดในแต่ละประเด็น ดังนี้

๑.การแต่งตั้งรองอธิการบดี ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ ๗/๒๕๖๕ วันที่ ๒๕ เมษายน๒๕๖๕ อธิการบดีได้ยื่นเอกสารเพื่อเข้าวาระ ๕.๒๐ เรื่องขออนุมัติแต่งตั้งรองอธิการบดี โดยเสนอชื่อบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนเป็นรองอธิการบดีทั้งสิ้น จำนวน ๓๐ ตำแหน่ง ซึ่งเป็นกรอบตำแหน่งที่สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติไว้ โดยดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ในครั้งนั้นที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ร่วมกันพิจารณาแล้วมีมติให้ชะลอการแต่งตั้งรองอธิการบดีออกไปก่อน จนกว่าจะมีการอ่านคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด ซึ่งในขณะนี้มีคำสั่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดี

จำนวนรองอธิการบดีที่เสนอขอแต่งตั้งนั้นเป็นไปตามที่สภามหาวิทยาลัยกำหนดจำนวนกรอบตำแหน่งรองอธิการบดีไว้ตามความจำเป็น ซึ่งถือปฏิบัติมาเป็นระยะเวลาหลายปีก่อนหน้านี้ เพื่อกระจายอำนาจในการบริหารจัดการสาขาวิทยบริการจังหวัดต่างๆ จำนวน ๒๓ จังหวัดทั่วประเทศการบริหารจัดการในสาขาวิทยบริการฯ นั้น มีพันธกิจหลักเช่นเดียวกับส่วนกลาง ประกอบด้วย การเรียนการสอน การบริการวิชาการ การวิจัย และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะปัจจุบันที่มหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานที่ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ที่มอบหมายให้ดูแลโครงการ“1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย” หรือ “U2T” ด้วยการนำองค์ความรู้จากคณาจารย์ไปช่วยเหลือประชาชนในตำบลต่างๆ ประกอบกับมีนโยบายที่จะจัดการเรียนการสอนในคณะหรือสาขาที่นักศึกษาและประชาชนต้องการศึกษาต่อเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ ๔ คณะสาขาวิชา ทั้งนี้ รองอธิการบดีในตำแหน่งที่เสนอแต่งตั้งนั้นไม่มีเงินประจำตำแหน่งตามที่สื่อบางฉบับระบุแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันผู้ช่วยอธิการบดีทุกคนมีสถานภาพเป็นข้าราชการหรือพนักงานมหาวิทยาลัยซึ่งได้รับเงินเดือนประจำตามปกติอยู่แล้ว

ในปัจจุบันนี้ ผู้ช่วยอธิการบดีทั้ง ๓๐ ตำแหน่งดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบอำนาจจากอธิการบดี หากทว่าเมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ในส่วนงานของการประสานกับองค์กรภายนอก จะไม่สามารถปฏิบัติราชการ หรือตัดสินใจดำเนินการบางกรณีได้เทียบเท่ารองอธิการบดี ซึ่งส่งผลให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงเสียโอกาสอันเป็นประโยชน์กับมหาวิทยาลัย

สืบเนื่องจากมติของสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงในครั้งที่ ๗/๒๕๖๕ วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๕ นั้น ทำให้อธิการบดีไม่สามารถยื่นเสนอรายชื่อรองอธิการบดีทั้ง ๓๐ ตำแหน่งได้อีก โดยอธิการบดีก็มิได้นิ่งนอนใจแต่ประการใด การเข้าชื่อของผู้ช่วยอธิการบดีกลุ่มนี้จึงเกิดขึ้นด้วยหมายจะให้สภามหาวิทยาลัยได้บรรจุวาระนี้เพื่อเป็นวาระหนึ่งในการประชุม รวมถึงเพื่อทำให้การปฏิบัติราชการสะดวก และบรรลุเป้าหมาย อันยึดถือประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยเป็นที่ตั้ง

๒.การจัดซื้อ iPad เพื่อเป็นอุปกรณ์ใช้ในการประชุมคณะกรรมการบริหารงานบุคคลมหาวิทยาลัยรามคำแหง และคณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งปกติจะมีการประชุมทั้งในห้องประชุม และประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในการประชุมจะมีเอกสารประกอบวาระการประชุมจำนวนมาก การจัดใช้ iPad ในการประชุมจะสามารถจัดทำเอกสารประกอบการประชุมในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษและลดภาระงบประมาณเกี่ยวกับการผลิตเอกสารประกอบการประชุมในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ การจัดซื้อ iPad สำหรับการประชุมดังกล่าว สำนักเทคโนโลยีการศึกษาได้รับอนุมัติงบประมาณโครงการพัฒนาระบบห้องประชุมออนไลน์ ห้องประชุม ๓ ชั้น ๓ อาคารวิทยบริการและบริหาร จากคณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.ร.) เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

สำนักเทคโนโลยีการศึกษาได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามลำดับขั้นตอนจนแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของอธิการบดีคนปัจจุบันในการขับเคลื่อนเรื่อง Smart University ส่วนขั้นตอนในกระบวนการให้ผู้บริหารยืม iPad เพื่อใช้สำหรับการประชุมออนไลน์นั้น สำนักเทคโนโลยีการศึกษาได้ปฏิบัติตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัย (ก.บ.ม.ร.) เรื่องแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการยืมทรัพย์สินทางราชการเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งมิใช่เป็นการดำเนินการเองโดยไม่มีระเบียบรองรับ และในการขอยืม iPad เพื่อการประชุมสำหรับผู้บริหารนั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความต้องการของผู้บริหารท่านนั้นมิได้มีการบังคับให้ผู้บริหารทุกคนต้องทำเรื่องเพื่อขอยืมใช้เครื่อง หากกรรมการท่านใดสะดวกจะใช้ iPad ส่วนตัวก็สามารถนำมาใช้ในการประชุมได้เช่นกัน

๓.กรณีการไม่เข้าประชุมสภามหาวิทยาลัยครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๕ ของอธิการบดี ด้วยอุปนายกสภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้อธิการบดีเข้าร่วมอบรมหลักสูตร “กฎหมายมหาชนกับการบริหารงานมหาวิทยาลัย” รุ่นที่ ๑๓ ระหว่างวันที่ ๖-๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส กรุงเทพมหานคร ซึ่งอธิการบดีเห็นว่าการอบรมครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อการนำความรู้จากการอบรมดังกล่าวมาใช้ในการบริหารงานของมหาวิทยาลัย เป็นเหตุให้ไม่สามารถเข้าประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ หาได้หลีกเลี่ยงที่จะเข้าประชุมในครั้งนั้น