น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศขึงขัง จะเข้าไปตรวจสอบสะสางปัญหาทุจริตในวงการสหกรณ์
สาธุ...
แต่จะเอาจริง หรือแค่สร้างภาพ?
1. วันที่ 9 ม.ค. (วันนี้) จะเข้าไปรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด
ที่นี่มีกรณีอดีตผู้บริหารกับพวกรวม 6 ราย ปล่อยเงินกู้ 199 สัญญา วงเงิน 2,200 ล้านบาท เข้าข่ายกระทำผิดระเบียบสหกรณ์ที่กำหนดให้กู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท เป็นทางการ
ปัญหาที่ซุกอยู่ใต้พรมจนถึงวันนี้ คือ ผลกระทบทางการเงินที่แท้จริง
ทั้งสถานะทางการเงินและหนี้สินทั้งหมดของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ
และผลกระทบที่ลุกลามไปถึงสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งอื่นๆ
2. กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟฯ ล่าสุด สำนักข่าวอิศราเปิดเผยข้อมูลว่า
ปัจจุบัน สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ มียอดคงเหลือลูกหนี้เงินให้กู้ยืม จำนวน 2,693,900.00 บาท
ทุนเรือนหุ้น จำนวน 131,989.67 บาท
เงินรับฝาก จำนวน 2,267,229,729.23 บาท
แต่สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ยังไม่ได้แจ้งผลความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้สหกรณ์ได้รับความเสียหาย ตามคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์และคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และยังไม่จัดทำหลักฐานประกอบการจัดชั้นคุณภาพลูกหนี้เงินกู้และการเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแต่อย่างใด
เหตุผลเป็นเพราะมีสัญญาเงินกู้ชุดคู่ฉบับสูญหาย และสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟได้มีหนังสือปฏิเสธหนี้เจ้าหนี้เงินกู้สหกรณ์อื่นไปแล้ว โดยสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ อ้างว่าผู้ลงนามในสัญญา เงินกู้ไม่เป็นไปตามข้อบังคับของสหกรณ์ฯ และหยุดการชำระหนี้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 จนถึงปัจจุบัน (พฤศจิกายน 2562) จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์
คณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จำกัดสหกรณ์ออมทรัพย์เครือโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์การยางแห่งประเทศไทย จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล จำกัด
มีผลให้สหกรณ์เจ้าหนี้เหล่านี้ ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและ ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานอย่างมาก หรืออาจเกิดผลขาดทุนจากการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญดังกล่าว เป็นวงเงินรวมกว่า 816.82 ล้านบาท
3. กรณีสหกรณ์ที่มีปัญหาทุจริต เปรียบเหมือน “ผู้ป่วย”ติดเชื้อเอดส์ ที่อาจแพร่เชื้อไปสู่สหกรณ์อื่นๆ ได้ หากไม่มีมาตรการป้องกันควบคุมดูแลรักษาที่เด็ดขาด
ผู้ป่วยเอดส์ที่มีจิตสำนึก ยังรู้จักป้องกันตัวเอง มิให้แพร่เชื้อร้าย
แต่สหกรณ์ที่มีปัญหาทุจริต มีแต่จะแพร่เชื้อร้าย เพื่อหวังกลบเกลื่อนปัญหาทุจริตของตนเอง
4. ขอสนับสนุนให้รัฐมนตรีเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาทุจริตในวงการสหกรณ์
ที่ผ่านมา ปัญหารุนแรง และดื้อยามาก
อย่าเข้าไปดูเฉพาะกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ
ยังมีอีกหลายกรณีที่รอการสะสาง หมักหมม ซุกปัญหาไว้ใต้พรมลูบหน้าปะจมูก รอฝีแตก
กรณีโกงที่สะท้านสะเทือนวงการสหกรณ์ที่สุดในประวัติศาสตร์สหกรณ์ คือ กรณีโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งบางส่วนไปพัวพันกับวัดใหญ่ที่มีกลวิธีทางการเงินที่ลึกลับซับซ้อนที่สุดในประเทศไทยด้วย
ปัจจุบัน สหกรณ์คลองจั่นก็ยังนอนอยู่ในห้องไอซียู
5. กรณีสหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ฯลฯ
ทั้งหมด ล้วนแต่ปรากฏเงื่อนปมทุจริต พัวพัน รุงรัง สะสมมาหลายยุค
แม้จะเริ่มเข้าไปตรวจสอบแก้ปัญหาก่อนหน้านี้ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ
คนโกงส่วนใหญ่ ก็ยังลอยนวล
ยกตัวอย่าง
5.1 กรณีของสหกรณ์นพเก้าฯ นายทะเบียนสหกรณ์สั่งเลิกสหกรณ์ฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2560 เนื่องจากไม่อาจดำเนินกิจการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องให้แล้วเสร็จ ไม่สามารถปิดบัญชีได้ และไม่จัดประชุมใหญ่ ได้มีการแจ้ง ปปง.เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของสหกรณ์ ร้องทุกข์ต่อตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับคณะกรรมการ กรณีซื้อที่ดินราคาสูงเกินจริง จนถึงบัดนี้ ยังไม่ปรากฏความคืบหน้าอดีตผู้เกี่ยวข้องยังอยู่ดีมีสุข
อดีตนายทหารใหญ่ของระบอบทักษิณ ที่เคยไปออกหน้าออกงานให้กับสหกรณ์ มีผลประโยชน์เกี่ยวพัน ถูกดำเนินการอย่างไร? ทำไมไม่ปรากฏความคืบหน้าเลย
แถมบรรดาสหกรณ์ทั้งหลายที่เอาเงินมาฝากไว้กับสหกรณ์นพเก้าฯและได้รับความเสียหาย ก็ต้องตรวจสอบภายในว่าอดีตผู้บริหารของตนมีการทุจริตโกงกินด้วยมั้ย ยกตัวอย่าง นายทะเบียนสหกรณ์สั่งให้สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ตามเรียกค่าเสียหายจากอดีตผู้บริหารของสหกรณ์จุฬาฯ มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท และอดีตผู้บริหารที่เป็นถึงรองอธิการฯมหาวิทยาลัยถึงกับลาออกไปแล้ว แต่เรื่องก็ค่อยๆ เงียบๆ ไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น
ยังมีสหกรณ์อื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น ชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย วงเงินฝาก 4,485 ล้านบาท, สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนนทบุรี วงเงินฝาก 113 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงเงินฝาก 915 ล้านบาท เป็นต้น
5.2 กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ
กรณีเอาเงิน 1,400 ล้าน ไปให้สหกรณ์คลองจั่นฯ กู้ กระทำผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย จนถึงวันนี้ยังไม่ได้เงินคืน แถมคนที่กระทำการยังลอยตัวอยู่
กรณีเอาเงิน 200 ล้านไปฝากสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ผิดระเบียบ ผิดหลักเกณฑ์โจ๋งครึ่ม จนวันนี้ยังไม่ได้เงินคืน ตามเอาผิดใครได้สักคนมั้ย
นี่สหกรณ์ใหญ่ กลางเมืองหลวงแท้ๆ
ทั้งหมดนี้ รัฐมนตรี “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” พร้อมจะสะสางแบบไม่ลูบหน้าปะจมูก หรือไม่?
คราวก่อน สื่อตั้งฉายา “มาดาม แบนเก้อ” คราวนี้คือโอกาสพิสูจน์ฝีมือตัวเองอีกครั้ง
อย่าให้ได้ฉายาใหม่ “มาดาม ปราบโกงเก้อ”
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี