ปัญหาการแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทยนั้นจะว่าไปจากหลักฐานและข้อเท็จจริงในทางประวัติศาสตร์อันยาวนานของชนชาติไทยที่มีมานานกว่า 12 ศตวรรษ หรือ 1,200 ปี นั้นไม่ใช่ของที่ใหม่แต่อย่างใดที่จริงคนไทยมีความแตกสามัคคีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยยังเป็นอาณาจักร 19 เจ้าฟ้า,สิบสองจุไทย,สินุโล,ทวารวดี,ศรีวิชัย,ล้านนาไทย,ล้านช้าง,สุวรรณโคมตำ,พนมโคตรบูรณ์,สุโขทัย,ละโว้,กรุงศรีอยุธยา,กรุงธนบุรี มาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรจากประวัติศาสตร์ของอารยธรรมตะวันตก หรือ ตะวันออก คนเราต้องการอำนาจวาสนาราชศักดิ์ การคิดคดทรยศและก่อกบฏต่อแผ่นดินมีได้เสมอนั่นแหละ การเกิดของพรรคการเมืองในบ้านเราในยุคหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองวันที่ 24 มิถุนายน 2475 มันหมายความว่าคณะราษฎร์ เองก็ต้องการอำนาจปกครองบ้านเมืองจึงล้มพระราชอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์
พวกเขาก็ได้อ้างคำว่าประชาชนและประชาธิปไตยมาบังหน้าให้ดูดีแต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วคณะราษฎร์มีเจตนา ดีจริงหรือไม่เขาทำเพื่อประชาชนคนไทยจริงๆ หรือว่าพวกเขาทำเพื่อตัวเองมากกว่า ในปัจจุบันการจัดตั้งพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตามที่ล้วนอ้างคำว่าประชาชนมาบังหน้าทั้งสิ้นใช่หรือไม่ ในวันสองวันข้างหน้าศาลรัฐธรรมนูญจะพิพากษาว่าจะล้มพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเพราะพวกเขาทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
มีการปลุกระดมทางการเมืองถึงกับประกาศในทำนองพวกเขาจะทำสงครามกลางเมือง แล้วอ้างว่าประชาชนเดือดร้อนมาร้องความเห็นใจ ถ้าหากมีสงครามกลางเมืองจริงๆ มันก็ไม่แตกต่างจากพวกสมุนระบอบทักษิณ ที่ก่อสงครามมา 2-3 ครั้ง ในระหว่างปี 2552 ถึง 2553 เรื่อยมาจนถึงปี 2557 ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 คณะทหารต้องรวมใจกันรัฐประหารรัฐบาลจอมโกงของระบอบทักษิณไปเสียได้
ขณะนี้เป้าหมายของนักการเมืองในระบอบทักษิณวังวนได้กลับมาที่เดิมหมายถึงการล้มทุนฝ่ายตรงข้าม ล้มกองทัพหรือล้มปืนไปถึงการล้มเจ้า มันจะลุกลามไปสู่คนไทยต้องเดินขบวนบนถนนตามมาด้วยการเข่นฆ่ากันเองอีกครั้งใช่หรือไม่เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะตราบใดที่คนไทยยังแตกความสามัคคีการแตกแยกทางการเมืองนั้นก็มีโอกาสปะทุใหญ่นำไปสู่สงครามกลางเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้งหนึ่ง
ก็ได้แต่ความเป็นห่วงกับการปลุกระดมให้คนไทยเกลียดชังกัน ในวันที่ 11-20 ตุลาคม 2476 นั้นเกิดกบฏบวรเดช กองทัพแตกแยกออกเป็น 2 ฝ่ายมีการปะทะสู้รบกัน เพื่อแย่งชิงอำนาจทางการเมือง ฝ่ายชนะก็กลายเป็นฝ่ายได้รับความเป็นธรรม ฝ่ายแพ้ก็กลายเป็นพวกอธรรมไป ต้องถูกจับเข้าเรือนจำหรือไม่ก็หนีออกไปลี้ภัยนอกประเทศในที่สุด
คนไทยทุกๆคนต้องหันกลับมาทบทวนกันว่า พวกเรานั้นอย่าได้ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ชอบอ้างกับคำว่าประชาชนและประชาธิปไตย ทั้งๆที่พวกเขาล้วนทำไปเพื่ออำนาจวาสนาของตัวเองทั้งสิ้นนี่คือสัจธรรมอย่างแท้จริงที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี