สส. 7 พรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย,อนาคตใหม่, เสรีรวมไทย, ประชาชาติ,เพื่อชาติ, เศรษฐกิจใหม่และพลังปวงชนไทย นำโดย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาคือนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลผสม 19 พรรคการเมืองของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 26 ถึง 28 ก.พ. 2563 นี้ โดยเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ระบุให้พรรคฝ่ายค้านมีสิทธิขอยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้สมัยประชุมละ1 ครั้ง
การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในระยะเวลา 6 ปี นับตั้งแต่ที่คณะทหาร คสช.ได้ก่อการรัฐประหารรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 27 พ.ค. 2557 เป็นต้นมา สาเหตุที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกรัฐประหารนั้นส่วนหนึ่งมาจากไม่สามารถหาทางออกทางการเมืองได้เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนั้นได้เพราะประชาชนแตกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายสนับสนุนทักษิณกับฝ่ายต่อต้านทักษิณ
ฝ่ายรัฐบาลที่อยู่ในระบอบของ นายทักษิณ ชินวัตรนักโทษคดีอาญาหนีคดีทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงอยู่ในต่างประเทศที่มีน้องสาวคือ นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ถูกต่อต้านจากประชาชนคนไทยในนามคณะกปปส. นับสิบๆ ล้านคน เกิดวิกฤตการณ์ทางด้านการเมืองประเทศหาทางออกในการแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองไม่ได้เพราะรัฐธรรมูญฉบับปี 2550 ที่เป็นกฎหมายสูงสุดไม่มีทางออกอื่นใด ในที่สุดคณะทหารคสช.ต้องตัดสินใจรัฐประหาร
สำหรับข้อมูลของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จะเปิดอภิปรายการทำงานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นเท่าที่ประมวลข้อมูลการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์สมัยที่ 2 ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2562 มาจนถึงวันที่ 25 ก.พ. 2563 เป็นระยะเวลาแค่ 8 เดือน ปรากฏว่าข้อมูลในการทุจริตแทบมองไม่เห็นอะไรเพราะรัฐมนตรีที่มาทำงานนั้น ทำงานจริงๆแค่ 6 เดือนเท่านั้น
มีกระแสข่าวว่า การอภิปราย 6 รัฐมนตรี ประกอบด้วย4 อดีตข้าราชการทหาร คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา,พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ, พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา,ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า กับ 2 อดีตข้าราชการพลเรือนคือ ดร.วิษณุ เครืองาม กับนายดอน ปรมัตถ์วินัย จะเป็นการเอาข้อมูลเก่าๆ ในสมัยรัฐบาลคสช.มาเปิดอภิปรายเสียมากกว่าซึ่งออกจะแปลกมากไปกว่าทุกรัฐบาล เพราะไปรื้อเอาเรื่องเก่าสมัย 5 ปีที่ผ่านมา อภิปรายดูแล้วพิกลอยู่
ซึ่งมันคล้ายกับว่า 7 พรรคฝ่ายค้าน ได้ไปรับนโยบายจากฝ่ายแค้น ซึ่งได้แก่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีคดีอาญาอยู่ในต่างประเทศคือ นายทักษิณกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาผสมโรงบวกกับอดีตนักการเมืองนอกสภาที่อยู่ในพรรคการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ซึ่งกลุ่มนี้ มีพรรคฝ่ายรัฐบาลอกหักรวมอยู่ด้วยนับสิบๆ คน
การเอาข้อมูลในสมัยรัฐบาล คสช.มาโจมตีรัฐบาลชุดนี้จะเป็นผลดีแก่ประเทศชาติหรือไม่ ยังสงสัยอยู่เพราะเป็นเรื่องทุจริตหรือไม่มีหลักฐานอะไรที่ชัดแจ้งหรือเปล่าต้องแสดงออกมาให้ชัดเจนด้วยเพราะหากเอามาแสดงแบบรู้ไม่จริง ระวังจะถูกรัฐบาลโจมตีแบบเคาน์เตอร์แอ๊กแท็กได้ ดีไม่ดีฝ่ายค้านและฝ่ายแค้นอาจจะต้องพลาดท่าหน้าแหกแทน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี