สัปดาห์นี้ข่าวโรคไวรัสยังกระจายไปหลายแห่งทั่วโลก นอกจากจีนยังกระจายไปเกาหลี, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ฮ่องกง ในยุโรปและในตะวันออกกลาง
โดยเฉพาะในประเทศจีน ยังไม่มีท่าทีว่าจะลดจำนวนลงไปจากตัวเลขล่าสุดขององค์การอนามัยโลก จีนมีผู้ติดเชื้อ 83,342 รายและเสียชีวิต 2,858 ศพ แต่ก็มีหลายหมื่นคนที่หายแล้ว
ของไทยตัวเลขยังอยู่ที่ 35 หายกลับบ้านได้จำนวนหนึ่งและยังไม่มีคนเสียชีวิตเลยแต่ช่วงนี้มีเพิ่มมาอีก 3 คน เพราะไปญี่ปุ่นมาไม่บอกความจริง ทำให้ตัวเลขอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 คน และถ้าเป็นแบบนี้ไปนานๆคนจะมีปัญหาอีกมาก
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวด้านอุตสาหกรรมมีมากมาย วิธีการดีที่สุดคือ อดทน ประหยัด เดินสายกลาง มีภูมิคุ้มกันคือรักษาสุขภาพให้ดีไม่ประมาท ออกไปไหนต้องล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอและมีหน้ากากอนามัย
ยิ่งในช่วงนี้เศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจของไทยจะพบปัญหารุนแรง ไม่ว่าจะเรื่อง COVID-19 แล้ว ยังมีปัญหาชีวิตมากระทบมากขึ้น
เรื่อง Disruption ป่วนทางสุขภาพที่คาดไม่ถึงกระทบคนไทยและคนในโลกอย่างคาดไม่ถึง Disruption ไม่ใช่ แค่ AI ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Digital เท่านั้น แต่เป็น Disruption ป่วนเรื่องสุขภาพเนื่องจากโลกเชื่อมโยงกันทั้งโลก การเดินทางไปมาหาสู่กันก็ยากมากขึ้น
ยิ่งประเทศจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้โรค COVID-19 ไม่กระจายไปมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาสู่สภาวะปกติได้อย่างไร โดยเฉพาะในเมื่ออู่ฮั่นยังมีปัญหาอยู่มากประชาชนอู่ฮั่นออกจากบ้านไม่ได้
ดังนั้นความพอเพียงปรับตัวให้รับกับสถานการณ์ของคนจีนเป็นเรื่องที่ต้องให้กำลังใจเพราะ ถ้า COVID-19 ดีขึ้นทุกๆ อย่างในประเทศไทยก็จะกระเตื้องขึ้น แต่ในขณะที่ยังไม่กระเตื้องต้องใช้ แนวทางของ ร.9
1. เศรษฐกิจพอเพียงใช้จ่ายแต่พอตัว ประหยัด หาทางอยู่รอดให้ได้
2. เตรียมพร้อมที่จะกลับมาอย่างเข้มแข็ง
3. อย่าคิดเชิงลบคิด อย่าเศร้า เดินทางสายกลาง มีปัญหาให้แก้อย่างไรให้โลกอยู่ได้ ดูในประวัติศาสตร์ที่มีโรคติดต่อมากกว่านี้ ยุคนั้นการแพทย์ไม่เจริญ โลกยังอยู่ได้
4. มีคนรู้จัก ถามผมว่าทุนแห่งความสุข Happiness Capital จะช่วยอะไรได้ ถ้าเกิด Disruption Happinessแปลว่าอะไร ผมแปลว่า ถ้าเราเครียดกับเรื่อง COVID-19 คือ การ Disruption เรื่องความสุขในการทำงานและการดำรงชีวิตต้องทำตัวให้คิดบวกไว้ อย่าเครียดเพราะความเครียดหรือทางลบจะทำให้มีปัญหามากขึ้น ดังนั้นทำใจให้สบาย เข้าหาธรรมะ และใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง คิดว่ามีวิกฤติมาให้แก้ไข ก็จะผ่านไปความสุขจะกลับมาช่วงที่มีวิกฤติอย่าเครียดจนทำให้เราคิดลบ
ดังนั้นจึงต้องคิดบวกไว้ อย่าตัดสินใจอะไรรวดเร็ว ต้องรอบคอบและสร้างภูมิคุ้มกันที่สำคัญคือหาความรู้และมีธรรมาภิบาลกับการดำรงชีวิตที่มีความสุข
ก่อนจบ ผมได้พูดถึง Networking (การสร้างเครือข่าย)กับ Collaboration (การทำงานร่วมกัน) เครือข่ายและการทำงานร่วมกัน เกี่ยวกับการเป็นผู้นำของ Benjamin Franklinกับ Steve Jobs ไป เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
วันพุธที่ผ่านมา มีการประชุมนานาชาติ การแข่งขันทักษะการขายอาเซียนครั้งที่ 1 (The 1st South East Asian Sales B2B Sales Competition (SEASAC) เชิญให้ผมแสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ The Power of Collaboration and Networking between EU and ASEAN (พลังของการทำงานร่วมกันและเครือข่ายระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน) มี ผศ.ดร.พรลภัส สุวรรณรัตน์ เป็นลูกศิษย์ที่ธรรมศาสตร์ให้ผมไปพูดเรื่องนี้ ผมได้เน้นว่า Networking (การสร้างเครือข่าย)อย่างเดียวไม่พอต้องมีความร่วมมือให้ไปสู่ Collaboration (การทำงานร่วมกัน) me Collaboration (การทำงานร่วมกัน)เป็นปัจจัยไปสู่ความสำเร็จ เพราะโลกในปัจจุบัน ไม่มีใครทำงานคนเดียว จะต้องมีวิธีการไปสู่ความสำเร็จ
รูปนี้ชี้ให้เห็นว่าเรามักมีเครือข่ายแคบสำคัญให้กระจายไปในวงกว้าง รู้จักเครือข่ายอื่นๆ เช่น ระหว่างประเทศ
1. มีผู้นำที่สามารถทำให้ Collaboration สำเร็จ
2. Collaboration ไม่ใช่ แค่ Physical แต่เป็นการ Collaboration ทางจิตใจ
3. ต้องเน้นไปที่ Trust (ความไว้เนื้อเชื่อใจ)
1) Relations (ความสัมพันธ์)
2) Trust (ความไว้เนื้อเชื่อใจ)
3) Mutual Benefits (ประโยชน์ร่วมกัน)
4) Synergy (การผนึกกำลังกัน)
5) Mutual Respect (การเคารพนับถือกัน)
6) Respect of diversity (การเคารพในความหลากหลาย)
7) Collaboration of individuals (การทำงานร่วมกันระหว่างบุคคล) ที่มีความหลากหลาย
8) Turn network ideas into Collaboration โดยใช้ 3V
(การนำความคิดที่ได้มาจากเครือข่ายไปปฏิบัติตามแนวทางทฤษฎี 3V’s)
- Value Added สร้างมูลค่าเพิ่ม
- Value Creation สร้างคุณค่าใหม่
- Value Diversity สร้างคุณค่าจากความหลากหลาย
และยุคใหม่คือ Collaboration ทาง Digital ให้สามารถเชื่อมโยงในทาง Technology และสามารถทำได้เร็วและเป็นคุณประโยชน์ แต่ต้องระวังเรื่องความไม่เข้าใจ ซึ่งกันและกัน ต้องศึกษาความหลากหลาย ทั้งด้านงานส่วนตัว วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ โดยทำให้ 2 ฝ่าย หรือ 3 ฝ่ายสามารถ สร้าง Win-Win ให้ได้
ผมสรุปว่า การประชุมครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของ Networking ไปสู่ Collaboration ต้องทำอย่างต่อเนื่องและอดทน ให้มีการชนะเล็กๆ แต่มุ่งไปที่ความหลากหลายทาง EU/ASEAN
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี