วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้แต่การปิดห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง สถานบริการในกรุงเทพมหานครและเมืองหลักทั่วปะเทศก็กำลังส่งผลกระทบต่อการจ้างแรงงานและปัญหาอื่นเป็นลูกโซ่ตามมา
ขณะที่ภาคเกษตรกรรมของไทยก็ประสบชะตากรรมไม่น้อยกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งราคาพืชผลที่ตกต่ำและปัญหาวิกฤติภัยแล้งที่รุนแรงมากทำให้เกิดการขาดแคลน น้ำใช้ในการเกษตร กระทบต่อการผลิตและรายได้ปัญหาเรื่องราคาพืชผลตกต่ำ ซึ่งรวมไปถึงพืชเกษตรที่ไม่มีใครพูดถึงมากนัก เช่น ยาสูบ ยังคงเป็นปัญหาและส่งผลกระทบกับเกษตรกรและแรงงานในภาคเกษตรกรรมปัจจุบันเรามีกำลังแรงงานอยู่ทั้งสิ้น 38.41 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นแรงงานในภาคเกษตรมากถึงกว่า 13 ล้านคน
ปี พ.ศ.2562 ประเทศไทยมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี28.1 องศาเซลเซียสสูงกว่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีตรอบ 30 ปี และมีปริมาณฝนน้อยกว่าที่เคยเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำฝนรวมทั้งปีในปี 2562 มีฝนน้อยเป็นอันดับที่ 2 ในรอบ 69 ปี
ในปี 2563 ภาคเกษตรกรรมของไทยมีสัดส่วนประมาณ5.7% ของ GDP ประเทศไทย มีความเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมของประเทศหลายอย่างเช่น การผลิตอาหาร การแปรรูปผลผลิตการเกษตร แต่ประเทศไทย ปลูกพืชหลักเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า priority crop ของกระทรวงเกษตร คือข้าว อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และพืชเหล่านี้ก็มีปัญหาในเรื่องราคาผลผลิตมาโดยตลอด ดังนั้น การปลูกพืชอื่นที่สามารถสร้างรายได้ให้มากกว่าหรือเท่ากับพืชหลักจึงเป็นสิ่งที่เกษตรกรต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในพืชจำนวนนี้คือยาสูบ
ในปี 2563 ประเทศไทยมีการปลูกยาสูบคิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 97,500 ไร่ จากเนื้อที่ถือครองเพื่อการเกษตร 249 ล้านไร่ถ้าเทียบกับพืชที่การเกษตรของประเทศไทยแล้วอาจดูไม่มาก แต่ก็เป็นต้นน้ำสามารถสร้างรายได้จากการผลิตบุหรี่ให้กับรัฐถึง 67,000 ล้านบาท ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าพืชเศรษฐกิจอื่นๆ แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ก็ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ขณะที่รายได้เฉลี่ยของเกษตรกรต่อคนอยู่ที่เดือนละ 9,000-12,000 บาท ที่จะต้องนำมาเลี้ยงดูสมาชิกครอบครัว รายได้ทุกบาททุกสตางค์จึงมีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีทั้งสิ้น
แต่เกษตรกรชาวไร่ยาสูบกลับพบกับปัญหาอันไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติแต่มาจากอัตราภาษีสรรพสามิตของรัฐบาลและการบริหารจัดการของการยาสูบแห่งประเทศไทย ทำให้มีการลดโควตาการเพาะปลูกลงถึง 2 ปีซ้อน โดยมีการลดการรับซื้อใบยาสูบทั้งหมด 11.89 ล้าน กก. แบ่งเป็นสายพันธ์ต่างๆ ดังนี้ พันธุ์เวอร์ยิเนียร์ลดลง 4.36 ล้าน กก.(43%)เบอร์เลย์ 5.27 ล้าน กก.(48%) เตอร์กีซ 2.26 ล้าน กก.(58%) พอเป็นแบบนี้ รายได้ของเกษตรกรก็ลดลงไปกว่า 50% ขณะที่หนี้สินไม่ได้ลดลงตามไปด้วย
นี่จึงเป็นปัญหาที่ชาวไร่ไม่ได้ก่อ แต่ฐานะที่อยู่ต้นน้ำก็ต้องได้รับผลกระทบตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่หนทางแก้ไขมีอยู่และเรียกร้องกันมานานให้มีการเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ออกไปและค่อยๆขึ้นภาษีแทนที่จะขึ้นพรวดเดียวแบบก้าวกระโดด
แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่ได้ใส่ใจและให้ความสำคัญกับเกษตรกรกลุ่มนี้เท่าไหร่ ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ารัฐบาลจะหันมาสนใจชาวไร่ยาสูบหรือไม่ หรือต้องเผชิญชะตากรรมต่อไปแบบไม่มีอนาคต ประกอบกับสถานการณ์จากไวรัสโควิด-19 ทำให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจทุกตัวดับวูบ ยามนี้จึงต้องทำให้ทุกคนมีสตางค์ในกระเป๋า เพื่อจับจ่ายใช้สอย และชำระหนี้สินให้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แต่ดูเหมือนรัฐกำลังทำสวนทาง เตรียมขึ้นภาษีระลอกใหม่ดึงสตางค์จากคนสูบบุหรี่ก็ไม่เท่าไหร่ แต่มากระทบสตางค์และรายได้ของชาวไร่ที่ลำบากอยู่แล้ว รายได้ของชาวไร่ที่ต้องทำงานทั้งวันอาจเทียบได้กับค่ากาแฟแบรนด์หรูหนึ่งแก้วที่พนักงานบริษัทซื้อกินในแต่ละวัน แล้วชาวไร่เหล่านี้จะรู้สึกอย่างไร
ณ นาทีนี้ วิธีการช่วยเหลือที่รัฐบาลสามารถทำได้ทันที เช่น การเลื่อนการขึ้นภาษียาสูบ 40% ออกไปก่อนเพื่อนเป็นการสร้างความสบายใจให้กับเกษตรกรชาวไร่ ว่าจะยังคงมีอาชีพมีสตางค์ในกระเป๋า จะสร้างขวัญและกำลังใจ และลดกระแสแรงเสียดทานรัฐบาลได้อีกโข

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี