วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพุธ ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร หลังวิกฤติโควิด-19 จบลง?

ดูทั้งหมด

  •  

ดังที่ได้ชวนท่านผู้อ่าน “คิดอ่าน” แนวโน้มทิศทางความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก หลังวิกฤติิโควิด-19 ผ่านไป


ไม่ว่าจะในบริบทโลกและสังคมไทย หลายอย่างจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

แม้วิกฤติิครั้งนี้ จะไม่ใช่อุกกาบาตพุ่งชนโลก

ไม่ใช่สงครามโลก

แต่ได้ทำให้ประชาชนในโลก “ทุกคน” ได้รับผลกระทบ และต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตนเองไปหลายระดับ

ฉะนั้น เมื่อผ่านวิกฤติิไป สังคมโลก เศรษฐกิจโลก พฤติกรรมผู้บริโภค จะเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนวิกฤติิโควิด-19 อย่างแน่นอน

อาจจะเรียกว่า “ยุคหลังโควิด-19”

ใครคิดทัน รู้ทัน วางแผนทัน ย่อมจะรับมือ หรือแม้แต่ช่วงชิงโอกาสในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จหลังจากนี้ได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ทันได้เตรียมตัวอย่างแน่นอน

วันนี้ ขออนุญาตแบ่งปันมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อเขียนจากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคุณสุพริศร์ สุวรรณิก ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ว่าด้วยเรื่อง “โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร หลังวิกฤติโควิด-19 จบลง?”

มีข้อมูล และมุมมอง น่าสนใจมาก บางตอนว่า

....

“เมื่อวิกฤติิครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว โลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร...

1. การทวนกระแสโลกาภิวัตน์ (deglobalization) จะมีความเข้มข้นมากขึ้น และทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก่อนเกิดวิกฤติครั้งนี้ เราได้เห็นหลายประเทศใช้นโยบายแบบเน้นตนเอง (inward-looking policy) หรือปกป้องทางการค้า(protectionism) อย่างชัดเจนกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะจากสงครามการค้าที่ปะทุขึ้นโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ส่งเสริมให้บริษัทสัญชาติอเมริกันกลับมาผลิตในประเทศมากขึ้นและกีดกันการค้าจากต่างประเทศ

ประเด็นนี้ กลับมาชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกด้วยวิกฤติโควิด-19 ที่กำลังตอกย้ำความเชื่อของฝ่ายขวาจัดและผู้ไม่สนับสนุนโลกาภิวัตน์ว่า การพึ่งพิงระบบการผลิตระหว่างประเทศมากเกินไปเป็นเรื่องอันตราย ซึ่งจะเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลกที่มีอยู่แล้วให้ยิ่งรวดเร็วมากขึ้น

กล่าวคือ ประเทศต่างๆ จะหันมาพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในประเทศตนเองเพิ่มขึ้นอีก และกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตและขายสินค้าโดยไม่พึ่งพาแต่ประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น เพราะเห็นผลกระทบชัดเจนจากขั้นตอนการผลิตหรือตลาดขายสินค้าเมื่อยามที่ต้องปิดตัวลง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการต่างๆ อาทิ การปิดเมืองหรือประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ รัฐบาลประเทศต่างๆ อาจเปลี่ยนวิกฤติครั้งนี้ให้เป็น “โอกาส” ในการคิดทบทวนอย่างรอบคอบว่านโยบายเศรษฐกิจของประเทศจะเดินไปในทิศทางใด โดยจะพยายามกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโดยไม่พึ่งพารายได้ทางใดทางหนึ่งจนเกินไป อาทิ ไม่พึ่งพาแต่การส่งออกหรือการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่อาศัยการบริโภคและการลงทุนในประเทศเป็นเครื่องจักรสำคัญด้วย

2. ปัญหาเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข จะได้รับการแก้ไขให้ทั่วถึงและเสมอภาคมากขึ้น

วิกฤติโควิด-19 สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลหลายประเทศหันมาใส่ใจพื้นฐานด้านสาธารณสุขของประชาชนและไม่ปล่อยให้กลไกตลาดเป็นตัวจัดการอย่างที่เคยเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ ที่ระบบสาธารณสุขไม่มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า

วิกฤติครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าการที่บุคคลจะเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้หรือไม่นั้น ไม่ควรเป็นเรื่องของปัจเจกชนอีกต่อไป เพราะคนคนหนึ่งที่จริงๆ แล้วเป็นพาหะของโรคอยู่ แต่ไม่สามารถไปใช้บริการตรวจไวรัสได้เพราะจ่ายเงินค่าตรวจไม่ไหวทั้งๆ ที่อยากไป และคงใช้ชีวิตแบบเดิมตามปกติ ทำให้แพร่โรคระบาดต่อไปให้ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวได้ จนในที่สุดการควบคุมโรคในภาพรวมจะทำได้ยากลำบาก และเป็นเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดหนักหนากว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ดังที่ปรากฏในปัจจุบันตามยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแซงหน้าอิตาลีไปแล้วดังนั้น หลังผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ เราอาจได้เห็นบทบาทที่เพิ่มขึ้นของระบบรัฐสวัสดิการในแต่ละประเทศก็เป็นได้

3. สังคมจะก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

ทุกวิกฤติย่อมทิ้งร่องรอย (legacy) ไว้เสมอ

ย้อนกลับไปในสมัยการระบาดของโรคซาร์สในปี 2545 ก็สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการใช้เทคโนโลยีออนไลน์อย่างอีคอมเมิร์ซในจีนให้มาเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะอาลีบาบาและเจดีดอทคอม เพราะผู้คนหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากพื้นที่สาธารณะและหันมาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น

มาถึงวิกฤติครั้งนี้ก็จะทิ้งร่องรอยไว้เช่นกัน

โดยเป็นการตอกย้ำให้ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าแบบดั้งเดิมต้องเร่งพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อช่วงชิงตลาดจากการค้าขายแบบออนไลน์มากขึ้นอีก

รวมทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลหลายประเภทที่มีมานานแล้วแต่ยังไม่มีคนใช้กันมากนัก วิกฤติครั้งนี้กลับบังคับให้คนต้องหันมาใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างจริงจัง และสร้างโอกาสต่อยอดให้มีผู้เล่นในตลาดมากยิ่งขึ้น อาทิ แพลตฟอร์มที่ช่วยสื่อสารทางไกล จัดประชุม หรืออีเวนท์ ซึ่งผู้บริโภคจะเกิดความคุ้นเคยและเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้เทคโนโลยีอย่างถาวร

นอกจากนี้ แม้กระทั่งสถาบันการศึกษา ก็ต้องพัฒนาไปใช้วิธีการสอนแบบออนไลน์ทดแทนทั้งหมดในช่วงวิกฤติ ซึ่งอาจพลิกโฉมระบบการศึกษาโลกไปโดยสิ้นเชิงหลังผ่านพ้นวิกฤติแล้ว

และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผู้คนอาจจะกลัวการใช้เงินสดหรือธนบัตร เพราะกระดาษอาจเป็นพาหะของเชื้อโรคได้แม้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปแล้ว และจะเริ่มคุ้นชินกับการรักษาสุขอนามัยอย่างเข้มงวดไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพ ด้วยปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นได้”

….

ข้อมูลและมุมมองข้างต้นนั้น น่าสนใจมาก และไม่ใช่สิ่งที่เกินเลย

มีโอกาสเป็นไปได้สูง และอาจเปลี่ยนแปลงไปไกลกว่ากว่านั้นเสียอีก

เอาง่ายๆ

ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน จะล้มหายตายจาก กี่ราย?

ธุรกิจสายการบิน จะล้มหายตายจาก หรือเปลี่ยนมือเปลี่ยนเจ้าของไปกี่ราย?

ธุรกิจในทุกวงการ ล้วนได้รับผลกระเทือนทั้งนั้น

และเมื่อสนามแข่งขันเปิดกว้าง เพราะผู้บริโภคมี “ค่านิยม-พฤติกรรม” แบบใหม่ มันจึงเสมือนการ “เริ่มต้นใหม่” สำหรับการแข่งขันในทางธุรกิจใครจะตอบโจทย์ผู้บริโภค “ยุคหลังโควิด-19” ได้ตรงเป้ากว่ากัน

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:02 น. 'ราชภัฏบุรีรัมย์'แปรอักษร น้อมรำลึก'สมเด็จพระพันปีหลวง'
21:35 น. พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม
21:07 น. รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง
20:44 น. เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม
20:34 น. 'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'
ดูทั้งหมด
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
'กรณ์ ณรงค์เดช'หลั่งน้ำตา! กอดคุณพ่อเกษมดีใจชนะคดี
บุกจับ2วัยรุ่นสร้างตัว เปิดเหมืองบิทคอยน์ซุก'สวนมะพร้าวบ้านแพ้ว' โกงไฟหลวงมหาศาล
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
เปิดคำสารภาพ‘เขมรเถื่อน’ กลับบ้านตามคำท่านผู้นำ อดอยาก-ไร้เงิน เสี่ยงแอบเข้าไทย
ดูทั้งหมด
ระวังการส่งออกเทียม
บุคคลแนวหน้า : 15 พฤศจิกายน 2568
ตำรวจกับโจร โจรกับตำรวจ
สงครามกับสันติ : ทรัมป์จะไปทางไหน?
ลิ้นสองแฉก
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม

'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'

EOD ตชด.22 ร่วมทหาร เร่งตรวจสอบ-ทำลายวัตถุระเบิดตกค้างกลางทุ่งนา พื้นที่หมู่บ้านชายแดน

ทบ.แฉอีก! 'ช่องอานม้า'พบอีก 2 ทุ่นใหม่ รุกล้ำ-ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ส่อเจตนาชัดเจน!

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่าย คนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน

ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์ 4,730 ล้าน พบมีคดี'อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง-เว็บพนัน-แก๊งคอลฯ'

  • Breaking News
  • \'ราชภัฏบุรีรัมย์\'แปรอักษร น้อมรำลึก\'สมเด็จพระพันปีหลวง\' 'ราชภัฏบุรีรัมย์'แปรอักษร น้อมรำลึก'สมเด็จพระพันปีหลวง'
  • พิษน้ำท่วม! \'ผักชี\'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม
  • รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง
  • เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม
  • \'ธัญญ่า อาร์สยาม\'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ\'หมอนรองกระดูกฉีกขาด\' 'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

คนละครึ่งพลัส สุดปัง  ฝ่ายค้าน สุดพัง

คนละครึ่งพลัส สุดปัง ฝ่ายค้าน สุดพัง

14 พ.ย. 2568

จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก  รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน

จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน

13 พ.ย. 2568

เริ่มปฏิบัติการทางทหาร !!!

เริ่มปฏิบัติการทางทหาร !!!

12 พ.ย. 2568

ผายลมเรื่องไม่มีชายชุดดำ

ผายลมเรื่องไม่มีชายชุดดำ

11 พ.ย. 2568

ล้มประชุมอาเซียน  ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง

ล้มประชุมอาเซียน ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง

10 พ.ย. 2568

ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี  คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?

ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?

7 พ.ย. 2568

เดินหมากทีละตา  ลำดับความสำคัญ

เดินหมากทีละตา ลำดับความสำคัญ

6 พ.ย. 2568

อย. = อำนาจ และผลประโยชน์  ใครตรวจสอบ อย.?

อย. = อำนาจ และผลประโยชน์ ใครตรวจสอบ อย.?

5 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved