วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพุธ ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
มหาวิกฤติเศรษฐกิจไทย บนเส้นด้ายเศรษฐกิจโลก

ดูทั้งหมด

  •  

31 มี.ค. Goldman Sachs คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัว 1.8% ในปีนี้

หนักหนาสาหัสกว่าวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งไหนๆ


นี่คือมหาวิกฤติเศรษฐกิจไทย บนเส้นด้ายของเศรษฐกิจโลก

1. พิษร้ายจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบในรูปของการหยุดชะงักอย่างฉับพลัน (sudden stop) ของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อรายได้ของผู้คน สืบเนื่องจากการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค เช่น การปิดเมือง ปิดประเทศในหลายประเทศ ฯลฯ กระทบต่อความเชื่อมั่นที่ลดลงเนื่องจากไม่มั่นใจในอนาคตที่ไม่แน่นอน ผลกระทบจึงกว้างขวาง ลึก และรวดเร็วเฉียบพลัน ทั่วโลก

2. เศรษฐกิจไทยกระเทือนหนักหนาสาหัส เพราะเราพึ่งพารายได้จากการส่งออกมากถึง 58% และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 12% ของ GDP

ขณะที่ประเทศจีน สหรัฐ อียู ฯลฯ กลุ่มประเทศแหล่งรายได้สำคัญของไทยเรา อาการโคม่าทั้งนั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยเรามีภัยแล้ง และภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงสะสมอยู่ก่อนแล้วด้วย

3. รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการการคลังสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่า
2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ครอบคลุมการจ่ายเช็คเงินสดให้ประชาชน (บางกลุ่ม) รายละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ

จัดสรรเงินกู้แก่ภาคธุรกิจขนาดย่อม วงเงิน 3.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ธนาคารกลางสหรัฐขยายมาตรการ QE เพิ่มเติมโดยไม่จำกัดวงเงิน (Unlimited) รวมถึงขยายประเภทหลักทรัพย์ที่จะเข้าซื้อไปยังตราสารหนี้เอกชน พันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (MBS) อีกทั้งเพิ่มวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ และการเข้าซื้อกองทุน ETFs

4. ในยุโรป ล่าสุด นาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
ระบุว่า ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาโรคระบาดอย่างทั่วหน้ากัน ดังนั้น จำเป็นที่ทุกคนรวมถึงเยอรมนี ต้องร่วมมือกันให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีเพียงเป้าหมายเดียวคือ “More Europe a stronger Europe and a well-functioning Europe.”

เป็นการแสดงท่าทีโอนอ่อนลงหลังจากที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธข้อเสนอของบางประเทศสมาชิกที่ต้องการให้ออก joint debt instrument เพื่อใช้สนับสนุนทางการเงินให้แก่ประเทศสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างรุนแรง

คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) กำหนดประชุมร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกภายใต้สถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 และอาจนำไปสู่การใช้มาตรการ “state-sponsored wage support system” (รัฐอุดหนุนเงินค่าจ้างเอกชน) ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักที่ทางเยอรมนีมักนำมาใช้เพื่อดูแลตลาดแรงงานภายใต้สถานการณ์วิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศ

5. สิงคโปร์ จะใช้เงินราวๆ 30,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 8.9% ของจีดีพี เพื่อดูแลวิกฤติเศรษฐกิจ

พนักงานเอกชน จะได้รับเงินชดเชยค่าจ้างเป็นจำนวนสูงถึง 75% โดยจะเริ่มในเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป การช่วยเหลือเงินชดเชยค่าจ้างในส่วนนี้จะนับที่ค่าเงินเดือนเฉลี่ยของคนสิงคโปร์ที่ 4,600 ดอลลาร์ หรือประมาณ 100,000 บาท อยู่ในแผนงบประมาณของสิงคโปร์ที่เรียกว่า “Solidarity Budget”

นอกจากนี้ ยังมีการแจกเงินให้แก่ประชาชน รายละ 417.7 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,688 บาท)

6. ประเทศไทย ล่าสุด รัฐบาลเตรียมมาตรการชุดที่สาม มูลค่ากว่า1.9 ล้านล้านบาท

หรือราวๆ 11% ของจีดีพี

รายละเอียดจะได้กล่าวถึงในโอกาสต่อไป

7. ข้อมูลและมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำนักวิจัยกรุงศรี ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ Research Intelligence ประจำเดือนเมษายน ในหัวข้อ COVID-19 Impact on the Thai Economy and Vulnerability of Thai Firms ผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยและความเปราะบางของบริษัทไทย ซึ่งสำนักข่าวไทยพับลิก้าได้แปลมานำเสนอไว้อย่างน่าสนใจ บางตอนระบุว่า

“...วิจัยกรุงศรีได้ประเมินผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 และได้ข้อสรุปว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าที่เคยประเมินไว้ และจากการวิเคราะห์ลงไปในระดับบริษัทด้วยการใช้ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ 747,390 บริษัทในประเทศ เพื่อดูผลกระทบให้ลึกลงไป จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยลดลง 60% และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก 2 เดือนติดต่อกัน ก็พบว่า จะสร้างปัญหาสภาพคล่องให้กับ 90,000 บริษัท กลุ่มที่เปราะบางต่อการขาดสภาพคล่องมากที่สุด คือ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ตามมาด้วยกลุ่มขนส่งทางอากาศรายเล็ก ผู้ประกอบการโรงแรม อีกทั้งบริษัทขนาดเล็กเปราะบางกว่ากลุ่มอื่นๆ

ส่วนบริษัทขนาดใหญ่นั้น กลุ่มร้านอาหาร ดีลเลอร์รถยนต์ และโรงแรม มีความเสี่ยงต่อการระบาดมากกว่า จึงมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้มากกว่าบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มอื่นๆ

โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจไทยต้องใช้เงินอย่างน้อย 1.7 ล้านล้านบาท อัดฉีดสภาพคล่องให้กับธุรกิจเพื่อให้รอดพ้นจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง…

...วิจัยกรุงศรีประเมินว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจะแตะระดับสูงสุดหรือพีค (peak) ในเดือนเมษายน แต่การระบาดยังต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ดังนั้น จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวยังคงอยู่ในระดับต่ำ กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศยังคงมีไม่มาก และอาจจะมีมาตรการควบคุมที่เข้มข้นมากขึ้นไปอีกในอีก 2 เดือนข้างหน้า

จากแบบจำลองที่ใช้ จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นเกือบ 20,000 รายในช่วงนั้น แต่หากมาตรการควบคุมไม่แรงพอ จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะเพิ่มสูงถึง 80,000 ราย และผลที่ได้จากแบบจำลองการระบาดของไวรัสจะพีคในช่วงหลังของเดือนเมษายน และจะควบคุมได้ในสิ้นเดือนพฤษภาคม

การขาดตอนของอุปทาน (ปริมาณสินค้า) ในประเทศนำไปสู่อุปสงค์ (ความต้องการ) ที่อ่อนตัว ภาวะการชะงักงันด้านอุปทานจะส่งผลกระทบในวงกว้างไปยังด้านอุปสงค์ ลูกจ้างอาจจะมีรายได้น้อยลงหรืออาจจะถูกให้ออกจากงาน ส่วนผู้ค้าขายอิสระอาจจะไม่มีรายได้ เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะงัก และเมื่อสถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น ผลกระทบทางลบของตัวทวีคูณรายได้ (negative multiplier effect) จะเริ่มขึ้น และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจผ่านอุปทานและอุปสงค์ที่ลดลงและกระทบกันเป็นลูกโซ่ ทั้งนี้ เห็นได้จากการจ้างงานที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก...

....โดยรวมแล้ว การระบาดของโควิด-19 อาจจะส่งผลให้บริษัทในประเทศไทยต้องการสภาพคล่องระยะสั้นสูงถึง 1.7 ล้านล้านบาท หรือราว 10% ของจีดีพี ทั้งนี้ ประเมินจากจำนวนเงินที่จะไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ภายใน 1 ปีข้างหน้า หากไม่มีการปรับโครงสร้างหนี้และปรับโครงสร้างธุรกิจ บริษัทในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกแต่ละภาคธุรกิจต่างต้องการเงินราว 200,000 ล้านบาทเพื่อชำระหนี้ระยะสั้น ขณะเดียวกัน ธุรกิจโรงแรมธุรกิจการขนส่งทางอากาศ และธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด อาจจะต้องการเงิน 30,000-50,000 ล้านบาทเพื่อความอยู่รอด โดยรวมแล้วสัดส่วนเกือบ 60% ของบริษัทที่ประสบปัญหาจะต้องใช้เงินมากกว่า 1 ล้านบาทต่อราย

การระบาดใหญ่ทั่วโลกของไวรัสเริ่มมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลก ประเทศไทยได้รับผลกระทบรุนแรงมาก ไม่มีภาคธุรกิจใดไม่ได้รับผล ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการทำกำไรและรายได้ของบริษัทลดลง และจะประสบปัญหาสภาพคล่องตึงตัว อันจะทำให้เศรษฐกิจไทยยิ่งดำดิ่งถดถอยมากขึ้นอีก

การวิเคราะห์ของวิจัยกรุงศรีพบว่า เฉพาะภาคธุรกิจในระบบต้องการเงินจำนวน 1.7 ล้านล้านบาท เพื่อรอดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ หากรวมเศรษฐกิจนอกระบบและภาคครัวเรือนเข้าไปด้วย ก็จะต้องใช้เงินมากกว่านี้มากเพื่อป้องกัน
ไม่ให้เศรษฐกิจไทยทรุดหนักจากการระบาดของไวรัส...”

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:00 น. ธปท.เผยQ3ศก.ติดลบ0.5% เล็งผ่อนคลายนโยบายการเงินช่วยพยุง
06:00 น. ‘MOUSE’ ซีรีส์เวอร์ชั่นไทย สุดปัง! คว้าซีรีส์ยอดเยี่ยม
06:00 น. รถEVดันยอดผลิตพุ่ง หลายค่ายแห่หั่นราคาแข่งกันขาย
06:00 น. ‘เอ๊ะ อิศริยา’ผุดโปรเจกต์ วิดีโอพอดแคสต์ ‘คนโสด’ เปิดตัวรายการ ‘โสดโซไซตี้ (Single Society)’
06:00 น. ‘Meyou’ คว้า Shining Artist of The Year จาก JTMN2025!
ดูทั้งหมด
‘เกาหลีใต้’บอมบ์‘ฮุน มาเนต’กลางวงทูตทั่วโลก หมดสภาพผู้นำ
'สนามบินเตโช'มีผู้โดยสารเทียบเท่า'สุวรรณภูมิ' 2พ่อลูกตระกูลฮุนยันไม่ได้กู้เงินจีนสร้าง
ลดราคาดีเซล 50 สตางค์/ลิตร-เบนซิน 30 สตางค์/ลิตร มีผลพรุ่งนี้
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 19 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ฟ้าผ่าบอลไทย! ปลด'อิชิอิ'พ้นกุนซือช้างศึก
ดูทั้งหมด
‘ฟ้ากับเหว’นายกฯหญิงญี่ปุ่นกับ‘2 นายกฯหญิงตระกูลชิน’
ทีมผู้คิด ผู้ทำ ของนายกรัฐมนตรี
แพแตกหรือไม่?
เพื่อไทยเปลี่ยนหัว ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?
บุคคลแนวหน้า : 23 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'พ่อค้าหมูปิ้ง-ไก่ปิ้ง'สบายใจ! 'จักรพล'กาง'พรบ.อากาศสะอาด'เน้นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

พ่อเมืองโคราช ปลุกเสก 'กล้วยหอมทอง' กว่า 30 ตัน ส่งมอบให้ทหารชายแดน

'กันจอมพลัง'เผยเปลี่ยนข้อบังคับถ้าเลิกมูลนิธิ ให้ทรัพย์สินเป็นของมูลนิธิอื่นที่น่าเชื่อถือ

โวย‘ค่าอาหารแพง’! นทท.โพสต์ร้องเรียน ‘นอภ.บ่อเกลือ’รุดตรวจสอบ กำชับแนวปฏิบัติ

'กรณ์'ชี้'วรภัค'ลาออกเรื่องไม่จบ ถ้าไม่ไล่ล่าสแกมเมอร์ ลั่นเรื่องด่วนกว่านี้ไม่มีแล้ว

หนักสุดในรอบ20ปี! น้ำป่าจากเทือกเขาหลัก-เขาโตนถล่ม ถนนเพชรเกษมถูกตัดขาด

  • Breaking News
  • ธปท.เผยQ3ศก.ติดลบ0.5% เล็งผ่อนคลายนโยบายการเงินช่วยพยุง ธปท.เผยQ3ศก.ติดลบ0.5% เล็งผ่อนคลายนโยบายการเงินช่วยพยุง
  • ‘MOUSE’ ซีรีส์เวอร์ชั่นไทย สุดปัง! คว้าซีรีส์ยอดเยี่ยม ‘MOUSE’ ซีรีส์เวอร์ชั่นไทย สุดปัง! คว้าซีรีส์ยอดเยี่ยม
  • รถEVดันยอดผลิตพุ่ง หลายค่ายแห่หั่นราคาแข่งกันขาย รถEVดันยอดผลิตพุ่ง หลายค่ายแห่หั่นราคาแข่งกันขาย
  • ‘เอ๊ะ อิศริยา’ผุดโปรเจกต์ วิดีโอพอดแคสต์ ‘คนโสด’  เปิดตัวรายการ ‘โสดโซไซตี้ (Single Society)’ ‘เอ๊ะ อิศริยา’ผุดโปรเจกต์ วิดีโอพอดแคสต์ ‘คนโสด’ เปิดตัวรายการ ‘โสดโซไซตี้ (Single Society)’
  • ‘Meyou’ คว้า Shining Artist of The Year จาก JTMN2025! ‘Meyou’ คว้า Shining Artist of The Year จาก JTMN2025!
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทยเปลี่ยนหัว  ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?

เพื่อไทยเปลี่ยนหัว ยกเครื่อง หรือศัลยกรรมการเมือง?

23 ต.ค. 2568

พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ สำเร็จได้  สส.ทุกพรรค และสว.เห็นชอบ

พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ สำเร็จได้ สส.ทุกพรรค และสว.เห็นชอบ

22 ต.ค. 2568

มะเร็งร้าย คือ การบริหารจัดการที่ไม่รับผิดชอบ

มะเร็งร้าย คือ การบริหารจัดการที่ไม่รับผิดชอบ

21 ต.ค. 2568

กรณี รพ.มงกุฎวัฒนะ  ตอกย้ำความอัปยศของระบบประกันสุขภาพ  ซุกขยะใต้พรม

กรณี รพ.มงกุฎวัฒนะ ตอกย้ำความอัปยศของระบบประกันสุขภาพ ซุกขยะใต้พรม

20 ต.ค. 2568

ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ  ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม

ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม

17 ต.ค. 2568

นักสิทธิฯ เพื่อใคร?

นักสิทธิฯ เพื่อใคร?

16 ต.ค. 2568

คนละครึ่ง พลัส กับ แก้รัฐธรรมนูญ  ใครได้ประโยชน์?

คนละครึ่ง พลัส กับ แก้รัฐธรรมนูญ ใครได้ประโยชน์?

15 ต.ค. 2568

หนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ราคาของการหาเสียงการเมือง ราคาของความล่าช้า

หนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ราคาของการหาเสียงการเมือง ราคาของความล่าช้า

14 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved