“เศรษฐกิจพอเพียง...จะทำความเจริญให้แก่ประเทศได้ แต่ต้องมีความเพียรแล้วต้องอดทน ต้องไม่ใจร้อน ต้องไม่พูดมาก ต้องไม่ทะเลาะกัน ถ้าทำโดยเข้าใจกัน เชื่อว่าทุกคนจะมีความพอใจได้...” พระราชดำรัสใน “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”...nn “ไม้หน้าสาม” ขอเริ่มต้นเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงคอลัมน์ “บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา ฉบับนี้ ด้วยการอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสศาสตร์พระราชาบนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักชัย เรียกร้องให้ “รัฐบาลเรือแป๊ะ” เร่งหามาตรการและแนวนโยบายเศรษฐกิจมาพลิกฟื้นความเป็นอยู่ของคนไทยและสถานะประเทศหลังจากต้องต่อสู้กับเชื้อไวรัสร้าย “โควิดไนน์ทีน”มานานกว่า 3 เดือน จนสถานการณ์ในประเทศส่งสัญญาณดีขึ้นแถมมีปัจจัยบวกจากภายนอกเอื้อประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยยามนี้โดยความยกย่องของต่างชาติที่มีต่อวงการสาธารณสุขไทยจนยกให้เป็นที่หนึ่งของโลก..
nn “ไม้หน้าสาม” ปลื้มปีติมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ทราบว่า “Marketing insider” สำนักข่าวต่างประเทศ เสนอข่าวว่า โลกใบนี้จะเปลี่ยนไปจากเดิมโดย “มหาเศรษฐี อย่าง Ray Dalio-เรย์ ดาลิโอ” ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและผู้ใจบุญที่ทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนร่วมของ Bridgewater Associates ตั้งแต่ปี 1985 โดย เขาก่อตั้ง Bridgewater ในปี 1975 ในนิวยอร์ก ทว่า สิบปี ต่อมากองทุนนี้ได้รับเงินลงทุน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ จากกองทุนบำเหน็จบำนาญของธนาคารโลก และมีประวัติยอดเยี่ยมด้านการเงินระดับโลกเชื่อว่า ในที่สุดการระบาดของ “เชื้อไวรัสโควิดไนน์ทีน” จะกระตุ้นการออมเงินและผลักดัน “ความพอเพียงและพึ่งพาตนเอง” คำพูดของบุคคลผู้นี้มีน้ำหนักไม่น้อย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สื่อทีวีไทยเสนอข่าวกรณี สวิตเซอร์แลนด์ อัญเชิญภาพธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเขา Matterhorn พร้อมประกาศ “เราจะสู้โควิด-19 ไปด้วยกัน”...
nn “เรากำลังก้าวไปสู่โลกแห่งความพอเพียง” เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดที่ปฏิบัติได้จริงไม่ใช่วาทกรรม ทว่าเป็นการตกผลึกจากประสบการณ์ส่วนพระองค์ที่ทรงศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดินและน้ำมาประยุกต์กับเรื่องเศรษฐศาสตร์ ออกมาเป็น “เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่” ที่มุ่งเน้นให้ประชาชน สามารถอยู่รอดได้ ในสภาพที่โลกมีความเปลี่ยนแปลงสูง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระอัจฉริยภาพมีพระเนตรพระกรรณกว้างไกลหลักแหลมทางปรัชญาสังคม มีความเข้าใจ ถึงจุดอ่อนของแนวคิด “ทุนนิยม และ สังคมนิยม” อย่างถ่องแท้ เรียกได้ว่า หากพระองค์ทรงประสูติยุคเดียวกับ “เพลโต โสเครติส”หรือแม้แต่ “คาร์ล มาร์กซ์” บิดาของระบอบสังคมนิยม ก็คงมีโอกาสได้ เห็นพระองค์ทรงวิพากษ์ปรัชญาทางสังคมได้อย่างหลักแหลมถ่องแท้...
nn“ไม้หน้าสาม และเราทั้งหลาย” จักพบว่า ทุนนิยมสุดโต่งที่มีแนวคิด“ทุนทำมากได้มากทำน้อยได้น้อย” ผลประโยชน์จึงตกอยู่กับผู้มีโอกาสและผู้ที่ขยัน เต็มไปด้วยการแข่งขันมี “ผู้แพ้และตายไป” กลายเป็นการ “ทอดทิ้งผู้ที่อ่อนแออยู่เบื้องหลัง”...
nn ขณะที่ “สังคมนิยม” สุดโต่ง ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมที่มีจำกัดเท่าๆ กัน แต่ “ความเท่าเทียมกัน” อย่างสุดโต่งแม้มีความมั่นคงมาก แต่ในบางกรณีก็ทำให้ขาดความหลากหลายของสังคม กลายเป็นความอึดอัดของประชาชน ซึ่งกลายเป็นจุดอ่อนไป กลับกัน “เศรษฐกิจพอเพียง” คือ “ทางสายกลาง - มัชฌิมาปฏิปทา หมายถึง อริยมรรคมีองค์ 8” หรือที่เรียกอย่างย่นย่อว่า “ไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา” เป็นทฤษฎีที่ดำรงอยู่ระหว่าง “ทุนนิยม และ สังคมนิยม” ที่นำเอาข้อดี ของทั้งสองมาผนวกให้กลมกล่อม “เศรษฐกิจพอเพียง”จึงหมายถึง“การพึ่งพาตนเอง” แต่ไม่ใช่การอยู่ถ้ำปิดตาไม่พบใคร “การพึ่งพาตนเอง” นั้นคือ “การรู้จักธรรมชาติ น้ำ และดิน” พึ่งพาการผลิตทางการเกษตรที่มองเห็น “การหมุนเวียนพลังงานอย่างประณีต หรือเกษตรทฤษฎีใหม่” ทำให้เกิดผลิตผลที่หลากหลาย และมีการผลิต อย่างสมเหตุสมผล ไม่เทไปที่ผลิตผลใดผลิตผลหนึ่ง เมื่อเกิดการเหวี่ยงของราคาสินค้า ผลิตผลอื่นก็ยังสามารถช่วยเหลือให้รอดได้ และเมื่อผลิตได้มากเกินความจำเป็น ก็ยังจำหน่ายแบ่งปันให้คนในสังคมได้กลายเป็น “ความมั่นคงทางอาหาร” หากผู้คนในสังคมทำ “เศรษฐกิจพอเพียง” กันมาก เราก็ยิ่งมีของแบ่งปันจุนเจือผู้คนในสังคมได้มากถึงจุดนั้นประชาชนในชาติจะไม่มีวันขาดอาหาร เพราะ “ประเทศกูมีตู้เย็นธรรมชาติ” มีสวนอยู่หลังบ้านเก็บกินได้ตลอด เหลือก็ขายทำเงินเอามาพัฒนาต่อ และเราสามารถประยุกต์ใช้ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ในรูปแบบธุรกิจอื่นได้ ตราบใดที่ยังใช้ “ทฤษฎี 3 ห่วง” คือ ความพอประมาณ, การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว, ความมีเหตุผล 2 เงื่อนไข (ความรู้ และคุณธรรม) สร้างความมั่นคงภายในหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคม ก็คือตัวท่านทั้งหลายฉะนั้น “เมื่อมั่นคง จึงจุนเจือ แบ่งปัน” หัวใจของมันจึงมาจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชน ที่ช่วยเหลือกันจึงจะไปกันรอดได้ทั้งนั้น รักสามัคคีร่วมแรงร่วมใจคือทางออกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและอยู่รอดอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เหมือนอย่างที่ทหารแก่ผู้นำการบริหารราชการแผ่นดินพยายามประดิษฐ์วาทกรรม “เราจะไม่ทิ้งกัน” มาโดยตลอด “ไม้หน้าสาม” เชื่อมั่นและเขียนบอกเล่าให้เข้าปัญญาทหารแก่ผู้บริหารประเทศมามากครั้งหลายหนว่าโลกนับจากนี้อยู่ได้และจะเป็นพี่เต้ยเป็นเสือตัวใหม่ “ด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยศาสตร์พระราชา บนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เท่านั้น ถ้า “ทหารแก่ผู้บริหารประเทศ”คิดไม่เป็นคิดไม่ได้ “ทีมไทยแลนด์ก็ไม่มีความหมายที่ทรงคุณค่า” นอกจากเรื่องเล่าขานที่เหมือนจะเป็นตำนาน อันทรงคุณค่าของโลกในอนาคต ที่ไม่สามารถย้อนเวลามาลงมือกระทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ “ประเทศชาติ... ประชาชน” ได้...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” มีข่าวดีมาฝากเหล่าบัณฑิตไม่จำกัดสาขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพหลากหลาย “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เตรียมเปิดให้บัณฑิตผู้ใฝ่รู้และพร้อมพัฒนาตนเองเพื่อเป็นกำลังหลักของสังคมในระดับสากล สมัครเข้าศึกษาต่อในสาขา“แพทยศาสตรบัณฑิต” (หลักสูตรนานาชาติ หรือ CU-MEDi(Doctor of Medicine - International Program) หลักสูตรใหม่ล่าสุดที่จัดขึ้นเป็น “แห่งแรกในประเทศไทย”)ร่ำเรียนอีก 4 ปี เพื่อเป็น “แพทย์วิชาชีพในศตวรรษที่ 21”สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายวิชาการ คณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ เว็บไซต์ https://www.md.chula.ac.th/en/cu-medi-doctor-of-medicine-international-program/ หรือทาง Email: cu-medi@chula.md ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. ได้ทุกวันเว้นวันหยุดราชการ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี